ไฟรักเพลิงแค้น วันที่ 27 เมษายน 2557
 


ไฟรักเพลิงแค้น วันที่ 27 เมษายน 2557


ไฟรักเพลิงแค้น วันที่ 27 เมษายน 2557

 สินีจับเนื้อตัวหน้าตาว่าที่ลูกสะใภ้อย่างมีความสุข...ค่ำวันนั้น ซินแสที่สินีนัดไว้ก็มาพบสินี หลังจากตรวจดูวันเดือนปีเกิดของคัชพลกับวีด้าแล้วบอกว่าฤกษ์หมั้นดี ๆ ไม่มี ทั้งคู่ดวงเป็นศัตรูกัน หากแต่งงานกันก็อยู่ไม่ยืด สินีไม่พอใจ หาว่าซินแสดูไม่แม่นพูดจาเลอะเทอะ

เวลาเดียวกัน ยศสรัลกับมณฑิตาได้เวลาออกงานด้วยกันก็เกิดการขัดใจกันอีก ทั้งสองถกเถียงกันเพราะเธอหาว่าเขาไม่เต็มใจจะไปด้วย 

ยศสรัลก็อ้างว่าเขาทำดีที่สุดแล้วหากเธอยังไม่พอใจอีกก็ช่วยไม่ได้ มณฑิตาไม่พอใจขึ้นรถกลับไป 

กำธรกลับมาจากสิงคโปร์โดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า พอลงจากเครื่องเขาก็โทรศัพท์หาวีด้า และนัดให้ไปเจอที่ร้านอาหาร

“วีด้าดูผอมไปนะ อาใช้งานเราหนักไปหรือเปล่า”

“ไม่เลยค่ะ งานแค่นี้ วีด้าสบายมาก คงเพราะวีด้าไปฟิตเนสมั้งคะ”

“เหรอ ดีนะ ทำงานหนักแล้วก็ต้องออกกำลังกายบ้าง ยืดเส้นยืดสาย ว่าแต่ไปฟิตเนสกับดนัยเหรอ”

“อืม เปล่าค่ะ วีด้าไปคนเดียวค่ะ เราว่างไม่ค่อยตรงกันน่ะค่ะ”

“อ้าว แล้วดนัยเป็นยังไงบ้าง อาไม่ได้เจอนานแล้ว”

“ดนัยก็สบายดีค่ะ แต่ช่วงนี้ต่างคนต่างยุ่ง เลยไม่ค่อยได้เจอกัน” 

“เอาเวลาไปให้ดนัยเค้าบ้าง พรุ่งนี้มะรืนนี้ นัดเค้ามาทานข้าวกับอานะ”

วีด้าอึดอัดใจ กำธรรู้ทันทีว่าวีด้ากับดนัยมีปัญหากันบางอย่าง จังหวะนั้นโทรศัพท์วีด้าดังขึ้น เธอกดรับสายคัชพลบอกว่าเขาอยู่ในร้านอาหารนี้และเห็นเธอด้วย วีด้าตกใจรีบเหลียวมองก็เห็นคัชพลเดินยิ้มเข้ามายกมือไหว้กำธร วีด้าจึงจำเป็นต้องแนะนำ 

“คุณเป็นเพื่อนใหม่ของวีด้าเหรอ”

“ขอโทษที่ไม่ได้เรียนให้คุณอาทราบ ผมกับคุณวีด้าชอบกัน และกำลังจะหมั้นกันครับ” 

“นี่มันอะไรกันวีด้า ทำไมอาไม่เห็นรู้เรื่องนี้เลย”

คัชพลแปลกใจว่าวีด้าไม่บอกกำธร แต่ก็ช่วยแก้สถานการณ์ให้

“พอดีเราสองคนเพิ่งตกลงกัน เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เองครับ แต่คุณพ่อคุณแม่ผมทราบเรื่องแล้วนะครับ ท่านก็เห็นดีด้วย อีกสักพักท่านคงไปคุยกับคุณอาอย่างเป็นทางการ”

คัชพลควักนามบัตรส่งให้ พอกำธรรู้ว่าเขาเป็นลูกชายของบัญชา กำธรหน้าเครียดเพราะรู้ว่าวีด้าคิดจะทำอะไร พอกลับถึงบ้านเขาก็เตือนวีด้าด้วยความเป็นห่วง เพราะมันเป็นการยากที่เธอจะสู้รบปรบมือกับบัญชาและลูก ๆ มันไม่คุ้มกันที่วีด้าจะแก้แค้น

“คุณอาคะ วีด้าต้องนอนฝันร้าย ฝันเห็นพ่อถูกพวกมันทำร้าย ตื่นขึ้นมาก็ต้องมาเห็นแม่ที่กลายเป็นคนเสียสติ บางครั้งก็คลุ้มคลั่ง คุณอาอย่าห้ามวีด้าเลยนะคะ วีด้าต้องการทำให้พวกมันรู้จักความเจ็บปวด และการสูญเสียอย่างที่วีด้าต้องเจอ”

วีด้าพูดพลางร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดเมื่อคิดถึงเรื่องในอดีต กำธรถอนใจ แล้วกอดปลอบ

  

วันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์หลายฉบับลงข่าว Prime Enterprise ร่วมหุ้นลงทุนธุรกิจกับ Logistic ยศสรัลเพิ่งรู้ข่าวนี้ถือหนังสือพิมพ์มาหาบัญชาและคัชพล คำตอบของพ่อและพี่ชายยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ 

ยศสรัลจึงโทรศัพท์ไปหาวีด้า แต่เธอไม่ยอมรับสายของเขา แม้จะติดต่อผ่านโอ๋ เลขาฯ วีด้าก็ไม่ยอมรับสาย เขาจึงไปดักรอที่บริษัทของเธอ พอเจอหน้าเขาก็ขอคุยด้วย

“ชั้นไม่มีเวลา จะรีบกลับ”

“ได้ ถ้าคุณไม่ยอมคุยกับผม ผมจะลากคุณขึ้นรถ แล้วถ้าคุณขัดขืนหรือร้องให้ใครช่วย คนในบริษัทคุณก็จะได้เห็น ว่าคุณโดนผู้ชายดักฉุดหน้าบริษัทตัวเอง เป็นข่าวหน้าหนึ่ง ดังระเบิดเลยทีนี้”

“ชั้นให้เวลาคุณ 10 นาที ตามชั้นมา”

วีด้าตัดปัญหาออกเดินนำไปที่สวนของออฟฟิศ ยศสรัลเดินตามไปหาที่นั่งคุยกัน เขาสงสัยเรื่องการลงทุน ถามเธอว่ามีแผนการจะทำอะไร

“ทำไมคะ ก็ร่วมทุนทำธุรกิจ ไม่เห็นแปลก”

“ไม่แปลกเหรอ คุณพยายามเข้ามาพัวพันกับครอบครัวผม ทำให้พี่ใหญ่ กับนายเล็กชอบคุณ ชวนนายเล็กมาทำงานด้วย ชวนพี่ใหญ่ร่วมธุรกิจ คุณว่ามันไม่แปลกเหรอ”

“คุณนี่เป็นคนขี้ระแวงจริง ๆ นะ ถ้าชั้นจะบอกว่าชั้นชอบคุณใหญ่ ชั้นก็ต้องทำดีกับครอบครัวคุณ มันน่าแปลกตรงไหน”

“นี่คงเป็นวิธีการจับผู้ชายของคุณ”

“คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว”ยศสรัลเดินเข้ามาจ้องหน้าวีด้าแล้วคาดคั้นถาม

“คุณแน่ใจเหรอว่าคุณชอบพี่ใหญ่”

“ทำไมล่ะค่ะ หรือจะต้องให้ชั้นชอบคุณ”

“คุณคือแพรใช่ไหม”

วีด้าตะลึง ไม่คิดว่ายศสรัลจะเปลี่ยนเรื่องถามกะทันหัน เธอหลบสายตาแล้วบอกว่าไม่รู้จักคนชื่อแพร ยศสรัลจับแววตาพิรุธได้เดินเข้าไปจับตัววีด้าไว้

“คุณคือแพรจริง ๆ เมื่อ 6 ปีก่อน คุณหายไปไหน คุณหนีผมไป แล้วจู่ ๆ คุณก็กลับมา กลับมาทำแบบนี้ ผมไม่เข้าใจ คุณกำลังทำอะไร คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหม คุณต้องการอะไร”

“คุณเป็นบ้าอะไรของคุณ ชั้นไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อแพร แล้วชั้นก็ไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน ถ้าคุณจะมาพร่ำเพ้อว่าชั้นเป็นผู้หญิงคนนั้น ชั้นขอตัว”



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.