ทส.ผุดไอเดียเลี้ยงแพะ-เก็บใบไม้หมักปุ๋ย สะกัดไฟไหม้พรุควนเคร็ง
 


ทส.ผุดไอเดียเลี้ยงแพะ-เก็บใบไม้หมักปุ๋ย สะกัดไฟไหม้พรุควนเคร็ง


 ทส.ผุดไอเดียเลี้ยงแพะ-เก็บใบไม้หมักปุ๋ย สะกัดไฟไหม้พรุควนเคร็ง

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายจิรศักดิ์ ชูความดี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็ง ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกัน 3 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช พัทลุงและสงขลา เมื่อปลายปี 2554 ต่อเนื่องปี 2555 จนสร้างความเสียหายกว่า 2 หมื่นไร่นั้น ปรากฏว่า ในปี 2556 ตลอดทั้งปี จ.นครศรีธรรมราชค่อนข้างจะมีฝนตกเยอะ ทำให้ไม้ในป่าพรุ โดยเฉพาะไม้เสม็ดมีการแตกหน่อเจริญงอกงามอย่างรวดเร็ว ป่าพรุจึงฟื้นคืนสภาพอย่างรวดเร็ว


"แต่ก็มีเรื่องน่าห่วงคือคาดการกันว่าฤดูแล้งในปีนี้ อากาศจะร้อนจัดและแล้งกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยตลอดปี 2556 ที่ไม้ต่างๆ เริ่มแตกหน่อก่อใบออกมามากนั้น ใบก็จะร่วงลงรอบๆ ต้นจำนวนมากอีก ซึ่งใบไม้เหล่านี้จะเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี หากเกิดไฟไหม้ป่าขึ้นมา ซึ่งลักษณะของไฟที่ไหม้ในป่าพรุนั้น จะไหม้จากชั้นใต้ดินและจะมีควันพวยพุ่งขึ้นมา การดับไฟที่ไหม้ในป่าพรุนั้นทำยากมาก ไม่สามารถทำได้ภายใน 1 หรือ 2 วันเหมือนไฟป่าทั่วไป แต่อาจจะใช้เวลาเป็นเดือน สาเหตุหลักของการเกิดไฟไหม้ป่าพรุนั้น เกิดจากการเข้ามาหาของป่าของชาวบ้าน แล้วมีการจุดไฟเพื่อไล่ดักสัตว์ หรือไฟไหม้ลามมาจากพื้นที่ของชาวบ้านที่เผาใบไม้เข้ามาในพื้นที่ป่า ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งจากไฟไหม้ป่าพรุนั้น ไม่สามารถตีค่าได้ เพราะป่าพรุเป็นระบบนิเวศเฉพาะถิ่น"นายจิรศักดิ์ กล่าว


ผู้อำนวยการ สบอ.5 กล่าวว่า เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำเหมือนปี 2554 ทาง สบอ.5 ได้สนธิกำลังร่วมกับทุกฝ่ายใน จ.นครศรีธรรมราช ทั้งกรมป่าไม้ ทหาร หน่วยงานป้องกันบรรเทาสารณภัยจังหวัด รวมทั้งเทศบาลตั้งจุดสะกัดและลาดตระเวณพื้นที่ป่าพรุตั้งแต่บัดนี้อย่างเข้มข้น ทำโครงการส่งเสริมการเลี้ยงแพะในพื้นที่รอบป่า เพราะแพะเป็นสัตว์ที่กินใบไม้ที่จะเป็นเชื้อเพลิงในป่าพรุได้ดี รวมทั้งทำโครงการเก็บใบไม้มาทำปุ๋ยหมักสำหรับเกษตรในพื้นที่รอบๆ เพื่อเป็นการตัดวงจรการเกิดไฟป่าด้วย



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.