‘ท่านมุ้ย’ วางพวงมาลา สักการะ ‘สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’
 


‘ท่านมุ้ย’ วางพวงมาลา สักการะ ‘สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’


‘ท่านมุ้ย’ วางพวงมาลา สักการะ ‘สมเด็จพระนเรศวรมหาราช’

ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน ยุทธหัตถี บทสรุปของเรื่องราวการกอบกู้เอกราชและปกป้องผืนแผ่นดินในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ถือเป็นภาพยนตร์อภิมหากาพย์สงครามอิงประวัติศาสตร์ที่คนไทยทั้งประเทศรอคอย  ผลงานกำกับระดับมาสเตอร์พีซของ “ท่านมุ้ย-ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล” ไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ฉากการทำยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

และเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต (25 เม.ย.) ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  “ท่านมุ้ย-ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล” จึงได้ทำพิธีวางพวงมาลาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร ที่ กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ โดยมีเหล่านักแสดง “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ” เข้าร่วมพิธีด้วย 

หลังเสร็จพิธีการ “ท่านมุ้ย” ได้พูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า  “ถ่ายทำมายาวนานมากกว่า 10 ปี สำหรับบทภาพยนตร์เรายึดเนื้อเรื่องมาจากพงศาวดารจริง ๆ คาแรกเตอร์ตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้มีตัวตนอยู่จริง แต่ที่น่าสนใจผมว่าเป็นส่วนของฉากการทำยุทธหัตถีบนหลังช้างของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผมว่าหลายคนรวมทั้งตัวผมเองสนใจอยากติดตามดูฉากนี้มาก พูดได้เลยว่าฉากนี้ผมทำออกมาเต็มที่เราถ่ายทำเฉพาะฉากนี้กันนานน่าจะเกือบ ๆ 3 เดือน”

“สำหรับความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเรื่องนี้ ผมว่าอาจจะเป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของโลกที่ใช้ฟิล์มในการถ่ายทำ เพราะต่อจากนี้ทุกคนก็จะใช้ระบบดิจิตอลกันหมดเลย ส่วนสาเหตุที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายช้า เนื่องจากเกิดเหตุไฟไหม้ม้วนฟิล์มที่ถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เลยต้องเสียเวลาในการทำซีจีใหม่หมดเลย เพราะส่วนที่โดนไฟไหม้มันเป็นรอยต่อของหนังพอดี สุดท้ายก็อยากจะฝากภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรด้วยครับ หนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ผมตั้งใจทำอย่างมาก”

ด้าน “ผู้พันเบิร์ด-พันโท วันชนะ สวัสดี” รับบท “สมเด็จพระนเรศวรฯ” พูดถึงการทำงานกับท่านมุ้ยว่า เผยว่า “ผมรู้สึกว่าท่านเป็นเหมือนพ่อของผมอีกคนหนึ่ง ท่านสอนผมในทุก ๆ เรื่อง และท่านเป็นบุคคลท่านหนึ่งที่พยายามผลักดันให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยก้าวหน้าไปอีกระดับหนึ่ง ก็อยากจะฝากให้ทุกท่านช่วยกันสนับสนุนผลงานกำกับของคนไทย ช่วยกันหันมาดูหนังไทยให้มากขึ้นครับ”

ขณะที่ “แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ เตชะณรงค์” รับบท “มณีจันทร์”  ได้พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “คนที่ได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ย่อมได้เห็นถึงความเสียสละของสมเด็จพระนเรศวร ท่านทรงทำเพื่อคนไทยทุกคน จนทำให้เรามีแผ่นดินอยู่ถึงทุกวันนี้ สิ่งหนึ่งที่แอฟรู้สึกขึ้นมาตอนถ่ายทำ คือ คนเราไม่ว่าจะเข้มแข็งสักแค่ไหน แต่ก็ย่อมมีความกลัวอยู่ในใจ แม้กระทั่งมณีจันทร์เองก็มีความกลัวอยู่เหมือนกัน ภายใต้เหตุการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าศัตรูทุกคนก็ต้องตัดความกลัวนั้นออกไป เพื่อปกป้องประเทศชาติ แอฟรู้สึกดีใจและภูมิใจที่มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ”

สำหรับ “ผู้พันต๊อด-พันเอก วินธัย สุวารี” รับบท “พระเอกาทศรถ” เผยว่า สำหรับการถ่ายทำเรื่องนี้เราอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ มันมีความผูกพันกัน เราทำกิจกรรมร่วมกันหลายอย่าง ที่สำคัญการถ่ายทำเรื่องนี้ค่อนข้างทรหดพอสมควร ซึ่งในภาคนี้การรบส่วนใหญ่จะใช้ช้างเป็นพาหนะ เรื่องนี้ก็เป็นเหมือนของขวัญที่สร้างความบันเทิงให้กับคนไทย ด้วยเนื้อเรื่องที่เป็นประวัติศาสตร์ท่านมุ้ยเองก็อยากจะทำให้ผู้ชมดูได้ทุกเพศทุกวัย และได้ประโยชน์หลาย ๆอย่างจากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ”

ปิดท้ายที่ “เกรซ มหาดำรงค์กุล” รับบท “พระสุพรรณกัลยา” เผยว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นภาพยนตร์ของคนไทยทุกคน ถ่ายทำกันมาอย่างยาวนานจริง ๆ หลังจากที่ได้ชม เกรซเชื่อว่าทุกคนต้องซาบซึ้งกับความเสียสละของสมเด็จพระนเรศวร ทำให้เราทราบถึงเกร็ดประวัติศาสตร์ว่า เราต้องสูญเสียวีรบุรุษวีรสตรีมากมาย ก็อยากให้คนไทยมาดูหนังเรื่องนี้ค่ะ”   ติดตามชม “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ตอน ยุทธหัตถี”  29 พ.ค.นี้ในโรงภาพยนตร์.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.