นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส จำกัด หรือศรีสวัสดิ์เงินติดล้อ เปิดเผยว่า บริษัทปรับลดเป้าสินเชื่อใหม่ปีนี้เติบโตเพียง 20% หรือมีมูลค่าประมาณ 11,000 ล้านบาท จากเดิมในปี 56 เติบโตถึง 40% หรือมีมูลค่า 9,000 กว่าล้านบาท เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมเติบโตในอัตราชะลอตัวลงจากปัญหาการเมือง ประกอบกับยอดขายรถยนต์ใหม่ปรับตัวลดลงหลังจากรัฐมีนโยบายส่งเสริมรถคันแรกในปี 55 ที่ผ่านมาทำให้การแข่งขันในตลาดสูง เพราะสถาบันการเงินในแต่ละแห่งเข้ามาทำตลาดมากขึ้น
“จากเดิมที่พิจารณาวงเงินให้สินเชื่อลูกค้าเป็นรายไตรมาส แต่ปัจจุบันพิจารณาเป็นรายเดือน เนื่องจากราคารถยนต์ค่อนข้างผันผวนจากนโยบายรถคันแรกทำให้รถยนต์ที่นำออกขายทอดตลาดขาดทุน จากเดิมราคาลดลง 10-15% แต่ขณะนี้ราคาลดลงถึง 30% ส่งผลให้บริษัทฯปรับลดวงเงินลูกค้าลงประมาณ 1-2% ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์ที่มาขอสินเชื่อ ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 13,500 ล้านบาท ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลต่ำกว่า 1% จากปี 56 ที่ผ่านมาเอ็นพีแอลอยู่ที่ 0.7%
ทั้งนี้ในอีก 3 ปีข้างหน้าว่าจะต้องมี ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 20,000 ล้านบาท เน้นสินเชื่อรถบรรทุก รถมอเตอร์ไซด์ รถรถยนต์ส่วนบุคคล รถกระบะ สินเชื่อรถไถ และสินเชื่อตลาดสด สำหรับรายได้จากการทำธุรกิจปีนี้คาดว่าจะมาจากดอกเบี้ยรับประมาณ 80% และค่าธรรมเนียม 20% อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันทำให้ลูกค้าที่เป็นชาวนาและรอเงินจากการจำนำข้าวชะลอการชำระหนี้บ้าง แต่บริษัทมีลูกค้าส่วนนี้น้อย โดยสินเชื่อที่ปล่อยให้ชาวนาส่วนใหญ่ซื้อรถไถ
นอกจากนี้บริษัทฯ เปิดบริการเป็นตัวแทนนายหน้าขายประกันภัยรถยนต์ ให้กับบริษัท ศรีอยุธยา เจนเนอรัล ประกันภัย สำหรับ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล(พีเอ) และ ประกันรถยนต์ เนื่องจากตลาดยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง และจากข้อมูลพบว่า มีประชาชนที่ทำประกันพีเอเพียง 11.2 ล้านกรมธรรม์เท่านั้น และขณะนี้บริษัทมีเจ้าหน้าที่ที่สอบผ่านและได้รับอนุญาตขายประกันแล้วประมาณ 900 คน และมีสาขาให้บริการลูกค้าถึง 300 แห่งทั่วประเทศ สำหรับรูปแบบประกันมีให้เลือก 2 แบบคือคิดเบี้ยประกัน 799 บาทต่อปี และเบี้ยประกัน 399 บาทต่อปี ซึ่งตั้งเป้าเบี้ยใหม่ไว้ที่ 250 ล้านบาท และจัดสรรงบ 100 ล้านบาททำตลาดและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น