ลองซะ HONDA NEW CITY SV+ (ตอนที่1)
 


ลองซะ HONDA NEW CITY SV+ (ตอนที่1)


ลองซะ HONDA NEW CITY SV+ (ตอนที่1)

ทดสอบยานยนต์คนเมืองสุดฮิต Honda New City SV Plus รถยนต์ซีดานรุ่นล่าสุดจาก Honda automobile ตอนแรกกับการรีวิวรูปลักษณ์เรือนร่าง เครื่องยนต์ เกียร์ ช่วงล่าง อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัยและราคาค่าตัว...

Honda City ยานยนต์คนเมืองเริ่มต้นวงจรชีวิตในปี 1996 โดยมีรถ Honda Civic รุ่นปี 1994 เป็นต้นแบบในการพัฒนา เป็นการออกแบบและผลิตรถยนต์ที่มีราคาไม่แพงสำหรับการทำตลาดในแถบเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ หลังจากนั้นในปี 2008 City สามารถทำยอดจำหน่ายได้ถึง 1 ล้านคันทั่วโลก และกลายเป็นรถยนต์รุ่นหลักของ Honda ในตลาดต่างประเทศ รถ Honda City รุ่นที่สามถือเป็นรถยนต์รุ่นเรือธงของค่าย Honda โดยมีขายใน 55 ประเทศและสามารถทำยอดได้ถึง 2.2 ล้านคันนับถึงเดือนกันยายน 2556 นอกจากจะเป็นยนตรกรรมยอดนิยมแล้ว City ยังได้รับรางวัลต่างๆ มากมายจากประสิทธิภาพของตัวรถ สำหรับการพัฒนารถ Honda City รุ่นล่าสุด ทีมวิศวกรของ Honda ได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ที่มีรถรุ่นนี้จำหน่ายเพื่อทำการรวบรวมข้อมูลและ รับฟังความคิดเห็นตลอดจนข้อเสนอแนะของลูกค้าที่ใช้รถรุ่นนี้ ทำให้ทราบถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันของลูกค้า การประเมินผลและเก็บข้อมูลถนนหนทางในเมืองใหญ่ รวมถึงลักษณะของการขับขี่ใช้งาน สำหรับประเทศไทย วิศวกรของ Honda ได้เข้ามาสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้างของครอบครัวและระยะทางในการขับขี่จริงในชีวิตประจำวัน ตลอดจนการพูดคุยกับลูกค้าในประเทศไทยถึงความต้องการในการใช้งานและสภาพการขับขี่ทั้งในเมืองและบนไฮเวย์


การสำรวจข้อมูลก่อน ที่จะลงมือผลิตรถรุ่นใหม่ทำให้ Honda ได้รับทราบข้อมูลที่มีความสำคัญในการปรับปรุงตัวรถให้เข้ากับการใช้งานในประเทศไทย ทีมพัฒนา Honda City ได้พยายามทำให้รถรุ่นนี้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย เพื่อทำให้ New City เป็นรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ Honda ได้ทำการใส่อุปกรณ์ที่ทันสมัยและช่วยให้การขับขี่ดีขึ้น พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่มีความกว้างขวาง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่มีความประหยัดมากขึ้นจากการปรับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังรวมถึงวัสดุอุปกรณ์โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพโดยรวมกับขนาดและน้ำหนักของตัวรถ ในด้านสมรรถนะของการขับขี่ที่ลูกค้าคนไทยให้ความคาดหวัง โครงสร้างของแชสซีส์และระบบบังคับเลี้ยวตลอดจนระบบรองรับถูกปรับปรุงใหม่ ทั้งหมดเพื่อทำให้การขับขี่ดีขึ้น


การออกแบบให้ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดึงดูดสายตาทำให้ City ถูกขยายทั้งความกว้างและความสูงของตัวรถออกไปอีกเล็กน้อย มุมมองแบบสปอร์ตที่กำลังได้รับความนิยมถูกนำมาปรับใช้ตั้งแต่การดีไซน์ไฟ หน้าและกระจังหน้าที่นอกจากจะเชื่อมโยงกันกับรถยนต์ Honda ในโมเดลต่างๆ แล้ว ยังมีรูปแบบของความสปอร์ตแฝงอยู่เช่นตำแหน่งของสปอยเลอร์หน้า แนวคิด Advanced, Cool Stunner ถูกนำมาใช้บนเรือนร่างภายนอก รวมกับแนวทางของการออกแบบ Exciting H Design และนวัตกรรมใหม่บน Concept Honda Earth Dream Technology จากแนวความคิดดังกล่าวทำให้เกิดเรือนร่างของรถยนต์ยุคใหม่ในรูปแบบที่ Honda เรียกว่า Sleek Crossmotion สำหรับกันชนด้านหน้าหรือสปอยเลอร์หน้ากับสัดส่วนด้านหน้าทั้งหมดได้รับการออกแบบโดยผ่านการทดสอบในด้านอากาศพลศาสตร์ เพื่อทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่สุด


การออกแบบด้านข้างของตัวรถใช้แนวเส้นด้านข้างตัวถังที่มีความลึกและให้มุมมอง ที่คมชัดซุ้มล้อที่เหมาะสมกับขนาดของล้อและยางที่ส่งมุมมองให้ดูแข็งแกร่ง ประตูแบบใหม่ใช้มือจับประตูผลิตจากพสาสติกโครเมี่ยมสีเงิน เสาหน้าหรือเสา A มีองศาความลาดเอียงใกล้เคียงกับรุ่นที่ผ่านมา แนวของหลังคาค่อยๆ ไล่ระดับความลาดเอียงลงไปยังเสาท้าย City รุ่นล่าสุดใช้เสาอากาศแบบครีบปลาฉลามช่วยลดแรงต้านของกระแสอากาศได้ดี ชายล่างของบานประตูทั้งสองยังมีใช้แนวเส้นข้างลากจากด้านหน้าไปจนถึงซุ้มล้อหลัง ส่วนท้ายของตัวรถที่บริเวณด้านหลังมีลายเส้นที่เชื่อมโยงฝาท้ายกับแนวของไฟ ท้ายโดยมีลักษณะที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ไฟท้ายแบบ LED ที่ให้ความคมชัดสูงในด้านแสงจากไฟเบรกและไฟถอยหลังแม้จะขับขี่ในตอนกลางวัน ไฟเบรกดวงที่สามวางตำแหน่งอยู่กึ่งกลางภายในกระจกบังลมบานหลังและใช้หลอดแบบ LED สำหรับกันชนหลังหรือสปอยเลอร์หลังในบริเวณมุมทั้งสองข้างติดตั้งแผ่นพลาสติก สะท้อนแสงเพื่อความปลอดภัยเมื่อขับขี่หรือจอดรถในตอนกลางคืน ล้ออัลลอยขอบ 16 นิ้วลายห้าก้านออกแบบคล้ายกับใบพัดใส่ยาง ยาง Bridgestone รุ่น Turanza ER370 ขนาด 185/55R16 83H เป็นยางที่ทางวิศวกรของ Honda แจ้งว่าช่วยลดแรงเสียดทานกับพื้นถนนและช่วยทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงโดยที่ ไม่มีการสูญเสียการยึดเกาะ


ห้องโดยสารปรับแก้มิติโดยเพิ่มเติมสัดส่วนของการใช้งานให้มีความโปร่งโล่งด้วย การเพิ่มระดับความสูงของหลังคาเล็กน้อย แนวคิด Layered Floating Cockpit เพื่อสื่อให้เห็นถึงความทันสมัยกับมิติของห้องโดยสารแบบใหม่ในรถยนต์ Honda คอนโซลด้านหน้าผลิตจากพลาสติกฉีดขึ้นรูปใช้คุณลักษณะของพื้นผิวที่มีความแตก ต่างกัน คอนโซลใช้พื้นผิวสีดำ ในส่วนของพื้นที่ T-Zone ตรงกึ่งกลางสำหรับการติดตั้งปุ่มและสวิชท์ต่างๆ ที่ใช้ในการควบคุมอุปกรณ์มี สีเงินเพื่อทำให้ตัดกับพื้นสีเทา-ดำของชิ้นงานคอนโซล ส่วนบริเวณตรงหน้าของผู้ขับขี่มีลักษณะที่ให้สัมผัสอ่อนนุ่มและใช้การตกแต่งรอบๆ ด้วยโทนสี Gun Metallic ช่องแอร์มีการออกแบบให้ดูมีขนาดที่บาง สำหรับชิ้นส่วนด้านบนของแผงคอนโซลจะมีรูปแบบแบนราบเพื่อไม่ทำให้เกิดการ บดบังทัศนวิสัยด้านหน้า


Honda ให้ความสำคัญกับตำแหน่งของการขับขี่ เชื่อมโยงกับการจัดวางอุปกรณ์โดยมีคนขับเป็นจุดศูนย์กลาง รายละเอียดของแผงควบคุมอ้างอิงกับรูปแบบการแสดงผลที่มีความคุ้นเคยจากสมาร์ท โฟน และนำแนวคิดดังกล่าวมาใช้ในส่วนของแผงควบคุมอุปกรณ์ที่บริเวณคอนโซลกลาง มาตรวัดเรืองแสงสีฟ้าที่ใช้กรอบและชุดมาตรวัดใหม่หมด มีการติดตั้งมาตรวัดความเร็วอยู่ตรงกลาง สำหรับมาตรวัดรอบแสดงการทำงานของรอบเครื่องยนต์อยู่ทางด้านซ้ายของมาตรวัด ความเร็วและมีขนาดที่ย่อมลงมาเล็กน้อย หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับหรือ MID - Multi information display แบบอนาล็อกอยู่ทางด้านขวามือ โดยจะใช้การเรืองแสงด้วยแสงไฟโทนสีฟ้าเพื่อให้เห็นตัว Triple Meter บนคอนโซล (เฉพาะรุ่น V / V+ / SV และ SV+)


แผงควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสารออกแบบใหม่โดยใช้ระบบสัมผัสที่หน้าจอสำหรับ การสั่งงานทั้งหมดสำหรับรุ่นสูงสุดซึ่งเป็นรถทดสอบ (SV+) ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศลอกเลียนแบบการหมุนของเลนส์ในกล้องถ่ายภาพเพื่อความสะดวกในการปรับตั้งอุณหภูมิ ปุ่มของชุดควบคุมระบบปรับอากาศภายในจะเรืองแสงเมื่ออยู่ในที่มืด สำหรับแป้นที่ใช้ในการกดเลือกฟังก์ชั่นแบบ Smart Touch Panel พร้อมหน้าจอที่แบนเรียบมีการเรืองแสงเมื่อถูกสัมผัสขณะทำการใช้งาน ส่วนจอมัลติฟังก็ชั่นขนาด 7 นิ้วซึ่งมีขนาดของหน้าจอที่ใหญ่กว่ารถยนต์คู่แข่งทำงานพ่วงกับระบบเครื่อง เสียงบนหน้าจอแบบสัมผัส Advanced Touch มีโหมดให้เลือกหลากหลายรูปแบบเช่น HDMI รองรับการเชื่อมต่อด้วยภาพและเสียงผ่าน HDMI โหมด Hands Free Telephone หน้าจอจะแสดงผลของการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ไร้สาย โหมด Siri Eyes Free Mode รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri สำหรับโทรศัพท์ iPhone รุ่น 4s ขึ้นไป โหมด Audio Dispyal หน้าจอจะแสดงผลในโหมดของการควบคุมเครื่องเสียง โหมด HondaLink Application ใช้งานเฉพาะสมาร์ทโฟนบางรุ่น โหมด Fuel Consumption Display หน้าจอแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง โหมด Navigaton รองรับ HondaLink Application ใช้งานเฉพาะสมาร์ทโฟนบางรุ่น จอมัลติฟังก์ชั่น Advanced Touch ยังเชื่อมต่อกับกล้องมองหลังเพื่อความปลอดภัยขณะขับถอยหลังอีกด้วย


พวงมาลัยแบบสปอร์ต 3 ก้านหุ้มด้วยไวนิล มีแป้นเปลี่ยนเกียร์หลังพวงมาลัยหรือสวิตช์ Paddle Shift สวิชท์ควบคุมเครื่องเสียง สวิตช์รับและวางโทรศัพท์ สวิตช์สั่งการด้วยเสียงผ่านโปรแกรม Siri ปุ่มควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติหรือ Cruise Control รูปแบบของวงพวงมาลัยคล้ายกับ Honda CRZ ทั้งขนาดของรอบวงและรูปแบบของการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมแต่หุ้มด้วยไวนิล แทนที่จะหุ้มด้วยหนังแท้ ซุ้มเกียร์มีที่วางแก้วน้ำและช่องใส่ของกระจุกกระจิก ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่งและช่องเชื่อมต่อระบบ HDMI คันเกียร์ของระบบส่งกำลังแบบ CVT แปรผันมีรูปแบบที่คล้ายกับรุ่นที่แล้ว ถัดมาเป็นช่องใส่กุญแจและพนักเท้าแขนสำหรับคนขับ ภายในพนักเท้าแขนมีการออกแบบให้เป็นกล่องเก็บของพวกแผ่นซีีดีหรือโทรศัพท์มือถือ เบาะของผู้โดยสารตอนหลังปรับพับแบบ 60:40 เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการขนสัมภาระ ส่วนห้องเก็บสัมภาระที่ใต้ฝากระโปรงหลังมีพื้นที่รวม 536 ลิตร


Honda City ใช้เกียร์อัตโนมัติแบบ CVT รุ่นใหม่ซึ่งสามารถแปรผันอัตราทดได้โดยเกียร์รุ่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของ เทคโนโลยี Honda Earth Dream Technology เกียร์ CVT มีการปรับให้เพิ่มประสิทธิภาพในการส่งกำลังและช่วยประหยัดเชื้อเพลิง อัตราทดช่วงกว้างช่วยทำให้การขับเคลื่อนมาพร้อมกับแรงบิดที่สูงในรอบ เครื่องยนต์ต่ำ อัตราทดเกียร์ที่กว้างขึ้นเพิ่มกำลังขณะทำการเร่งเครื่องยนต์เมื่อต้องการ ออกตัวอย่างรวดเร็ว กลไกดังกล่าวทำงานร่วมกับ G-Design Shift เป็นระบบควบคุมการทำงานของระบบส่งกำลัง ลิ้นปีกผีเสื้อและการควบคุมระบบไฮดรอลิกภายในเกียร์ ชุดเกียร์ CVT ใน Honda Earth Dream Technology มีการออกแบบให้มีขนาดที่กะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา สายพานและลูกรอกภายในมีความคงทน เกียร์ CVT ใช้น้ำมันไฮดรอลิกแบบพิเศษสำหรับการหล่อลื่น ส่วนการดูแลรักษา วิศวกรของ Honda แจ้งว่าควรมีการเปลี่ยนของเหลวหล่อลื่นที่ 40,000 กิโลเมตรเพื่อคงอายุการใช้งาน


แชสซีส์ของ City 2014 มีการวางสมดุลของความพึงพอใจในขั้นตอนของการพัฒนา ตอบสนองต่อการหักเลี้ยวแบบฉับพลัน และให้ความปลอดภัยด้วยแนวคิด G-Con ที่มีความทนต่อแรงบิด ในช่วงของการพัฒนานั้น วิศวกรของ Honda ได้ใช้หลักคิด 5 ประการเกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาระบบแชสซีส์แบบใหม่ของ New City คือการทรงตัว การตอบสนองต่อการขับในแนวราบ ความสบายขณะขับบนทางเรียบโดยลดแรงกระชากให้เหลือน้อยที่สุด การเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรก การสร้างสมดุลในด้านการสัมผัสกับพื้นถนนที่เชื่อมโยงกับระบบรองรับ ช่วงล่างของ New City ในขั้นตอนการพัฒนาคือการปรับปรุงระบบบังคับเลี้ยวใหม่ทั้งหมด ลดความสูงของ Roll Center ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพและเหล็กกันโคลงของ New City ให้สัมผัสของการควบคุมที่ย่านความเร็วเดินทางได้ดีขึ้ินด้วยการปรับปรุงใน ส่วนของมุมโทเอาท์ของช่วงล่างด้านหน้า เมื่อเกิดแรงกระทำที่ด้านข้างจะมีค่าของมุมเพิ่มขึ้น เพื่อทำให้รถมีการทรงตัวที่ดีขณะขับเข้าโค้งมุมแคบ อัตราทดของเฟืองในระบบบังคับเลี้ยวมีการปรับเปลี่ยนเพื่อการตอบสนองที่ดี สำหรับช่วงล่างด้านหลังยังคงเป็นแบบทอร์ชั่นบีมคานรูปตัว H ช่วงล่างด้านหลังมีการปรับแก้เพื่อความนิ่มนวลและลดน้ำหนักของชิ้นส่วนบาง ชิ้น การออกแบบช่วงล่างด้านหลังใหม่ยังมีส่วนช่วยให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้าง ขึ้นอีกเล็กน้อย วิศวกรของ Honda ทำการปรับค่าทางคณิตศาสตร์ของชิ้นส่วนในระบบรองรับ โดยใช้แนวคิดแยกประเภทของจุดยึดตัวโช้คอัพ ลดมุมในการยึดโช้คอัพ มีการนำเอาบูชแบบ Fluid Sealing Type มาใช้ แรงที่เกิดขึ้นจากการทำงานของโช้คถูกปรับเพื่อส่งความนุ่มนวลขณะนั่งโดยสาร ขยายขนาดของลูกสูบในกระบอกโช้ค ทำให้การทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น ความยาวของแขนยึดถูกปรับลดลงเพื่อทำให้ตอบสนองได้ดี


ระบบบังคับเลี้ยวของ Honda City 2014 เป็นพวลมาลัยไฟฟ้าที่มีการทำงานแบบแปรผันไปตามความเร็ว แกนพวงมาลัยในชุดบังคับเลี้ยวถูกขยายขนาดเพื่อความแข็งแรง ระบบพวงมาลัยแบบเพาเวอร์ไฟฟ้าหรือ Honda Electronics Power Steering ทำการปรับอัตราทดของพวงมาลัยให้สูงขึ้น ทำให้การตอบสนองต่อาการบังคับทิศทางมีความรวดเร็ว น้ำหนักของพวงมาลัยที่ความเร็วเบาสบายมือและจะถูกระบบควบคุมหน่วงให้หนัก ขึ้นเมื่อมีความเร็วสูงขึ้น การใช้ยาง แบร์ริ่งของดุมล้อและคาร์ลิปเปอร์เบรกที่มีแรงต้านทานต่ำ ยางแบบ Low Rolling Resistance Coefficient (RRC) ของค่าย Bridgestone รุ่น Turanza ER370 ขนาด 185/55R16 83H ผ่านการทดสอบในขั้นตอนของการพัฒนาที่เข้ามาช่วยลดแรงต้านการหมุนระหว่างผิว ถนนกับหน้ายาง คาร์ลิปเปอร์เบรคที่ล้อหน้ามีแรงต้านทานต่ำช่วยลดแรงต้านระหว่างการหมุนของ ตัวดิสเบรกกับคาร์ลิปเปอร์ แบร์ริ่งดุมล้อที่ทำหน้าที่ยึดล้อหน้าและหลังไว้กับโครงสร้างของรถมีการ ออกแบบให้มีแรงเสียดทานที่ต่ำลงเพื่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น


เครื่องยนต์ของ New City 2014 เป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 สูบ แคมเดี่ยว SOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผันสองฝั่ง (ไอดีและไอเสีย) i-VTEC วางตามขวางขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์มีปริมาตรความจุ 1,497 ซีซี จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ PGM-F1 กำลังสูงสุด 117 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 86 กิโลวัตต์ หรือ 146 นิวตันเมตร ที่ 4,700 รอบต่อนาที ปรับปรุงบนพื้นฐานของบล็อกเครื่องยนต์ที่ใช้งานในปัจจุบัน รองรับเชื้อเพลิงทางเลืิอก E85 โดยมี ECU หรือกล่องควบคุมที่สามารถปรับองศาของระบบจุดระเบิดเพื่อให้การใช้เชื้อเพลิง มีความประหยัดและเกิดประสิทธิภาพสูง ถังเชื้อเพลิงจากที่เคยอยู่ในตำแหน่งใต้ผู้โดยสารตอนหน้าถูกย้ายไปไว้ที่ ด้านหลังเพื่อการกระจายน้ำหนักที่ดี เครื่องยนต์ 1.5 ลิตรของ New City ยังมีฟังก์ชั่น Ecological Drive Assist System หรือ E-CON System เพื่อแนะนำผู้ขับสำหรับการขับขี่แบบประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


ระบบความปลอดภัยของ Honda City 2014 เช่นระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว VSA เป็นระบบที่คอยควบคุมระบบป้องกันล้อล็อก ABS และ TSC อย่างเต็มรูปแบบ ช่วยป้องกันอาการลื่นไถลออกทางด้านข้าง ช่วยควบคุมระหว่างการขับ การเลี้ยวหรือการห้ามล้อรวมถึงการทรงตัว ระบบออกตัวบนทางที่มีความลาดชัน HSA ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ตัวรถเกิดการเคลื่อนที่ไปทางด้านหลังในจังหวะที่ผู้ขับถอนเท้าออกจากแป้นเบรก โดยมีการทำงานเชื่อมโยงกับระบบช่วยทรงตัว VSA เข้ามาควบคุมและรักษาแรงดันของน้ำมันเบรกเมื่อรถจอดอยู่นิ่งกับที่บนทางลาดชันประมาณ 1 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้รถไหลถอยหลังขณะที่มีการย้ายตำแหน่งของเท้าจากแป้นเบรกมาที่คันเร่ง ทำให้การออกตัวลดอาการกระตุกกระชาก ทำให้การเคลื่อนตัวบนทางลาดชันมีความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS Airbags ม่านนิรภัยด้านข้างประตู ELR ออกแบบให้มีการพองตัวอย่างรวดเร็วเมื่อเกิดการชนปะทะที่ด้านข้าง เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ สำหรับชุดถุงลมคู่หน้า SRS Airbags ใช้โครงสร้างแบบวงก้นหอย มีกลไกของวาล์วควบคุมการปล่อยแก๊สเพื่อควบคุมการพองตัวและแรงดันของถุงลมให้ มีความสม่ำเสมอ โดยระบบสามารถปล่อยแรงดันเพื่อทำให้ถุงลมมีการพองตัวอย่างรวดเร็วเพื่อช่วย ป้องกันผู้โดยสารตอนหน้าและคนขับจากอุบัติเหตุ ถุงลมของ Honda ออกแบบให้มีการพองตัวจนกระทั่งสิ้นสุดการปกป้อง การลดมุมที่ยื่นเข้ามาในส่วนของผู้ขับหรือผู้โดยสารด้านหน้าให้เหลือน้อยที่สุด ระบบยังช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นขณะเกิดอุบัติเหตุ เบาะนั่งด้านหน้าพร้อมหมอนรองศีรษะมีการออกแบบให้ช่วยลดอาการบาดเจ็บที่ ต้นคอเมื่อเกิดการชนที่ส่วนท้าย

อุปกรณ์เสริมในรุ่น SV+
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส 7 นิ้วแบบ Advanced Touch
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส
มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงผลการขับขี่
พวงมาลัยสปอร์ตแบบมัลติฟังก์ชั่น
ระบบบบควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
กล้องมองภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ
ระบบควบคุมการเปิด-ปิดประตูอัจฉริยะHonda Smart Key System
ระบบสตาร์ตเครื่องยนต์แบบกดปุ่ม One Push Ignition System

HONDA CITY SV+ SPECIFICATIONS

แบบ..................................................ซีดาน 4 ประตู
ผู้ผลิต................................................Honda automobile
เครื่องยนต์........................................เบนซิน E85 แถวเรียง 4 สูบ SOHC
วาล์ว.................................................16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผัน i-VTEC
ปริมาตรความจุ.................................1497 ซีซี
กระบอกสูบคูณช่วงชัก.......................73.0 มิลลิเมตรx89.4 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด.............................10.3:1
แรงม้าสูงสุด.......................................86 กิโลวัตต์ 117 แรงม้าที่ 6000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด......................................146 นิวตันเมตร 14.9 กิโลกรัม/เมตรที่ 4700 รอบต่อนาที
ระบบควบคุมการปิด-เปิดลิ้นปีกผีเสื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์
ระบบส่งกำลัง......................................เกียร์อัตโนมัติแบบแปรผัน CVT Continuously variable transmission
ระบบบังคับเลี้ยว.................................พวงมาลัยไฟฟ้า EPS Honda Electronics Power Steering
ระบบเบรก
ด้านหน้า..............................................ดิสเบรกแบบมีช่องระบายความร้อน
ด้านหลัง..............................................ดรัมเบรก
ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า...............................................แมคเฟอร์สันสตรัท สปริง โช้คอัพพร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านหลัง..............................................ทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape
ล้อ และยาง...........................................อัลลอย 5 ก้านขอบ 16 นิ้ว ยาง Bridgestone รุ่น Turanza ER370 ขนาด 185/55R16 83H
ยางอะไหล่............................................T135/80 D15
มิติตัวถัง
ความกว้าง..........................................1695 มิลลิเมตร
ความยาว.............................................4440 มิลลิเมตร
ความสูง................................................1477 มิลลิเมตร
ฐานล้อ..................................................2600 มิลลิเมตร
ระยะห่างฐานล้อหน้า/หลัง.....................1476/1465 มิลลิเมตร
ความสูงใต้ท้องรถ.................................150 มิลลิเมตร
ความจุถังเชื้อเพลิง................................40 ลิตร
น้ำหนัก..................................................1102 กิโลกรัม

ราคา
ราคาค่าตัว
Honda City 2014 มีให้เลือก 6 รุ่น ได้แก่
รุ่น S MT ราคา 550,000 บาท
รุ่น S AT ราคา 589,000 บาท
รุ่น V ราคา 649,000 บาท
รุ่น V+ราคา 689,000 บาท
รุ่นSV ราคา 734,000 บาท
รุ่น SV+ (คันทดสอบ เพิ่มเติมอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น ถุงลมด้านข้างคู่หน้าแบบอัจฉริยะและม่านถุงลมด้านข้าง) ราคา 749,000 บาท

สี
Honda New City 2014 มีให้เลือก 7 สี ได้แก่
สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)
สีแดงคาร์เนเลียน (มุก)
สีดำคริสตัล(มุก)
สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก)
สีขาวทาฟเฟต้า
2 สีใหม่ ได้แก่ สีน้ำเงินบริลเลียนท์สปอร์ตตี้ (เมทัลลิก) สีน้ำตาลโกลเด้น (เมทัลลิก)

*สีเมทัลลิกเพิ่ม 2,000 บาท และสีมุกเพิ่ม 8,000 บาท
ภายในห้องโดยสาร รุ่น S, V และ V+ เป็นเบาะผ้าสีเบจ และรุ่น SV และ SV+ เป็นเบาะผ้าสีดำ

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.