บขส.ลุยติดจีพีเอสครบ796คัน
 


บขส.ลุยติดจีพีเอสครบ796คัน


บขส.ลุยติดจีพีเอสครบ796คัน

นายพินิจ คำปู่ รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายธุรกิจเดินรถ บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บขส.ได้ติดตั้งระบบติดตามรถผ่านดาวเทียม(จีพีเอส)บนรถโดยสารของ บขส.ครบทั้ง 796 คันแล้ว เพื่อใช้ควบคุมความเร็วของพนักงานขับรถได้เต็มประสิทธิภาพ และลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งหลังจากนี้หากรถคันใดขับด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด จะมีสัญญาณแจ้งเตือนให้ทราบ และหากฝ่าฝืนก็จะถูกลงโทษ เช่น การตัดเงินเดือน และร้ายแรงสุดถึงขั้นไล่ออก

ทั้งนี้ระบบของ บขส.จะเชื่อมต่อเข้ากับระบบของกรมการขนส่งทางบก ดังนั้น กรมฯ จะทราบข้อมูลของรถทุกคันที่วิ่งให้บริการอยู่ในขณะนั้นว่าใช้ความเร็วเท่าไรด้วย จึงช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้ ที่สำคัญตั้งแต่ติดตั้งระบบจีพีเอสครบทั้งหมด ยังไม่พบว่ามีอุบัติเหตุร้ายแรงที่เกิดจากพนักงานขับรถของ บขส. เลย แต่เป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากถูกรถคันอื่นขับมาเฉี่ยวชนมากกว่า

“ตอนนี้รถโดยสารของ บขส.จะใช้ความเร็วเฉลี่ย 90-110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลดลงจากเดิมที่ใช้ความเร็วตั้งแต่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป เพราะระบบจีพีเอส จะรู้พิกัดรวมถึงความเร็วของรถแต่ละคัน หากขับเร็วก็จะถูกแจ้งเตือนทันที จึงป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และลดการร้องเรียนการให้บริการไม่ปลอดภัยของผู้โดยสารได้ แต่ก็มีการร้องเรียนว่าถึงจุดหมายล่าช้าแทน เพราะรถต้องวิ่งในความเร็วที่จำกัด”

นายพินิจกล่าวว่า รถร่วมบริการ บขส.ซึ่งเป็นของภาคเอกชน ที่มีอยู่ประมาณ 6,000 คัน จะดำเนินการติดตั้งระบบจีพีเอสให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยระบบจะต้องเชื่อมต่อกับกรมการขนส่งทางบกเช่นเดียวกัน เบื้องต้น บขส. และกรมการขนส่งทางบก จะช่วยในเรื่องค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง เพราะแต่ละคันที่ บขส.ได้ติดตั้งระบบแล้วจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท ขณะเดียวกันต้องจ่ายค่าใช้บริการรายเดือนประมาณ 800 บาทต่อคันต่อเดือนด้วย 

“เรื่องนี้เป็นระเบียบที่กำหนดออกมาแล้ว ดังนั้นรถร่วมบริการ บขส.จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารมากขึ้น ส่วนราคาค่าติดตั้ง และค่าบริการรายเดือนจะเท่ากับของ บขส.หรือไม่ ยังไม่ทราบ แต่ระบบจะต้องเชื่อมโยงเข้ากับ บขส.และกรมการขนส่งทางบก โดยภาครัฐจะช่วยสนับสนุนด้านการเงินให้ก่อนแล้วให้เอกชนผ่อนชำระเป็นงวดๆแทน”

ส่วนของการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายใน และภายนอกรถเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้โดยสารนั้น ยังอยู่ระหว่างร่างเงื่อนไขการประกวดราคา(ทีโออาร์) คาดจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เบื้องต้นพบว่ากล้องที่จะนำมาดำเนินการจะมีราคาประมาณ10,000-20,000 บาทต่อตัว แต่ในส่วนเรื่องราคาจะต้องพิจารณารายละเอียดให้ชัดเจนอีกครั้ง



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.