ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล วันที่ 20 เมษายน 2557
 


ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล วันที่ 20 เมษายน 2557


ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล วันที่ 20 เมษายน 2557

 “กลัวสิ เพราะความจริงของคุณมันจะทำลายนักแสดงในสังกัดของผมทั้งคู่ ทั้งคุณและเมอร์ดี้ ไม่มีใครได้ มีแต่เสียกับเสีย แล้วจะทำมาหากินต่อไปยังไงในวงการนี้ หา ถามหน่อย ตอบมาซิ”

น้ำผึ้ง เมอร์ดี้เงียบ จ๋อย ตอบไม่ได้ เพราะเห็นด้วยว่าผิดจริง

 

“ถ้าวางแผนเอาไว้ แล้วไม่ทำตามแผนแต่ทำตามใจ...ทุกอย่างในชีวิตมันก็จะยุ่งเหยิงเละเทะ เชื่อผมเถอะ ผมหวังดีกับคุณทั้งสองคน”

น้ำผึ้งนิ่งเงียบ ในขณะที่เมอร์ดี้น้ำตาซึม พีศทรรษเดินออกไปจากห้อง จะไปหาอะไรดื่มดับอารมณ์ โตโต้เดินตามออกไป เมอร์ดี้จะลุกตามไปด้วย แต่น้ำผึ้งดึงตัวไว้ 

พีศทรรษกับโตโต้เดินออกมาเจอกับพวกเมเปิ้ลหน้าห้อง เมเปิ้ลแนะนำตัวเองว่าเป็น บก.บห.นิตยสาร IT’S A MUST THAILAND  โตโต้ตกใจมาก นึกขึ้นได้ว่าเพิ่งแคนเซิลงานเจ้านี้ไป ไทเกอร์รอดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างสะใจ ณัฎฐาลินีกับวายุบุตรเดินตามมาสังเกตการณ์อยู่ห่าง ๆ  

เวลาเดียวกันนั้นเอง ภายในห้อง น้ำผึ้งจ้องหน้าเมอร์ดี้ รังสีอำมหิตแผ่ซ่านจนเมอร์ดี้สยอง

 

“หล่อนจงใจแย่งซีนฉัน”

 

“ป้า...อย่ามาใส่ร้ายหนูนะ”

 

“ฉันอยู่ในวงการนี้มานาน ทำการแสดงมาไม่รู้กี่บทบาท สิ่งที่หล่อนทำเมื่อกี้ฉันขอจัดให้อยู่ในการแสดงชั้นเลว...หล่อนอาจจะตบตาคนอื่นได้ แต่ฉันเห็นอินเนอร์หล่อนมันกระเด็นออกมาจากสายตาคู่นี้” แล้วน้ำผึ้งก็เอานิ้วจิ้มตาเมอร์ดี้ทั้งสองข้างทันที “จำไว้นะ อย่าท้าทายอำนาจมืด ไม่งั้นคราวหน้า ฉันไม่แค่จิ้มตาหล่อน แต่จะจิ้มอย่างอื่นแทน” น้ำผึ้งมองหน้าอกเมอร์ดี้ ใหญ่กว่าของตัวเอง มองอย่างแค้น “เอาให้ลูกโป่งแตกเลย คอยดู”

น้ำผึ้งลุกเดินออกไปทันที เมอร์ดี้แค้นน้ำผึ้งมาก

  

ตอนที่ 8

โตโต้เล่าเรื่องยกเลิกสัญญาของ IT’S A MUST THAILAND ให้พีศทรรษฟัง น้ำผึ้งเดินมาได้ยินก็ตกใจมาก เมเปิ้ลด่าโตโต้ว่าไร้มารยาททางวิชาชีพ ณัฎฐาลินีรู้สึกเห็นใจเพื่อนทั้งสองฝ่าย แต่เข้าไปยุ่งเรื่องนี้ไม่ได้ จึงตัดสินใจเดินกลับออกไป 

พีศทรรษถามเมเปิ้ลว่าจะให้ชดใช้อย่างไร เมเปิ้ลบอกจะไม่ยอมให้พีศทรรษได้แก้ตัว เพราะอยากให้พีศทรรษจดจำกรณีนี้ไว้ให้ขึ้นใจไปชั่วชีวิต ว่าแล้วเมเปิ้ลก็ยกพวกกลับไป พีศทรรษทำโทษโตโต้ด้วยการตัดเงินเดือนสองเดือน น้ำผึ้งตัดสินใจจะยกเลิกการถ่ายปกให้นิตยสารคู่แข่งของเมเปิ้ล แต่

พีศทรรษไม่เห็นด้วยกับความคิดของน้ำผึ้ง 

เมเปิ้ลไปเล่นฟิตเนสระบายความเครียด ณัฎฐาลินีโทรฯไปเล่าเรื่องน้ำผึ้งกับเมเปิ้ลให้ภัทรวลัยฟังด้วยความเป็นห่วง ด้านน้ำผึ้งบุกไปหาภัทรวลัยที่ฟิตเนสเพื่อปรับทุกข์ ภัทรวลัยอยากให้เพื่อนทั้งสามคนกลับมาคืนดีกัน แต่ด้วยทิฐิทำให้สามสาวไม่ยอมรับความจริง ว่าต่างฝ่ายต่างเป็นห่วงกัน

 

พอน้ำผึ้งรู้ว่าเมเปิ้ลกำลังออกกำลังกายอยู่กับคุณเป้ ก็รีบร้อนกลับไปทันที ภัทรวลัยอยากเล่าเรื่องน้ำผึ้งให้เมเปิ้ลฟัง แต่กลัวคำสาปแช่งของน้ำผึ้ง เลยให้คุณเป้เป็นคนเล่าให้เมเปิ้ลฟังแทน เมเปิ้ลทั้งตกใจและประหลาดใจ ไม่อยากจะเชื่อว่าน้ำผึ้งจะทำเพราะรักษาน้ำใจเพื่อน

 

กฤษฎาตามมาคุยกับเมเปิ้ล กฤษฎาไม่อยากให้เมเปิ้ลคิดเครียดอยู่คนเดียว อยากให้ทีมงานช่วยคิดแก้ปัญหาด้วยกัน เมเปิ้ลไม่ฟังคำแนะนำของกฤษฎา กฤษฎาโพล่งบอกออกมาว่าที่แท้แล้วเมเปิ้ลเป็นคนอ่อนแอ ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง กลัวว่าความคิดของตัวเองจะไม่ดีพอ กลัวคนอื่นจะดีกว่า จึงแสดงออกด้วยการบ้าอำนาจ เพราะจะได้เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เมเปิ้ลถึงกับอึ้ง ไม่คิดว่าจะได้ยินมุมความคิดแบบนี้จากเด็กอย่างกฤษฎา ต่อมเซลล์ถูกกระทบอย่างรุนแรง

  

น้ำผึ้งขับรถไปที่มหาวิทยาลัยที่สี่สาวเคยเรียนมาด้วยกัน น้ำผึ้งไปนั่งที่โต๊ะประจำ เห็นมีรอยที่เธอเคยแกะสลักไว้ว่า “DRAMA QUEEN” น้ำผึ้งอดคิดถึงเรื่องในอดีตไม่ได้ เมเปิ้ลกับณัฎฐาลินีแวะมาที่โต๊ะประจำพอดี แทนที่สามสาวจะปรับความเข้าใจกัน แต่ทิฐิทำให้สามคนทะเลาะกันอีก 

ธัญรดาตั้งใจพูดเรื่องพีศทรรษกำลังคบอยู่กับน้ำผึ้งให้ญาดาได้ยิน ญาดาอาละวาด กรีดร้องลั่นบ้าน กานดาสั่งห้ามเด็ดขาด ไม่ให้พีศทรรษพาน้ำผึ้งมาที่บ้านอีก ธัญรดาแอบยิ้มเยาะ พีศทรรษเครียด...มีแต่ปัญหารุมเร้า สุดท้ายชายหนุ่มตัดสินใจบุกไปหาน้ำผึ้งที่ห้องพัก 

  

ณัฎฐาลินีมัวแต่ยุ่งเรื่องเพื่อน ๆ จนลืมไปเอารถที่อู่ กว่าจะนึกขึ้นได้ก็เย็นมากแล้ว พอโทรฯไปถามที่อู่ ถึงได้รู้ว่าวายุบุตรมาเอารถให้แล้ว ณัฎฐาลินีบุกไปโวยวายใส่วายุบุตรที่ผับ ไม่พอใจที่วายุบุตรเจ้าเล่ห์ หลอกล่อให้เธอมาหาที่ผับ วายุบุตรนึกน้อยใจ ทำอะไรก็ผิดเสมอในสายตาณัฎฐาลินี 

จังหวะที่ณัฎฐาลินีกำลังจะกลับ มีพนักงานเดินเข้ามาบอกวายุบุตรว่าคุณเบลให้มาตาม ณัฎฐาลินีอยากรู้มากว่าคุณเบลคือใคร จึงแอบตามเข้าไปดูในผับ 

เมเปิ้ลมาเต้นระบายอารมณ์อยู่ที่ผับ ภัทรวลัยแอบโทรศัพท์ตามกฤษฎาให้มารับเมเปิ้ล แต่พอเมเปิ้ลเห็นหน้ากฤษฎากลับชี้หน้าด่าเสียงดังลั่น คนในผับหันมามองกันหมด ไม่เว้นแม้แต่วายุบุตรและณัฎฐาลินี

“กฤษฎา ไอ้เด็กนรก กล้าดียังไงมาด่าฉัน เธอเป็นใคร ฉันเป็นใคร! คิดว่าเห็นชีวิตมากกว่าฉันงั้นเหรอ ถึงได้มาตัดสินฉัน เธอมันก็แค่เด็กเมื่อวานซืน เป็นแค่เด็กฝึกงานที่รอโอกาสจากฉัน ฉันคือคนที่ชี้เป็นชี้ตาย”

 

“คุณเมเปิ้ลครับ เสียงเบา ๆ ครับ ตอนนี้คนทั้งประเทศหันมามองคุณเป็นตาเดียวแล้วครับ”

เมเปิ้ลหันไปเห็นณัฎฐาลินีก็ถึงกับอึ้ง วายุบุตรมองตามสายตาของเมเปิ้ล เห็นณัฎฐาลินีก็อึ้งไปเหมือนกัน

  

ตอนที่ 9

เมเปิ้ลแหวกผู้คนเดินเข้าไปถามณัฎฐาลินีว่าแอบตามมาทำไม ณัฎฐาลินีรีบบอกให้รู้ว่าวายุบุตรเป็นเจ้าของผับที่นี่ และเธอมาหาวายุบุตรไม่ได้แอบตามเมเปิ้ลมา กฤษฎารีบลากตัวเมเปิ้ลออกไปจากผับ ภัทรวลัยรีบวิ่งตามไป ทิ้งให้คุณเป้อยู่เคลียร์บิลตามลำพัง

วายุบุตรเดินเข้าไปหาณัฎฐาลินี เบลแอบผิดหวังที่รู้ว่าวายุบุตรมีแฟนแล้ว ณัฎฐาลินีประกาศเสียงดังให้ทุกคนรู้ว่าตนเป็นแฟนวายุบุตร ใครที่คิดจะทอดสะพานให้วายุบุตรก็ให้ล้มเลิกความคิดซะ เบลกับเพื่อน ๆ หน้าม้าน วายุบุตรพยายามอธิบาย แต่ณัฎฐาลินีไม่ฟัง วายุบุตรรีบดึงตัวณัฎฐาลินีไปคุยกันในห้องทำงาน พนักงานเสิร์ฟแอบเมาท์กัน สิริมาเดินผ่านมาได้ยินก็ไม่พอใจมาก 

เมเปิ้ลดิ้นรนจะกลับเข้าไปทะเลาะกับณัฎฐาลินีต่อ กฤษฎาอุ้มเมเปิ้ลไปโยนลงในบ่อน้ำพุ ภัทรวลัยเข้าไปช่วยเมเปิ้ล ลื่นหัวทิ่มลงไปในบ่อน้ำพุด้วยกัน คุณเป้เช็กบิลเสร็จออกมาเห็น รีบเข้าไปช่วยภัทรวลัย เมเปิ้ลโกรธกฤษฎามาก อาละวาดสาดน้ำใส่กฤษฎา คุณเป้รีบพาภัทรวลัยชิ่งหนีกลับไปก่อน 

ณัฎฐาลินีกับวายุบุตรทะเลาะกันอย่างรุนแรง ณัฎฐาลินีบอกวายุบุตรว่าถ้ายังคิดจะคบกับเธอต่อก็ให้เตรียมตัวเจ๊งได้ เพราะเธอจะมาเป็นมารร้ายทำลายผับของวายุบุตรทุกคืน วายุบุตรเห็นมุมเจ็บปวดอยู่ลึก ๆ จากณัฎฐาลินี จากที่โกรธก็หายไป กลายเป็นความอยากรู้อยากเข้าถึง แต่สิริมาเข้ามาขวางไม่ให้วายุบุตรตามไปปรับความเข้าใจกับณัฎฐาลินี วายุบุตรเครียดจัด เรื่องที่เกิดขึ้นชักไปกันใหญ่

ณัฎฐาลินีเดินออกมาเจอกฤษฎากำลังคุยกับเมเปิ้ลก็ชะงักแอบฟัง กฤษฎาพูดเตือนสติให้เมเปิ้ลได้คิด ว่าถ้าเพื่อนสำคัญกับเมเปิ้ลขนาดนั้น ทำไมถึงไม่ยอมปรับความเข้าใจกัน ทั้งณัฎฐาลินี และ เมเปิ้ล ต่างคนต่างรู้สึกเหมือนกันคือ...โหยหาเพื่อน แต่ยังมีกำแพง 

  

วายุบุตรเห็นว่าเลยเวลาที่แบนด์จะต้องมาเล่นดนตรีแล้ว แต่ยังไม่มา จึงให้พนักงานโทรฯตาม สักพักพนักงานก็วิ่งหน้าตื่นมาบอกว่ามีคนอ้างชื่อวายุบุตรโทรฯไปบอกนักดนตรีทุกวงว่าผับเลิกจ้าง วายุบุตรตกใจ หน้าเครียด

พีศทรรษไม่พูดไม่จา นั่งดูทีวีสักพักก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟา น้ำผึ้งทนไม่ไหวจะเขย่าตัวปลุกพีศทรรษให้ลุกขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่อง แต่พอเข้าไปใกล้ก็เกิดเปลี่ยนใจ นั่งพิจารณาหน้าของพีศทรรษแทน แต่แล้วจู่ ๆ พีศทรรษกลับลืมตาขึ้นมา สองคนชะงัก สบตากัน หน้าใกล้กันมาก



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.