ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล วันที่ 19 เมษายน 2557
 


ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล วันที่ 19 เมษายน 2557


ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล วันที่ 19 เมษายน 2557

 “ฉันอยู่กับเรื่องแบบนี้มาชั่วชีวิต ทั้งผู้ชายที่ชอบใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง หรือผู้หญิงที่ใช้ความรุนแรงต่อกันเพราะผู้ชายเป็นตัวต้นเหตุ...ตอนแรกฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลของคนที่ทำแบบนี้เท่าไหร่ จนมาเจอด้วยตัวเอง ฉันรู้แล้วว่าทำไมผู้หญิงต้องทำอะไรต่ำ ๆ เพื่อให้ได้ตัวผู้ชายมา ทั้ง ๆ ที่ผู้ชายก็ไม่ได้รักหรือมีเยื่อใยอะไรด้วย จากความเสียใจกลายเป็นเจ็บใจและทำใจไม่ได้ ถ้าเห็นเขาไปเป็นของคนอื่น อย่างน้อยถ้าเค้าไม่รักฉันก็ขอแค่อย่ามีใครทำให้ฉันต้องเจ็บ ฉันพูดถูกมั้ย คุณสิริมา”

สิริมาอึ้ง ณัฎฐาลินียิ้มเย้ย ยอมเลิกรา เพราะไม่อยากปัญญาอ่อนมากไปกว่านี้ ณัฎฐาลินีเชิดใส่สิริมาจะออกไป น้ำผึ้งกับเมเปิ้ลงงมาก 

 

“ตกลง จบไงเนี่ย ลินี”

 

“ไม่ได้มีบทสรุปให้กับตอนจบทุกเรื่องหรอกนะ เคสนี้ให้ผู้ชมตัดสินเอาเอง” 

พูดจบณัฎฐาลินีก็เดินออกไปเลย วายุบุตรละล้าละลัง จะตามณัฎฐาลินี ไปหรืออยู่ดูแลสิริมาดี สุดท้ายวายุบุตรตัดสินใจเดินไปหาสิริมา สิริมาดีใจมาก 

“วายุ มันคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดอะไรสักอย่าง ฉันไม่ได้โกหก คุณเชื่อฉันมั้ย”

 

“ผมเชื่อคุณ”

 

“ถ้าอย่างนั้น...”

 

“ผมจะให้เด็กขับรถมารับคุณนะ ดูท่าทางคุณโอเคแล้ว ผมเป็นห่วงคุณลินี” วายุบุตรรีบตามณัฎฐาลินีออกไป

 

น้ำผึ้งกับเมเปิ้ลหันมาแปะมือกันด้วยความดีใจอย่างลืมตัว “มันต้องแบบนี้”

พอรู้สึกตัว สองสาวก็เชิดใส่กัน เดินแยกไปคนละทาง พีศทรรษกับกฤษฎาถอนใจ...หันมายิ้มให้กัน แบบเอือม ๆ

 

“รู้สึกมั้ยน้อง ว่าเดี๋ยวนี้ผู้ชายเป็นช้างเท้าหลังมากขึ้นทุกที”

 

“เพื่อความสงบสุขของชีวิตคู่ครับพี่”

พีศทรรษและกฤษฎาเดินแยกตามผู้หญิงของตัวเองไป สิริมาเจ็บใจแทบกระอักเลือด

  

ณัฎฐาลินีเห็นวายุบุตรเดินตามมาก็คิดว่าวายุบุตรเชื่อที่เธอพูด แต่วายุบุตรกลับคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด สิริมาไม่มีทางแกล้งณัฎฐาลินีได้ ณัฎฐาลินีโมโหไล่ให้วายุบุตรกลับไปหาสิริมา วายุบุตรบอกว่าให้คนไปรับสิริมาแล้ว และที่ตามณัฎฐาลินีก็เพราะเป็นห่วง ณัฎฐาลินีโมโหหึงคิดว่าวายุบุตรคิดจับปลาสองมือ แต่พอวายุบุตรถามกลับไม่ยอมรับ 

เป็นเพราะไม่ได้กินไม่ได้นอนมาทั้งคืน ณัฎฐาลินีอ่อนเพลีย หน้ามืด เซจะล้ม วายุบุตรเข้าไปประคอง พาณัฎฐาลินีไปทานข้าวที่ร้านอาหาร 

  

กฤษฎาขับรถพาเมเปิ้ลกลับไปเปลี่ยนชุดที่บ้าน กฤษฎาพยายามจะบอกความในใจ แต่เมเปิ้ลกลับคิดว่ากฤษฎาเป็นคนเจ้าชู้ มีแฟนอยู่แล้วยังมาหว่านเสน่ห์ใส่ เมเปิ้ลสั่งตัวเองให้ทำใจแข็ง ไม่หวั่นไหวไปกับกฤษฎา แต่ก็ไม่สำเร็จ เมเปิ้ลเลือกแต่งตัวกระชากวัย ลดอายุไปทำงาน พอคนในออฟฟิศเห็นก็พากันแซว 

เพราะไทเกอร์แอบส่งข้อมูลให้คู่แข่ง ทำให้คู่แข่งสามารถตัดหน้าแย่งคิวน้ำผึ้งกับเมอร์ดี้ไปถ่ายแบบได้ พอเมเปิ้ลรู้ว่าถูกตัดหน้า ก็ไม่พอใจมาก รีบตามไปคุยกับพีศทรรษที่งานแถลงข่าว โดยมีกฤษฎา ไทเกอร์ เจ๊ฟูตามติดไปด้วย

  

พีศทรรษอุ้มญาดาไปส่งในห้องนอน น้ำผึ้งยืนคุยอยู่กับแต้วหน้าบ้าน จู่ ๆ ธัญรดาก็โผล่เข้ามาหาเรื่องน้ำผึ้ง แต้วรีบหลบไปรายงานพีศทรรษ พีศทรรษรีบร้อนกลับไปหาน้ำผึ้ง พอไปถึงได้ยินธัญรดากำลังแฉเรื่องความเจ้าชู้ของพีศทรรษให้น้ำผึ้งฟังก็ไม่พอใจมาก น้ำผึ้งทำเป็นไม่แคร์เดินเข้าไปควงแขนพีศทรรษ 

“อย่ายุ่งเรื่องของผม” พีศทรรษต่อว่าธัญรดา

 

“ไม่เป็นไรค่ะพีศ ฉันไม่แปลกใจ ฉันรับได้ เพราะเรื่องเด็กในเครือของคุณทุกคน ฉันรู้ฉันเห็นมาโดยตลอด ขอบคุณนะคะคุณรดาที่ช่วยเตือนความจำ ไม่ต้องห่วงค่ะ นับจากการแถลงข่าววันนี้ พีศจะมีฉันคนเดียว เพราะเราสองคนกำลังจะมีปัจจุบันและอนาคตร่วมกัน อดีตเลว ๆ ที่ผ่านพ้นมา ขอให้ลืมมัน ใช่มั้ยคะพีศ”

“ใช่ เราคงต้องรีบไปแล้วล่ะ ใกล้เวลาแล้ว”

 

“ไปสิคะ”

 

“ลูกรอเจอคุณ ตอนนี้แกหลับอยู่ ผมบอกว่าตื่นมาแล้วจะได้เจอแม่ วันนี้ผมขอให้คุณอยู่กับลูกหน่อย จนกว่าผมจะกลับมา”

“และฉันก็จะกลับมาด้วยเพื่อช่วยดูแล....ว่าที่ลูกสาว ไปค่ะพีศ”

น้ำผึ้งควงพีศทรรษผ่านหน้าธัญรดาออกไป จงใจยิ้มเย้ย ธัญรดามองตาม คับแค้น เจ็บใจ คิดหาทางกำจัดน้ำผึ้งออกไปจากพีศทรรษโดยใช้ญาดาเป็นเครื่องมือ

  

วายุบุตรมีความสุขมากที่ได้มาทานข้าวกับ ณัฎฐาลินี และได้พูดคุยกับณัฎฐาลินีระหว่างทานอาหาร จนได้รู้จักตัวตนของณัฎฐาลินีมากขึ้นอีกนิด หลังทานข้าวเสร็จ ณัฎฐาลินีพาวายุบุตรไปดูการแถลงข่าวของน้ำผึ้งกับพีศทรรษ เพราะเป็นห่วงน้ำผึ้ง แต่พอวายุบุตรถาม ณัฎฐาลินีก็อ้างว่าเธอแค่อยากรู้เรื่องรัก ๆ เลิก ๆ ของดาราเท่านั้น 

 

น้ำผึ้งตื่นเต้นมาก เล่นโยคะทำใจแล้วก็ยังไม่หายตื่นเต้น แต่พอโตโต้บอกว่าเห็นเมอร์ดี้มางานแถลงข่าวด้วย น้ำผึ้งก็ของขึ้น หายตื่นเต้นขึ้นมาทันที พีศทรรษบอกน้ำผึ้งว่าจะเป็นคนแถลงข่าวเอง ให้น้ำผึ้งพูดแต่คำว่า “ค่ะ” เท่านั้น น้ำผึ้งยอมทำตามที่พีศทรรษขอ จนกระทั่งนักข่าวถามถึงเรื่องที่กองละครจะตัดบทน้ำผึ้งทิ้ง แล้วให้เมอร์ดี้ขึ้นมาเป็นนางเอกแทน เมอร์ดี้ฉวยโอกาสเดินขึ้นไปนั่งข้างพีศทรรษบนเวทีแถลงข่าว 

“ในฐานะที่เมอร์ดี้ถูกพาดพิง เลยขออนุญาตมาร่วมให้ข้อมูลกับพี่ ๆ สื่อทุกคนค่ะ แต่ต้องให้เกียรติคุณพีศทรรษเป็นคนบอกพี่ ๆ นะคะ  เพราะคุณพีศทรรษคือผู้จัดการของเมอร์ดี้ที่เมอร์ดี้ไว้วางใจให้ดูแลชีวิตของเมอร์ดี้ค่ะ”

เมอร์ดี้ส่งสายตาหวานให้พีศทรรต ใสมาก น้ำผึ้งเห็นสายตาคู่นั้นของเมอร์ดี้ ความรู้สึกจะเข้าไปจิกหัวแล้วเอานิ้วจิ้มตามันมาก ณัฎฐาลินีและเมเปิ้ลที่มางานแถลงข่าว เห็นสายตาเมอร์ดี้ด้วยเช่นกัน

“สำหรับเรื่องนี้นั้น...ทางผู้จัดและสถานีเห็นว่า....”

 

น้ำผึ้งกดอารมณ์ปรี๊ดไว้ไม่อยู่ แทรกทันที “น้ำผึ้งอารมณ์ร้ายและร้อนเกินไป ที่เหวี่ยงใส่นักแสดงรุ่นน้องที่มาสาย จนถึงขั้นขอลาออกจากกองถ่าย” 

นักข่าวฮือฮา พีศทรรษ โตโต้สบตากัน เริ่มเหงื่อแตก เมอร์ดี้ตกใจไม่คิดว่าน้ำผึ้งจะกล้าพูดออกมา นักข่าวถามน้ำผึ้งว่ารุ่นน้องคนที่ว่าคือใคร พีศทรรษรีบตัดบทก่อนน้ำผึ้งจะพูดชื่อเมอร์ดี้ออกมา 

 

“ความจริงก็คือ...มีการเข้าใจผิดในการสื่อสารเล็กน้อย ทำให้คิวการถ่ายทำไม่ลงตัว เกรงว่าจะเกิดปัญหาต่อการทำงานของส่วนรวม น้ำผึ้งจึงจำเป็นต้องถอนตัวจากการทำงาน  ผมพูดได้เพียงแค่นี้ ตามข้อตกลงที่ทำไว้กับทางผู้จัดและสถานีครับ ขออนุญาตยุติการแถลงข่าวแต่เพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณทุก ๆ ท่านมากครับ”

พีศทรรษลากน้ำผึ้งและเมอร์ดี้ออกไปจากห้องแถลงข่าวทันที เมเปิ้ลรีบลุกตามพีศทรรษไป เจ๊ฟูตามเมเปิ้ลไปติด ๆ ณัฎฐาลินีดึงตัวกฤษฎาไว้ อยากรู้มากว่าเมเปิ้ลมาทำไม กฤษฎาเล่าเรื่องงานถูกแคนเซิลให้ณัฎฐาลินี ก่อนเดินตามเมเปิ้ลกับเจ๊ฟูไป ณัฎฐาลินีอยากรู้อยากเห็นเรื่องของน้ำผึ้งกับเมเปิ้ลมาก รีบเดินตามกฤษฎาไป วายุบุตรระอาแต่ก็จำต้องเดินตามณัฎฐาลินีไป

  

พีศทรรษลากน้ำผึ้งกับเมอร์ดี้ไปคุยกันที่ห้องแต่งตัว 

“ทำอะไรของพวกเธอ หา!!! เมอร์ดี้...คุณจะมา ผมก็ให้มา แต่ไม่ได้ให้มาผิดเวลา และไม่ได้ให้มาร่วมการแถลงข่าวด้วย นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยว”

 

“ก็เมอร์ดี้เห็นนักข่าวพูดถึงเมอร์ดี้”

 

“เค้าพูดถึงก็ช่างเขา ผมพูดแทนคุณเอง” 

 

“เรียกว่าทีหลังอย่าได้เสนอหน้าทำในสิ่งที่ไม่ได้เตี๊ยมด้วยกันมาก่อนค่ะน้อง”

   

“เออ ใช่ แต่ไม่ได้ให้คุณแทรกเวลาผมยังพูดไม่จบนะโตโต้”

 

น้ำผึ้งว่าพีศทรรษ “เผด็จการ”

 

“การแถลงข่าวที่ส่งผลกระทบถึงคนหลาย ๆ คนจำเป็นที่ผมต้องเผด็จการ ไม่งั้นก็เละ คนหนึ่งก็อยากจะออกสื่อ อีกคนก็ผีเจาะปากมาพูด บอกให้พูดแค่ค่ะ ทำไมไม่เชื่อผม”

“ฉันพูดความจริง กลัวทำไม”



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.