"แอปเปิล" ไตรมาสแรกปี 57 ระบุขายไอโฟนได้ 51 ล้านเครื่อง มีรายได้สุทธิรวม 57,600 ล้านเหรียญฯ กำไรสุทธิ 1.3 หมื่นล้านเหรียญฯ แต่ยอดขายไอโฟนกลับไปไม่ถึงเป้าที่นักวิเคราะห์คาด เลยทำหุ้นร่วงไปเกือบ 8% ขณะที่ ทิม คุก ชี้ตลาดอเมริกาเหนือขายไม่ดี เพราะติดสัญญาของโอเปอเรเตอร์...
"แอปเปิล" แถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปีการเงิน 2557 (ต.ค.-ธ.ค. 56) มีรายได้สุทธิรวม 57,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กำไรสุทธิ 13,100 เหรียญสหรัฐฯ โดยรายได้ส่วนมากมาจากตลาดนอกสหรัฐอเมริกา คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 63% ของทั้งหมดในไตรมาสนี้ โดยสินค้าที่ขายดีที่สุด คือ ไอโฟน (iPhone) ขายได้ทั้งสิ้น 51 ล้านเครื่อง หรือกว่า 50% ของรายได้ทั้งหมด มากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 47.8 ล้านเครื่อง ขณะที่ไอแพดขายไป 26 ล้านเครื่อง เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนขายได้ 22.9 ล้านเครื่อง คอมพิวเตอร์แมค ขายได้ 4.8 ล้านเครื่อง เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนขายได้ 4.1 ล้านเครื่อง
ทิม คุก ซีอีโอ แอปเปิล กล่าวว่า เรามีความสุขมากจริงๆ ที่ได้เห็นยอดขายไอโฟนและไอแพดมากขนาดนี้ รวมทั้งความสามารถที่แข็งแกร่งของคอมพิวเตอร์แมค ที่เพิ่มการเติบโตของไอทูนส์ ทั้งซอฟต์แวร์และบริการต่างๆ เรารู้สึกดีที่ได้เห็นความพึงพอใจ และความไว้วางใจต่อแบรนด์ และการมีส่วนร่วมของลูกค้า และเรายังคงลงทุนต่อเนื่องอย่างหนัก เพราะอนาคตของพวกเราในการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีกว่าเดิม และสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ แก่ลูกค้า
ด้าน Mashable รายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ ทิม คุก ถึงยอดขายไอโฟนในตลาดอเมริกาเหนือที่ลดลงจากไตรมาสที่ 1 ในปี 2013 ทำได้ 20.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลงมาเหลือ 20.1 ในไตรมาสที่ 1 ปี 2014 เป็นเพราะในอเมริกาเหนือ ต้องทำสัญญากับโอเปอเรเตอร์มากกว่า 1 ปี
"เราขายไอโฟน 5S ได้มากกว่าที่คาดเอาไว้ ผมคิดว่าคนสนใจไอโฟน 5S มาก เนื่องจากมี Touch ID ที่สแกนลายนิ้วมือก่อนการใช้งาน มันเป็นฟีเจอร์สำคัญที่คนตื่นเต้นเมื่อได้ใช้ ผมเชื่อมั่นเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไอโฟน 5S และทำให้ไอโฟน 5S มีคนสนใจมากขึ้น รวมทั้งยอดขายที่เพิ่มตามไปด้วย" ซีอีโอ แอปเปิล กล่าว
จริงๆ แล้วเราขายไอโฟน 5S มากกว่าไอโฟน 5C ได้มากกว่าที่คาดไว้ แต่นั้นก็เป็นการผสมผสานการขายสมารท์โฟนที่แข็งแกร่ง สำหรับไอโฟน 5S ยืนยันได้จากการรายงานก่อนหน้านี้ ที่ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้งานจำนวนมากเลือกที่จะซื้อไอโฟน 5S ที่มีราคาสูงกว่า ไอโฟน 5C ที่ราคาถูก เรื่องนี้มันกินเวลาไปพักหนึ่ง เพื่อสร้างการผสมผสานลูกค้าที่มีความต้องการ เป็นผลให้เราเสียตลาดบางส่วนในทวีปอเมริกาเหนือไป
"ส่วนการตัดสินใจเปิดตัวไอโฟน 2 รุ่นใหม่ในเวลาเดียวกัน ก็เป็นครั้งแรกที่แอปเปิลตัดสินใจเปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่น การที่ผู้ให้บริการเปลี่ยนนโยบายการอัพเกรดเครื่องใหม่ มันทำร้ายยอดขายของตลาดอเมริกาเหนือ เพราะผู้ให้บริการทำราคาเครื่องใหม่ให้แพงขึ้น หากลูกค้าต้องการเปลี่ยนไปใช้มือถือรุ่นใหม่ เช่น ไอโฟน 5S หรือไอโฟน 5C ก่อนที่จะหมดสัญญาการใช้งาน 2 ปี ที่ทำไว้กับโอเปอเรเตอร์" ซีอีโอ แอปเปิล กล่าว
ส่วน ไทมส์ รายงานอ้างคำสัมภาษณ์ ซีอีโอ แอปเปิล ถึงภาพรวมของรายได้และยอดขายในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 ต่อนักลงทุนที่เรียกร้องดูผลประกอบการว่า หลังจากที่ผลประกอบการออกมาระบุว่าแอปเปิลขายไอโฟนได้ 51 ล้านเครื่อง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดไว้ว่าจะทำได้ถึง 56-57 ล้านเครื่อง ส่งผลให้หุ้นแอปเปิลตกลงไปเกือบ 8% หลังปิดตลาด
"ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งขึ้น และการแก้ไขปัญหาเรื่องสินค้าคงคลังของแอปเปิล คงทำร้ายบริษัทนักวิเคราะห์ทั้งหลายในไตรมาสนี้ เพราะผลการดำเนินงานของแอปเปิลแข็งแกร่งกว่าคำแนะนำที่พวกเขามีให้ แอปเปิลสร้างสถิติยอดขายใหม่ในการขายไอโฟนและไอแพด และแอปเปิลค่อนข้างยินดีที่เห็นผลประกอบการจากตลาดเกิดใหม่ทั่วทุกมุมโลก" คุก กล่าว.
