ละลายโค้งบนสะเมิงกับ TOYOTA NEW ALTIS ESPORT (ตอนที่ 1)
 


ละลายโค้งบนสะเมิงกับ TOYOTA NEW ALTIS ESPORT (ตอนที่ 1)


ละลายโค้งบนสะเมิงกับ TOYOTA NEW ALTIS ESPORT (ตอนที่ 1)

2ZZ-FBE 141 แรงม้า 177 นิวตันเมตร ช่วงล่าง ชุดแต่งและยางสปอร์ต เกียร์ CVT-i แบบแปรผันอัตราทดบนราคาค่าตัว 8.9 แสนบาท ทดสอบ Altis Esport ยานยนต์ซีดานมาดสปอร์ตจาก Toyota...

ปล่อยตัวเด็ดรุ่นมาตรฐานออกมาได้ไม่นานนัก ล่าสุด Toyota Motor Thailand co,ltd. คายของร้อน All New Altis Esport ซีดานมาดสปอร์ตโมเต็มทั้งชุดแต่งเสริมความหล่อ ยางซิ่งประสิทธิภาพสูง ช่วงล่างจัดหนักและอุปกรณ์แยกย่อยที่เข้ามาเติมความสามารถของ All New Altis ในเวอร์ชั่น Esport ให้มากยิ่งขึ้น มันเหมือนกับการนำเนื้อย่างมาจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วที่เผ็ดร้อน ด้วยตัวรถ New Altis ที่แปลกแยกและแตกต่างด้านพฤติกรรมการขับขี่ควบคุม


ภาพลักษณ์ซีดานยอดนิยมของ New Altis ถูกนำมาปรุงแต่งต่อเติมความปวดให้กับต่อมความรู้สึก ตัวถังและโครงสร้างทั่วไปที่ยังคงเป็น New Altis แต่มีการนำเอาชิ้นงานพวกแอร์โรพาร์ตและการปรับปรุงสมรรถนะของการยึดเกาะให้มีความเป็นไดนามิกมากยิ่งขึ้น กระจังหน้าทำจากพลาสติกโครเมียมสี Gun Metallic ชุดไฟหน้ายังคล้ายกับรุ่นมาตรฐาน โดยใช้ไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์พร้อมไฟหรี่กลางวัน หลอด LED หรือ Daytime Runing สปอยเลอร์หน้ามีสเกิร์ตที่ออกแบบให้เข้ากับสไตล์ของสปอยเลอร์ ส่วนด้านหลังติดตั้งสเกิร์ตลายเคฟล่าห์พร้อมกับท่อไอระบายไอเสียแบบสปอร์ต แนวด้านข้างของตัวถังบริเวณชายล่างก็ยังมีชิ้นงานสเกิร์ตรอบคันรวมกับสปอยเลอร์หลังที่ให้ไฟเบรกดวงที่สามแบบหลอด LED กระจกมองข้างออกแบบโดยใช้ครีบรีดอากาศเพื่อลดการหมุนวนของกระแสลม ในรุ่น Esport มีล้ออัลลอยลายใหม่แบบ 7 ก้าน ห่อรัดด้วยยางสปอร์ตคุณภาพสูงของ Michelin รุ่น Pilot sport 3 เป็นยางที่ให้กริ้บของการยึดเกาะในแนวสปอร์ตซึ่งรถสมรรถนะสูงนิยมใช้


ในส่วนของใต้ท้องรถมีการออกแบบให้ถูกต้องกับหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยการติดตั้งแผ่นรีดอากาศที่ด้านหลัง หรือ Diffuser นอกจากความสวยที่โดนอกโดนใจวัยแรงแล้ว ประสิทธิภาพของการทรงตัวเมื่อติดตั้งอุปกรณ์ที่เข้ามาเสริมในด้านของแอร์โรไดนามิก ทำให้การทรงตัวที่ย่านความเร็วสูงดีขึ้น ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศของ Toyota Altis Esport มีตัวเลขอยู่ที่ 0.29 (Cd-0.29) ฝาท้ายแปะตราสัญลักษณ์ Esport ที่บริเวณด้านขวาตรงส่วนล่างของฝาท้าย ส่วนด้านซ้ายมือของฝาท้ายปะตราสัญลักษณ์รุ่น 1.8S เพื่อความแตกต่างจากรุ่นปกติ ไฟท้ายกับฝาท้ายยังคงเหมือนกับรุ่น 1.8 V ทุกจุด ฝาท้ายด้านบนมีแผ่นสปอยเลอร์กับไฟเบรกดวงที่สาม


Cockpit ของ Esport คล้ายกับรุ่นมาตรฐาน แต่มีรายละเอียดของอุปกรณ์ภายในแปลกแยกและลดหลั่นกันไป เบาะแบบสปอร์ตคู่หน้าปรับตั้งด้วยมือ เบาะทุกตำแหน่งของ Esport 1.8S หุ้มด้วยหนังแท้สีเทาเย็บเดินตะเข็บด้วยด้ายสีขาว แผงคอนโซลทำจากโฟมขึ้นรูป หุ้มด้วยวัสดุประเภทไวนิลเพื่อลดเสียงแปลกปลอมจากภายนอก การใช้โฟมฉีดขึ้นรูปแล้วปิดทับด้วยไวนิลในแผงคอนโซลทั้งหมดช่วยทำให้เสียงการทำงานของเครื่องยนต์ที่รอบสูงและเสียงปะทะของลมลดลง มาตรวัดแบบใหม่ที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานอยู่พอสมควร มาตรวัดแบบซ้อนกันสามวงล้อมกรอบด้วยพลาสติกโครเมียมสีเงิน ตรงกึ่งกลางเป็นมาตรวัดความเร็ว ซึ่งมีจอ MID อยู่ตรงด้านล่าง จอ MID หรือ Multi information display สีฟ้าแสดงผลข้อมูลที่สำคัญ เช่น อุณหภูมิภายนอก อุณหภูมิของเครื่องยนต์ ระดับเชื้อเพลิงภายในถังต่อระยะทางที่สามารถวิ่งถึง ตำแหน่งของเกียร์ออโต ทริปมิเตอร์แจ้งระยะทาง ด้านซ้ายมือเป็นมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ ส่วนมุมขวาสุดของหน้าปัดเป็นที่อยู่ของมาตรวัดเชื้อเพลิงและปุ่มปรับทริปมิเตอร์กับจอแสดงผลเตือนระดับเชื้อเพลิงต่ำและระบบไฟส่องสว่าง


ชุดเครื่องเสียงของ Altis Esport ไม่มีจอมัลติฟังก์ชั่นมาให้เหมือนกับ Coralla Altis รุ่นที่สูงกว่า เครื่องเสียงของ Esport รองรับการเล่นเพลงผ่าน CD และ AUX-USB ชุดเครื่องเสียงมีกรอบทำจากพลาสติกให้เหมือนกับชิ้นงานเคฟล่าห์ซึ่งกำลังได้รับความนิยม โดยจะเห็นได้จากรถสปอร์ตของยุโรปที่มักนิยมนำพลาสติกมาตกแต่งภายในโดยเลียนแบบลายในชิ้นงานให้มีความคล้ายกับแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบปรับอากาศภายในเป็นแบบดิจิตอล ใช้หน้าจอ MID ทรงยาวสีฟ้าที่สอดรับกับรูปแบบของคอนโซลและชุดเครื่องเสียง สวิตช์ควบคุมและปรับตั้งอุณหภูมิออกแบบให้สามารถใช้งานได้ง่ายโดยการปรับแบบหมุนไปที่ปุ่มควบคุม แผงควบคุมเครื่องเสียงและแผงควบคุมอุณหภูมิมีดีไซน์ที่สวยงามน่าใช้งาน จากการจงใจออกแบบโดยปรับภาพลักษณ์ของภายใน Altis 2014 ใหม่ทั้งหมด


พวงมาลัยแบบสามก้านหุ้มด้วยหนังแท้ มีสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงติดมาให้ ด้านหลังของวงพวงมาลัยมีแป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ หรือ Paddle Shift ทำจากพลาสติกสีดำ เกียร์ของ ESport เป็นเกียร์ออโตสายพาน CVT ที่ปรับเปลี่ยนอัตราทดได้ผ่านคันเกียร์ในโหมด Sequential Shift รวมถึงยังสามารถปรับอัตราทดได้ที่นิ้วมือของผู้ขับผ่านสวิตช์ Paddle Shift ซุ้มเกียร์แบบ Gate-Type พร้อมกับ Sequential Shift เพื่อให้ผู้ขับสามารถชิฟเกียร์เองได้ด้วยการขยับคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง +/- สำหรับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i หรือ continuously variable transmission-intelligent แบบแปรผัน ทำให้การเปลี่ยนเกียร์มีความต่อเนื่องทุกสปีดความเร็วกับช่วยลดรอบเครื่องยนต์ ซึ่งส่งผลไปถึงอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ลดลงอีกด้วย


ระบบส่งกำลัง Super CVT-i มีการควบคุมการทำงานโดยปรับการทดกำลังให้มีความสอดคล้องกับรอบเครื่องยนต์ ใช้การควบคุมอัตราเร่งให้สัมพันธ์กับรอบเครื่อง เกียร์ CVT แบบแปรผันรุ่นล่าสุดของ Toyota สามารถเชนเกียร์เพื่อใช้ Engine Break ได้คล้ายกับเกียร์อัตโนมัติแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ อัตราทดที่ปรับให้แปรผันได้ถึง 7 ระดับ ผ่านการชิฟเกียร์ขึ้น-ลงด้วยตัวของผู้ขับขี่เอง เพื่อคงอารมณ์การขับแบบสปอร์ตด้วยการตอบสนองของระบบส่งกำลังให้คล้ายกับเกียร์ธรรมดา แป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์หลังวงพวงมาลัย หรือ Paddle Shift ออกแบบให้มีการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ว่องไวมากขึ้น การออกแบบอัตราทดของเกียร์ CVT ในลักษณะดังกล่าวเพื่อทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองบนเส้นทางที่คดเคี้ยวหรือทางขึ้น-ลงเขา ซึ่งมีการใช้เกียร์บ่อยครั้งมากกว่าการขับบนทางราบ เอกลักษณ์ของเกียร์ CVT จาก Toyota มีการทำงานที่ราบรื่นและต่อเนื่องทุกย่านความเร็ว แรงบิดจากเครื่องยนต์ในแต่ละคาบจะถูกปรับให้มีความสอดคล้องกับการทดกำลังของเกียร์ ระบบเปลี่ยนเกียร์แบบ Sequential Shift ช่วยให้การขับขี่มีการตอบสนองในลักษณ์ที่คล้ายกับเกียร์ธรรมดา แป้น Paddle Shift ยังสามารถใช้งานได้ในโหมดขับเคลื่อนปกติหรือเมื่อเกียร์ CVT อยู่ในตำแหน่ง D


ระบบรองรับของ Esport ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพกับเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังใช้แบบทอร์ชั่นบีม โช้คอัพและเหล็กกันโคลง ช่วงล่างในรุ่นสปอร์ตได้รับการปรับปรุงค่ายืดและยุบของสปริงและโช้คอัพใหม่ทั้งหมด เพื่อส่งถ่ายอารมณ์การขับขี่ในแบบสปอร์ตให้มีความหนึบแน่นมากยิ่งขึ้น คอยล์สปริงของ Esport มีค่า K สูงกว่ารุ่น 1.8V อยู่ประมาณ 6% เป็นค่า K ของสปริงที่มีการเบี่ยงเบนน้อย เหมาะสมกับล้อขอบ 17 และยางขนาด 215/45R17 แมคเฟอร์สันสตรัทในส่วนของช่วงล่างด้านหน้ามีการปรับยืดปีกนกให้ยาวขึ้น เพื่อลดการบิดตัวหรือการคลาดเคลื่อนขณะทำงาน จุดยึดพวกลูกหมากและลูกยางของช่วงล่างด้านหน้าพัฒนาใหม่ คอยล์สปริงและแกนโช้คอัพมีการปรับตั้งให้สามารถถ่ายเทแรงกดได้ดีขึ้น ทั้งสปริง แกนโช้คจะรวมการถ่ายแรงอยู่ในจุดเดียวที่บริเวณยางเบ้าโช้คทำให้การเปลี่ยนทิศทางหรือการขับเข้าโค้งมีความเสถียรมากกว่ารุ่นปกติแต่ยังคงความนุ่มนวล ระบบรองรับด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมเน้นไปที่ความคงทนสมบุกสมบันและมีการสึกหรอที่ต่ำกว่าช่วงล่างด้านหลังแบบอื่น คานอิสระเมื่อเกิดการยุบตัวขณะทำงานมีความมั่นคง แม้ตัวรถจะเอียงในองศาที่ผิดปกติขณะขับขี่บนทางโค้งหรือทางขึ้น-ลงเขา แต่ช่วงล่างแบบทอร์ชั่นบีมยังคงรักษาระดับของแนวดิ่งตั้งฉากเอาไว้จากการออกแบบ โช้คอัพและสปริงที่ด้านหลังยังมีการเปลี่ยนแปลงค่า K ใหม่เหมือนกับด้านหน้าเพื่อให้มีความสัมพันธ์ขณะทำงาน เหล็ก Cross Bar ถูกเสริมในบริเวณตัวถังด้านหลังส่วนในเพื่อลดการบิดตัวขณะขับเข้าโค้งด้วยความรุนแรง.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.