ด้านยศสรัลขับรถไปกรุงเทพฯ ตรงไปที่โรงพยาบาลด้วยความเป็นห่วงบัญชา คัชพลโทรศัพท์บอกให้แวะหาเขาที่บ้านก่อน ยศสรัลรับคำแล้วขับรถกลับบ้านเผชิญหน้ากันพี่ชายก็ถามเสียงเครียด
“แกไปกับวีด้าใช่มั้ย แกสองคนมีอะไรกัน แล้วทำไมหายไปด้วยกัน”
ยศสรัลพูดไม่ออกยิ่งทำให้คัชพลโกรธ“ผู้หญิงมีตั้งมากมาย ทำไมแกต้องมายุ่งกับผู้หญิงของฉัน...อธิบายมา”
“ผมแค่จะพยายามหยุด ไม่ให้เค้าทำร้ายครอบครัวเรา” ยศสรัลพูด
“แกพูดเรื่องอะไร ทำไมเค้าต้องมาทำร้ายครอบครัวเรา”
ยศสรัลเงียบเพราะเป็นเรื่องที่เขาพูดยากลำบากใจยิ่งนัก
“จะมาปั้นเรื่องโกหกอะไรชั้นอีก แล้วแกพาวีด้าไปไหนชั้นถามว่าแกพาเค้าไปไหน แกอยากตายรึไง”
“ถ้าพี่ไม่เชื่อใจผม ก็ยิงผมเลย!” ยศสรัลพูด
“แกท้าชั้นเหรอ ไอ้สรัล!”
คัชพลโกรธจัดหยิบปืนออกมา ทั้งสองจ้องหน้ากัน ยศสรัลไม่อยากคุยด้วยจึงลุกขึ้นเดินจากไป คัชพลลั่นไกยิงใส่ทันทีหนึ่งนัด ยศสรัลล้มลงกับพื้น สาวใช้ในบ้านวิ่งเข้ามาส่งเสียงร้องกรี๊ดตกใจ คัชพลมองปืนในมือแล้วได้สติรีบพาน้องชายส่งโรงพยาบาล
ที่หน้าห้องฉุกเฉิน คัชพลนั่งนิ่งแต่มือสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ สายตามองไปที่ประตูห้องอย่างกระวนกระวาย สินีกับธัญกรวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
“สรัลเป็นยังไงบ้าง ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้”
“ผมไม่ได้ตั้งใจครับแม่ ผมโมโหที่สรัลไปยุ่งกับวีด้า เลยพลั้งมือลั่นไก”
“เพราะนังวีด้าอีกแล้วตาใหญ่นะ ตาใหญ่ สรัล…สรัลอย่าเป็นอะไรนะลูก!”
ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก หมอออกมาในชุดผ่าตัดพร้อมกับพยาบาลสินีและธัญกรรีบปรี่เข้าไปถามทันที หมอบอกคนเจ็บปลอดภัยแล้ว โชคดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ ทุกคนจึงโล่งใจ ครู่หนึ่งตำรวจเข้ามาสอบปากคำ สินีบอกให้ธัญกรโทรศัพท์เรียกทนายและบอกคัชพลว่าเป็นอุบัติเหตุปืนลั่น
ยศสรัลถูกนำตัวออกจากห้องไปอยู่ห้องพักฟื้น สินีมองลูกชายคนรองที่หลับไม่ได้สติอยู่บนเตียง มีสายนํ้าเกลือและสายเลือดพันระโยงระยาง สินีพึมพำแววตากร้าวด้วยความแค้นวีด้า
“พี่น้องเกือบฆ่ากันตายเชียวนะ...เป็นเพราะนังนั่นคนเดียว นังวีด้าเลวเหมือนแม่ของมัน!”
ธัญกรมองแม่อย่างเป็นห่วง คัชพลยืนอยู่ริมหน้าต่างเหม่อมองไปเบื้องหน้าครู่หนึ่งแล้วเดินเข้าไปยืนข้างเตียง
“สรัล ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะยิงแก แต่เพราะแกทำให้ฉันโมโห”
มณฑิตาหยุดยืนหน้าประตูแอบฟัง
“ถ้าแกไม่มายุ่งกับวีด้า ไม่คิดมาแย่งผู้หญิงของชั้น ชั้นก็คงจะไม่โกรธขนาดนั้น..ฉันหวังว่าแกฟื้นขึ้นมา แกคงเข้าใจฉัน”
สินีฟังอยู่รู้สึกแค้นวีด้า ขณะที่ธัญกรนั่งนิ่งเฉยคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นความผิดของวีด้า มณฑิตาผลักประตูเข้ามาถามสินีว่าอาการยศสรัลเป็นอย่างไร สินีไม่พอใจจึงไม่ตอบ
เวลาผ่านไป ยศสรัลเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเห็นมณฑิตานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงก็ฝืนยิ้มให้
“สรัลคะ...คุณฟื้นแล้ว..อย่าเพิ่งขยับค่ะ”
ยศสรัลพยายามลำดับเหตุการณ์ถามหาคัชพล
“ไม่ต้องแปลกใจค่ะ มณอาสาเฝ้าคุณแทนคุณอาสินีเองเดี๋ยวมณเอาผ้ามาเช็ดตัวให้นะคะ”
“วีด้า!”
มณฑิตากำลังเดินออกไปต้องชะงักก้าว เมื่อได้ยินชื่อนั่น ยศสรัลรีบคว้าโทรศัพท์ที่หัวเตียงขึ้นมากดโทรฯ หานายพุฒิเพื่อถามความเป็นอยู่ของวีด้า เขาตกใจมากเมื่อนายพุฒิบอกว่าเธอหาโอกาสหนี ตอนนี้ยังหาตัวไม่เจอ..ยศสรัลหนีออกจากโรงพยาบาลทั้งที่ยังบาดเจ็บอยู่
ตอนที่ 12
ยศสรัลมาที่เกาะ พอถึงก็มีอาการปวดบาดแผลที่ผ่าตัดมาก แต่เขากัดฟันทนออกตามหาวีด้า เจอเธอนอนหมดสติอยู่ที่ชายหาดท้ายเกาะ รีบอุ้มร่างวีด้าขึ้นเรืออย่างทุลักทุเลไปที่ชายหาดหน้าเกาะ นายพุฒิกับนางแก้วช่วยกันพาไปดูแลในบ้าน
ไม่นานวีด้าก็รู้สึกตัว เห็นยศสรัลยกข้าวต้มมาให้เธอรีบถอยหนีไม่ยอมกิน เขาตักข้าวต้มจะป้อนเธอปัดจนช้อนกระเด็น เขาอ้อนวอนให้เลิกทะเลาะแต่เธอไม่สนใจ เขาใช้กำลังล็อกตัวจะกรอกข้าวต้มให้กิน เธอดิ้นจนอ่อนแรงก็ไม่หลุดจากอ้อมแขนของเขา
ยศสรัลจึงขู่ว่าถ้าเธอไม่กินเขาจะกอดอยู่อย่างนี้ วีด้าจึงยอมกินแล้วสายตาเหลือบเห็นเลือดซึมออกมาเปื้อนเสื้อตรงหน้าท้องของเขา ก็ถามว่าเป็นอะไร ยศสรัลไม่ตอบ เดินกุมแผลออกมาที่ชายหาด วีด้าสงสัยรีบตามมา
“ต่อให้ชั้นขอยังไงคุณก็จะไม่ปล่อยชั้นไปสินะ”
“ผมจำเป็นต้องกักคุณไว้ จนกว่าคุณจะเลิกล้มความคิดแก้แค้น”
“ไม่ให้ชั้นแก้แค้น แล้วให้ครอบครัวชั้นถูกกระทำฝ่ายเดียวงั้นเหรอ พวกคุณมันเห็นแก่ได้”
“ผมเห็นแก่คุณต่างหาก คุณรู้มั้ย ถ้าผมยังปล่อยไว้ต่อไป คุณนั่นแหละจะมีอันตราย”