MERCEDES BENZ 190SL โบราณแต่ไม่บานบุรี
 


MERCEDES BENZ 190SL โบราณแต่ไม่บานบุรี


MERCEDES BENZ 190SL โบราณแต่ไม่บานบุรี

หลังสงครามโลกครั้งที่สอง บริษัท Mercedes Benz พยายามกอบกู้สถานะที่เคยมั่นคงตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามให้กลับคืนมาอีกครั้งด้วยความยากลำบาก รูปโฉมในแบบสปอร์ตโรสเตอร์เปิดประทุนถูกผู้บริหารนำกลับมาจัดจำหน่ายอีกครั้งโดยใช้โมเดล 300 SLR เป็นต้นแบบ มันคือสปอร์ตคาร์สมรรถนะสูงที่สามารถกวาดแชมป์การแข่งขันรถยนต์ในทวีปยุโรปเป็นว่าเล่น โดยรุ่น 300 SL ซึ่งเป็น DNA ของ SLR ถูกวางขายในช่วงปี ค.ศ. 1954 นับเป็นรถสปอร์ตจากค่ายตราดาวที่ทรงพลังและแพงสุดๆ ในยุคนั้น ด้วยโครงสร้างและเทคโนโลยีใหม่หมดด้วยระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ fuel injection เป็นครั้งแรกในวงการยนตรกรรม รวมถึงประตูแบบปีกนกนางนวลหรือ Gull Wing กับเรือนร่างที่ปราดเปรียวเพียวลม ทำให้ 300 SL ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงกลางยุค 50

แม้จะไปได้ดีในตลาดรถสปอร์ตของโลกแต่ราคาที่แพงสุดโต่งทำให้น้อยคนนักที่จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของรถรุ่นี้ ผู้บริหารของค่ายตราดาวจึงทำการปรับโมเดลของรถสปอร์ตในตระกูล SL เพื่อทำให้มันมีราคาที่ถูกลงและสามารถแข่งขันกับรถสปอร์ตจากอิตาลีได้อย่างไม่เคอะเขิน นักออกแบบและทีมวิศวกรของ Mercedes Benz พัฒนาโครงสร้างแบบ Ponton วางรูปแบบของแชสซีส์ welded platform-type ทำการแยกซับเฟรมด้านหน้าให้รวมกับระบบกันสะเทือนเพื่อเพิ่มเติมประสิทธิภาพในการทรงตัว แม้ระยะห่างของฐานล้อจะเท่ากับรุ่น 300 SL แต่ขนาดความยาวของตัวถังใน 190 SL กลับสั้นกว่าเล็กน้อย รูปแบบคูเป้หลังคาแข็งและประตูแบบปีกนกของ 300 SL เมื่อถูกปรับแก้ให้กลายเป็นรถที่มีขนาดเล็กกว่า โดยใช้รูปแบบโรสเตอร์เปิดประทุนสองที่นั่งพร้อมกับหลังคาอ่อนซึ่งเป็นหลังคาผ้าใบสีดำแบบพับเก็บได้

ขุมกำลังของ Mercedes Benz 190 SL วางเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดรหัส M121 (ในยุค 1955) เป็นเครื่องยนต์ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ 300 SL โดยลดกระบอกสูบจาก 6 สูบมาเหลือ 4 สูบ ความกว้างของกระบอกสูบ 85 มิลลิเมตร กับช่วงชักที่สั้นกว่าบนตัวเลข 86.3 มิลลิเมตรทำให้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบตัวนี้เป็นเครื่องแบบชักสั้นดันเร็ว ปริมาตรความจุ 1,897 ซีซี ซิงเกิ้ลโอเวอร์เฮตแคมชาร์ปใช้แคมแท่งเดี่ยวหรือ SOHC ทำการขับเพลาราวลิ้นเดี่ยวด้วยโซ่คู่ที่ทนทายาดแบบ Duplex chain driven overhead camshaft ระบบจ่ายเชื้อเพลิงใช้คาร์บูเรเตอร์คู่แบบทวินโช้คลิ้นคู่ของ Solex Caburator มีอัตราส่วนกำลังอัด 8.5:1 ซึ่งในยุค 50 นับว่าเป็นเครื่องยนต์เบนซินที่มีอัตราส่วนกำลังอัดสูงมาก เครื่องยนต์ของ 190 SL สร้างเรี่ยวแรงได้ 105 แรงม้าที่ 5500 รอบต่อนาที กับแรงบิด 142 นิวตันเมตรที่ 3200 รอบต่อนาที แม้จะมีกำลังพอตัวแต่เครื่องยนต์ขนาดเล็กที่มีความจุเพียงแค่ 1.9 ลิตรไม่สามารถทำให้ 190 SL ที่มีน้ำหนักตัวถึง 1.2 ตัน ขึ้นสู่ทำเนียบรถแรงในยุคนั้นได้

ระบบส่งกำลังหรือเกียร์ของ Mercedes Benz 190 SL เป็นเกียร์ธรรมดาแบบ 4 สปีด fully synchronized อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 14.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 172 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 12.5 ลิตรต่อระยะทาง 100 กิโลเมตร จุดเด่นของ 190 SL อยู่ตรงย่านของกำลังซึ่งแปรเป็นแรงบิดในระดับ 105 ปอนด์-ฟุต หรือ 142 นิวตันเมตรที่ 3,200 รอบต่อนาที รอบของการหมุนปานกลางที่ค่อนข้างสูงแสดงออกอย่างชัดแจ้งว่ามันเป็นรถสปอร์ตที่ขับขี่ได้มันส์ในอารมณ์คันหนึ่งของยุค Rock and Roll น้ำหนักของคันเกียร์และแป้นคลัตช์ให้ความรู้สึกหนักหน่วงราวกับรถแข่ง เป็นเรื่องปกติในปี ค.ศ. 1955 จากเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวไกลเท่าที่ควร อารมณ์การขับแบบรถซิ่งกลายเป็นจุดดึงดูดลูกค้าของแบรนด์ตราดาวที่ต้องการรถสปอร์ตซึ่งให้ความแตกต่างทางด้านอารมณ์ของการควบคุมอย่างแท้จริง

รูปลักษณ์ที่แตกต่างจาก 300 SL ตรงประตูทรงปกติที่เข้า-ออกจากรถได้สะดวกกว่าแม้จะไม่หล่อเหลาเท่าประตูทรงปีกนกนางนวล ฐานล้อกว้าง ตัวถังแบนและเตี้ยทำให้มันมีมุมมองที่ปราดเปรียวเพียวลมอยู่พอสมควร แม้ค่ายตราดาวจะบอกว่ามันเป็นสปอร์ตคาร์ที่คล่องแคล่วว่องไวซึ่งจะทำให้เจ้าของสามารถสนุกไปกับมันทุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัยของ 190 SL แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วโรสเตอร์จากแบรนด์ตราดาวคันนี้กลับวิ่งได้ดีและขับได้สบายๆในสไตล์ GT เมื่อขับออกทางไกล จุดประสงค์ของหลังคาผ้าใบแบบเปิดประทุนเพื่อเปิดรับสายลมและแสงแดดอันสดชื่นในช่วงต้นฤดูหนาว สมรรถนะของเครื่องยนต์เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวทำได้แค่รถที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน เอาไปแข่งไปไล่กับรถสปอร์ตจากอิตาเลี่ยนในยุคนั้นคงลำบาก รถ Mercedes Benz 190 SL ถูกเปิดผ้าคลุมในงาน New York Sport Car Show เมื่อปี 1954 หลังจากนั้นได้ย้ายวิกมาโชว์ตัวเป็นๆ ที่งาน Geneva Motor Show ในช่วงปลายปี 1954 ตามด้วยการวางขายในตลาดรถสปอร์ตทั่วโลก (รวมถึงประเทศไทยโดยธนบุรีประกอบยนต์) นับเป็นยนตรกรรมแบบเปิดหลังคาที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับรถ 190 SL สภาพสมบูรณ์มีราคาค่าตัวในปี 2014 ประมาณ 4-4.5 ล้านบาท แพงกว่ารถใหม่อย่าง SLK200 AMG Dynamic R172 ซึ่งมีราคาแค่ 3.4 ล้านบาท ทุกวันนี้หารถที่มีคนอยากขายได้ยากเต็มทน เนื่องจากเจ้าของที่ครอบครองรถรุ่นนี้ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ แม้จะมีเงินมากองอยู่ตรงหน้าก็ตาม.

1955 MERCEDES BENZ 190 SL W120/121 SPECIFICATIONS
Produced:..........................1955-1963
Engine:..............................4-cylinder-inline engine (four-stroke), front-mounted
Bore x Stroke:....................85mm x 83.6mm
Displacement:...................1897 cc
Max. Power @ rpm:..........105PS (77kW; 104hp) @ 5700
Max. Torque @ rpm:.........142Nm (105lbft) @ 3200
Compression Ratio:...........8.5: 1, from 09/59 8.8:1
Fuel feed:..........................twin two barrel sidedraft carburetors - Solex 44 PHH
Fuel tank capacity:............65L (17.2USgal; 14.3impgal)
Valve train:.........................SOHC, duplex chain
Cooling:............................Water
Gearbox:...........................4-speed manual, lever between seats rear-wheel drive, standard axle ratio 3.90:1
Electrical system:.............12-volt
Front suspension:.............Double wishbones, coil springs, stabilizing bar
Rear suspension::..............Swing axle, coil springs
Brakes:...............................Drum brakes ( 230mm), power assisted
Steering:...........................Recirculating ball steering
Body structure:................Sheet steel, uni-body construction
Dry weight:.......................1,160kg (2,560lb) (Hardtop: + 20kg (44lb))
Loaded weight:.................1,400kg (3,100lb), from 1961 1,440kg (3,170lb)
Track front/rear:................1,430mm (56.3in) 1,475mm (58.1in)
Wheelbase:........................2,400 mm (94.5in)
Length:..............................4,290mm (168.9in)
Width:................................1,740mm (68.5in)
Height:...............................1,320mm (52.0in)
Tyre/Tire sizes:..................6.40-13 Sport
Top speed:.........................171km/h (106mph)
Fuel Consumption (estimate):12.5 litres per 100 kilometres (22.6mpg-imp; 18.8mpg-US)

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.