หลังจากสร้างกระแสคู่จิ้นระหว่าง โป๊ป ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ - มิว นิษฐา จิรยั่งยืน ไว้ได้อย่างสวยงามในละครเรื่อง คุณชายปวรรุจ “คิง สมจริง ศรีสุภาพ” ผู้จัด-ผู้กำกับฯ แห่งค่ายกู๊ด ฟีลลิ่ง ก็จับคู่นี้มาฟินกันต่อในละครเรื่อง“รักออกฤทธิ์” ซึ่งเป็นเรื่องที่พล็อตขึ้นมาใหม่โดย นิตินันท์/วรรณพร/นิพล และบทโทรทัศน์โดย สมภพ ผูกพันน้อย เนื้อหาของเรื่องนี้จะพูดถึงเรื่องของ "ดวง" ที่ค่อนข้างจะผูกพันธ์ใกล้ชิดกับคนไทยเป็นอย่างมาก ละครจะตั้งคำถามกับคนดูว่า ความจริงแล้ว "ดวง" สามารถกำหนดชะตาชีวิตของคนเราได้จริงหรือ? หรือการกระทำของเราต่างหาก ที่จะเป็นผู้กำหนดชีวิตของเราเอง!!! โดยถ่ายทอดผ่านตัวละครของพระเอก-นางเอก ที่ถูกคนอื่นตัดสินด้วยเรื่องของดวงเช่นกัน และเมื่อ "ผู้หญิงดวงกินผัว" ต้องมาเจอกับ "หนุ่มตัวซวย" ทั้งคู่จึงต้องจับมือกันพิสูจน์ความจริงในข้อนี้ให้ได้
และการพิสูจน์ความจริงก็นำมาซึ่งการคลี่คลายปมปัญหาการตายของบรรดาเหล่าสามีของนางเอก ทำให้ละครเรื่องนี้ดำเนินเรื่องไปอย่างสนุกสนาน ตื่นเต้น ครบรสไม่ว่าจะเป็นคอเมดี้ ดราม่า หรือโรแมนติก และยังสอดแทรกเรื่องราวของธรรมะ รวมถึงข้อคิดดี ๆ เข้าไปอีกด้วย
หนุ่มโป๊ป พูดถึงคาแรกเตอร์ "โจ ตัวซวย"ว่า "เรื่องนี้ผมเป็นผู้ชายที่ถูกเรียกว่าเป็นตัวซวย อยู่กับใครก็พาเค้าซวย พาเค้าตายกันหมด "โจ" ก็เลยพยายามจะพิสูจน์ให้ได้ว่าตัวเองไม่ใช่ตัวซวย อย่างที่ถูกทุกคนตราหน้าเอาไว้ ในเรื่องผมจะมีอาชีพเป็นนักสืบ ที่ต้องตามสืบเรื่องราวชีวิตของนางเอก ที่มีปัญหาชีวิตคล้าย ๆ กันคือ ถูกหาว่า เป็นผู้หญิงกินผัว แต่งงานกับใครก็ตายหมด ไม่อยากพูดเยอะ ไปลุ้นในละครดีกว่าครับ”
ด้านสาวมิว นิษฐา พูดถึง คาแรกเตอร์ “วนิษา” ว่า “เป็นหญิงสาวที่ถูกดวงกำหนดชะตาเอาไว้ว่า “ผู้หญิงกินผัว” ทำให้ทั้งเรื่องต้องแต่งงานหลายครั้งมาก รวม ๆ แล้วก็ 5 ครั้งเลยนะ ตอนแรกที่เห็นเรื่องย่อก็แอบหนักใจนะ เหมือนว่าเรื่องมันจะแรง กลัวตัวเองจะทำไม่ได้ แต่พี่คิง อยากให้มิวลองดู และเนื้อเรื่องจริง ๆ มันก็ไม่แรงอย่างที่คิด กลับสนุกมากกว่า”
นอกจากนี้ “รักออกฤทธิ์” ยังมีนักแสดงหน้าใหม่มาให้ได้แจ้งเกิดอีก 2 คน เรียกว่าเป็นพระเอกนางเอกคู่เล็กที่น่ารักน่าเอ็นดูไม่เบาทีเดียว สำหรับ เจมส์-ภูวดล เวชวงศา และ ดาร์ลิ่ง-อารดา อารยวุฒิ ร่วมด้วยนักแสดงคุณภาพชื่อดังอีกมากมาย อาทิ ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ,อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล,สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ,สาวิตรี สามิภักดิ์,ณหทัย พิจิตรา,ภัสสร บุณยเกียรติ,รอง เค้ามูลคดี,อ้วน รีเทิร์น,ประกาศิต โบสุวรรณฯลฯ ติดตามชมละคร “รักออกฤทธิ์” ทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ หลังข่าวภาคค่ำ ทางช่อง 3 ( เริ่มออนแอร์วันแรก 17 พ.ค.นี้)
รักออกฤทธิ์
“โจ” (โป๊ป-ธนวรรน์) นักสืบหนุ่มเป็นที่รู้จักในวงการด้วยฉายาที่คนอื่นตั้งให้ว่า “โจตัวซวย” เพราะที่ผ่านมา โ จอยู่กับใครก็สร้างความบรรลัยให้คนที่เขาอยู่ด้วยเสมอ จนโจต้องออกมาอยู่เป็นเจ้านายตัวเองด้วยการเป็นนักสืบอิสระ โ จได้รับงานใหม่จาก“คุณหญิงจุ๋ม” (น้ำฝน- สรวงสุดา) ให้สืบคดีการถึงแก่กรรมของ “คุณชายแจ้” (กฤต-กฤตภาศ)น้องชายแท้ๆของเธอ ซึ่งผู้ต้องสงสัยก็คือ “วนิษา” (มิว-นิษฐา) ม่ายสาวสวยรวยเสน่ห์
“โจ” ปลอมตัวจนได้เป็นคนขับรถของวนิษา และสืบประวัติของเธอ จนรู้ว่าวนิษาแต่งงานมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกคือแต่งงานกับคุณชายแจ้ ซึ่งคุณชายแจ้ก็ถึงแก่กรรมอย่างมีปริศนาในงานแต่งงานนั่นเอง ต่อมาวนิษาแต่งงานอีกครั้งกับ “เสี่ยป๊อก” (ชาย- ชาตโยดม) เจ้าพ่อแก๊งค์อิทธิพลในย่านชาวจีน และเสี่ยป๊อกก็ตายคาห้องหอในคืนวันแต่งงานเช่นกัน จนวนิษาได้ฉายาว่า “ผู้หญิงบริโภคภัสดา” สร้างความครั่นคร้ามกึ่งท้าทายต่อผู้ชายคนอื่น ที่คิดจะมาจีบหม้ายสาวสวยรวยทรัพย์อย่างวนิษา
สามีที่ตายไปทั้งสองคนของวนิษา ไม่เพียงแต่จะทิ้งมรดกมหาศาลให้เธอ แต่ยังทิ้งภาระความรับผิดชอบอันหนักหนาให้ด้วย ตอนเช้าวนิษาต้องเป็นผู้จัดการตลาดสดชื่อดังที่เป็นของคุณชายแจ้ พอตกบ่ายวนิษาก็ต้องเป็นสะใภ้จ้าวเพื่อดูแลปรนนิบัติ “หม่อมจันทิรา” (ต่อง-สาวิตรี) หม่อมแม่ของคุณชายแจ้ที่รักและเอ็นดูเธอ เย็นหน่อยต้องเป็น “ตั่วเจ๊” คุมพวกลูกน้องและธุรกิจสีเทาของเสี่ยป๊อกอีกด้วย และที่หนักหนาสาหัสที่สุด เธอต้องรับบทแม่เลี้ยงดูแล “ปลายฝน” (ดาร์ลิ่ง อารดา) ลูกสาววัยเกรียนคนเดียวของเสี่ยป๊อก
โจแปลกใจที่รู้ว่าวนิษาชอบทำบุญมาก จนในที่สุดก็รู้ว่าวนิษามีความฝันอันยิ่งใหญ่ที่จะมีครอบครัวที่อบอุ่น นั่นคือสิ่งที่เธอโหยหาเพราะพ่อแม่เธอเลิกกันตั้งแต่เด็ก ความจริงแล้วการแต่งงานสองครั้งที่ผ่านมาของเธอ ก็เพราะเธอเชื่อว่าเขาทั้งสองจะช่วยเธอสร้างครอบครัวที่อบอุ่นให้เธอได้ น่าเศร้าที่งานแต่งงานทั้งสองครั้งของเธอจบลงด้วยงานศพ วนิษาเชื่อว่าตัวเองเป็นเจ้าของดวงกินผัวจริงๆ เธอจึงพยายามสร้างบุญกุศลเยอะๆเผื่อจะบรรเทาเบาบางแก้เคล็ดแก้อาถรรพ์ได้
ขณะที่โจเอง พอเกิดมา พ่อก็ถูกจับติดคุก แม่ต้องหนีเตลิดเปิดเปิงไปอยู่ต่างประเทศ ญาติสนิทที่รับโจไปเลี้ยงดู ก็เจอแต่เรื่องเดือดร้อนไม่ว่าไฟไหม้บ้าน โ ดนฟ้องล้มละลาย ทุกคนโจษจันกันว่านี่คือเด็กชายตัวซวย ไ ม่มีใครกล้าเลี้ยงดูโจอีก จนในที่สุดโจต้องไปเป็นเด็กวัด อยู่กับ “หลวงพ่อสีสุก” (รอง เค้ามูลคดี) ซึ่งหลวงพ่อใช้หลักธรรมสอนโจ จนโจไม่เชื่อเรื่องดวง และไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเขาเป็นเจ้าของดวงตัวซวย
ในความคิดของโจ ถ้าคุณชายแจ้กับเสี่ยป๊อก ตายโดยไร้สาเหตุแบบที่เป็นอยู่ ก็แสดงว่าวนิษาเป็นผู้หญิงบริโภคภัสดาจริงๆ แต่ถ้าเขาสืบจนพิสูจน์ได้ว่าทั้งสองคนถูกฆ่า แสดงว่ามีการวางแผนการฆาตกรรม ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องดวงกินผัวของวนิษา เขาก็จะประกาศให้โลกได้รู้ว่า โลกนี้ไม่มีดวงกินผัว คนทั่วไปก็จะยอมรับได้ว่าไม่มีดวงตัวซวยเช่นกัน เขาก็จะลบมลทินให้ตัวเองได้อย่างสง่างาม แต่โจยิ่งสืบเรื่องของวนิษาได้มากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็รู้ว่าวนิษาไม่ใช่ฆาตกร หนำซ้ำเธอยังเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจดี อ่อนโยน จริงใจ มีเสน่ห์ จนเขาแอบตกหลุมรักเธอเข้าจนได้
...แท้จริงแล้วชีวิตคนเราขึ้นอยู่กับดวงจริงหรือไม่ โจกับวนิษาจะพาเราไปหาคำตอบนี้ด้วยกัน….
