ไฟรักเพลิงแค้น วันที่ 11 พฤษภาคม 2557
 


ไฟรักเพลิงแค้น วันที่ 11 พฤษภาคม 2557


ไฟรักเพลิงแค้น วันที่ 11 พฤษภาคม 2557

 ด้านยศสรัลขับรถไปกรุงเทพฯ ตรงไปที่โรงพยาบาลด้วยความเป็นห่วงบัญชา คัชพลโทรศัพท์บอกให้แวะหาเขาที่บ้านก่อน ยศสรัลรับคำแล้วขับรถกลับบ้านเผชิญหน้ากันพี่ชายก็ถามเสียงเครียด

“แกไปกับวีด้าใช่มั้ย แกสองคนมีอะไรกัน แล้วทำไมหายไปด้วยกัน” 

 

ยศสรัลพูดไม่ออกยิ่งทำให้คัชพลโกรธ“ผู้หญิงมีตั้งมากมาย ทำไมแกต้องมายุ่งกับผู้หญิงของฉัน...อธิบายมา” 

“ผมแค่จะพยายามหยุด ไม่ให้เค้าทำร้ายครอบครัวเรา” ยศสรัลพูด

 

“แกพูดเรื่องอะไร ทำไมเค้าต้องมาทำร้ายครอบครัวเรา”

 

ยศสรัลเงียบเพราะเป็นเรื่องที่เขาพูดยากลำบากใจยิ่งนัก

 

“จะมาปั้นเรื่องโกหกอะไรชั้นอีก แล้วแกพาวีด้าไปไหนชั้นถามว่าแกพาเค้าไปไหน แกอยากตายรึไง” 

 

“ถ้าพี่ไม่เชื่อใจผม ก็ยิงผมเลย!” ยศสรัลพูด

 

“แกท้าชั้นเหรอ ไอ้สรัล!” 

คัชพลโกรธจัดหยิบปืนออกมา ทั้งสองจ้องหน้ากัน ยศสรัลไม่อยากคุยด้วยจึงลุกขึ้นเดินจากไป คัชพลลั่นไกยิงใส่ทันทีหนึ่งนัด ยศสรัลล้มลงกับพื้น สาวใช้ในบ้านวิ่งเข้ามาส่งเสียงร้องกรี๊ดตกใจ คัชพลมองปืนในมือแล้วได้สติรีบพาน้องชายส่งโรงพยาบาล

 

ที่หน้าห้องฉุกเฉิน คัชพลนั่งนิ่งแต่มือสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ สายตามองไปที่ประตูห้องอย่างกระวนกระวาย สินีกับธัญกรวิ่งหน้าตื่นเข้ามา 

 

“สรัลเป็นยังไงบ้าง ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้” 

 

“ผมไม่ได้ตั้งใจครับแม่ ผมโมโหที่สรัลไปยุ่งกับวีด้า เลยพลั้งมือลั่นไก” 

 

“เพราะนังวีด้าอีกแล้วตาใหญ่นะ ตาใหญ่ สรัล…สรัลอย่าเป็นอะไรนะลูก!” 

 

ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก หมอออกมาในชุดผ่าตัดพร้อมกับพยาบาลสินีและธัญกรรีบปรี่เข้าไปถามทันที หมอบอกคนเจ็บปลอดภัยแล้ว โชคดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ ทุกคนจึงโล่งใจ ครู่หนึ่งตำรวจเข้ามาสอบปากคำ สินีบอกให้ธัญกรโทรศัพท์เรียกทนายและบอกคัชพลว่าเป็นอุบัติเหตุปืนลั่น

 

ยศสรัลถูกนำตัวออกจากห้องไปอยู่ห้องพักฟื้น สินีมองลูกชายคนรองที่หลับไม่ได้สติอยู่บนเตียง มีสายนํ้าเกลือและสายเลือดพันระโยงระยาง สินีพึมพำแววตากร้าวด้วยความแค้นวีด้า

 

“พี่น้องเกือบฆ่ากันตายเชียวนะ...เป็นเพราะนังนั่นคนเดียว นังวีด้าเลวเหมือนแม่ของมัน!”

 

ธัญกรมองแม่อย่างเป็นห่วง คัชพลยืนอยู่ริมหน้าต่างเหม่อมองไปเบื้องหน้าครู่หนึ่งแล้วเดินเข้าไปยืนข้างเตียง

 

“สรัล ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะยิงแก แต่เพราะแกทำให้ฉันโมโห” 

 

มณฑิตาหยุดยืนหน้าประตูแอบฟัง 

 

“ถ้าแกไม่มายุ่งกับวีด้า ไม่คิดมาแย่งผู้หญิงของชั้น ชั้นก็คงจะไม่โกรธขนาดนั้น..ฉันหวังว่าแกฟื้นขึ้นมา แกคงเข้าใจฉัน”

สินีฟังอยู่รู้สึกแค้นวีด้า ขณะที่ธัญกรนั่งนิ่งเฉยคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นความผิดของวีด้า มณฑิตาผลักประตูเข้ามาถามสินีว่าอาการยศสรัลเป็นอย่างไร สินีไม่พอใจจึงไม่ตอบ

 

เวลาผ่านไป ยศสรัลเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นมณฑิตานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงก็ฝืนยิ้มให้

 

“สรัลคะ...คุณฟื้นแล้ว..อย่าเพิ่งขยับค่ะ” 

 

ยศสรัลพยายามลำดับเหตุการณ์ถามหาคัชพล 

 

“ไม่ต้องแปลกใจค่ะ มณอาสาเฝ้าคุณแทนคุณอาสินีเองเดี๋ยวมณเอาผ้ามาเช็ดตัวให้นะคะ”

 

“วีด้า!”

มณฑิตากำลังเดินออกไปต้องชะงักก้าว เมื่อได้ยินชื่อนั่น ยศสรัลรีบคว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียงขึ้นมากดโทรฯ หานายพุฒิเพื่อถามความเป็นอยู่ของวีด้า เขาตกใจมากเมื่อนายพุฒิบอกว่าเธอหาโอกาสหนี ตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ..ยศสรัลหนีออกจากโรงพยาบาลทั้งที่ยังบาดเจ็บอยู่

  

ตอนที่ 12

ยศสรัลมาที่เกาะ พอถึงก็มีอาการปวดบาดแผลที่ผ่าตัดมาก แต่เขากัดฟันทนออกตามหาวีด้า เจอเธอนอนหมดสติอยู่ที่ชายหาดท้ายเกาะ รีบอุ้มร่างวีด้าขึ้นเรืออย่างทุลักทุเลไปที่ชายหาดหน้าเกาะ นายพุฒิกับนางแก้วช่วยกันพาไปดูแลในบ้าน 

ไม่นานวีด้าก็รู้สึกตัว เห็นยศสรัลยกข้าวต้มมาให้เธอรีบถอยหนีไม่ยอมกิน เขาตักข้าวต้มจะป้อนเธอปัดจนช้อนกระเด็น เขาอ้อนวอนให้เลิกทะเลาะแต่เธอไม่สนใจ เขาใช้กำลังล็อกตัวจะกรอกข้าวต้มให้กิน เธอดิ้นจนอ่อนแรงก็ไม่หลุดจากอ้อมแขนของเขา

ยศสรัลจึงขู่ว่าถ้าเธอไม่กินเขาจะกอดอยู่อย่างนี้ วีด้าจึงยอมกินแล้วสายตาเหลือบเห็นเลือดซึมออกมาเปื้อนเสื้อตรงหน้าท้องของเขา ก็ถามว่าเป็นอะไร ยศสรัลไม่ตอบ เดินกุมแผลออกมาที่ชายหาด วีด้าสงสัยรีบตามมา

“ต่อให้ชั้นขอยังไงคุณก็จะไม่ปล่อยชั้นไปสินะ” 

 

“ผมจำเป็นต้องกักคุณไว้ จนกว่าคุณจะเลิกล้มความคิดแก้แค้น” 

 

“ไม่ให้ชั้นแก้แค้น แล้วให้ครอบครัวชั้นถูกกระทำฝ่ายเดียวงั้นเหรอ พวกคุณมันเห็นแก่ได้” 

 

“ผมเห็นแก่คุณต่างหาก คุณรู้มั้ย ถ้าผมยังปล่อยไว้ต่อไป คุณนั่นแหละจะมีอันตราย” 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.