อยู่กันด้วย... "ความรัก" โดย นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร
 


อยู่กันด้วย... "ความรัก" โดย นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร


 อยู่กันด้วย...

นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข




"ครอบครัว" คือ กลุ่มบุคคลที่ผูกพันและใช้ชีวิตร่วมกัน ทำหน้าที่เป็นสถาบันหลัก ฐานรากสำคัญยิ่งต่อการดำรงชีวิต ครอบครัวมีหลากหลายรูปแบบและหลายลักษณะนอกเหนือจากครอบครัวที่ครบถ้วนทั้งพ่อ แม่และลูก

"ครอบครัว" เป็นสถาบันพื้นฐานที่เป็นหลักสำคัญที่สุดของสังคม ทำหน้าที่หล่อหลอมและขัดเกลาความเป็นมนุษย์ให้แก่สมาชิกของครอบครัว ด้วยการอบรมเลี้ยงดู ให้ความรัก ความเอื้ออาทร ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน พร้อมทั้งปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และถ่ายทอดวัฒนธรรมของสังคมให้แก่สมาชิกในครอบครัว เพื่อให้เป็นบุคคลที่มีคุณภาพ มีความพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่และสร้างสรรค์ เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป ดังนั้น ครอบครัวจึงมีความสำคัญและมีอิทธิพลที่สุดต่อชีวิตของทุกคน

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้คาดประมาณการประชากรของประเทศไทยจากปี 2543-2568 ไว้ว่า จากปี พ.ศ.2545 ไปจนถึงปี พ.ศ.2552 ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงการปันผลทางประชากรซึ่งเป็นช่วงที่ประชากรวัยแรงงานยังคงเพิ่มขึ้น หลังจากนี้ประชากรวัยเด็กจะลดลงจากร้อยละ 23.88 ในปี 2545 เป็นร้อย 17.6 ในปี 2568 และสัดส่วนประชากรวัยแรงงานจะลดลงจากร้อยละ 66.38 เป็นร้อยละ 62.05 ขณะที่สัดส่วนประชากรวัยสูงอายุจะเพิ่มเป็นร้อยละ 9.74 ในปี 2545 เป็นร้อยละ 19.99 ในปี 2568 ทำให้ครอบครัวต้องรับภาระในการเลี้ยงดูและการพึ่งพิงสูง

ผลของการพัฒนาประเทศทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครอบครัวแล้ว ในขณะเดียวกันก็ส่งผลต่อรูปแบบของครอบครัวด้วย

 

 

จากข้อมูลสำรวจภาวะ การทำงานของประชากร พ.ศ.2542-2545 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ชี้ให้เห็นว่า ครอบครัวไทยในปัจจุบันมิได้ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก และเครือญาติดังเช่นแต่ก่อน แต่มีหลายรูปแบบ คือ ครอบครัวขยาย ที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก ปู่ย่าตายาย และหรือพี่น้อง ยังคงมีอยู่ในสังคมไทยแต่มีจำนวนลดลง

 

พบว่าปี 2545 มีครอบครัวที่เป็นครอบครัวขยายเพียงร้อยละ 32.1 ครอบครัวเดี่ยว ส่วนใหญ่ประกอบด้วยพ่อ แม่และลูก โดยส่วนใหญ่ครอบครัวจะมีลูกจำนวน 1-3 คน ครอบครัวที่อยู่คนเดียว มีคนที่อาศัยอยู่ตามลำพังมากขึ้น โดยปี 2542 มีคนที่อาศัยอยู่คนเดียวร้อยละ 11.0 เป็นร้อยละ 11.5 และ 11.8 ในปี 2544 และ 2545 ตามลำดับซึ่งแสดงให้เห็นว่าหญิงหรือชายพอใจที่จะอยู่เป็นโสดมากขึ้น ครอบครัวพ่อหรือแม่เลี้ยงลูกตามลำพัง หมายถึงครอบครัวที่มีเพียงพ่อหรือแม่ และลูก เนื่องจากสาเหตุของการหย่าร้าง การเป็นม่าย แยกทาง การทอดทิ้ง

ถามว่า...ในท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ เราจะเหนี่ยวรั้งและเกาะเกี่ยวความเเป็นครอบครัวให้เข้มแข็งได้ด้วยสิ่งใด?

"รักบริสุทธิ์และอมตะ" เหนืออื่นใดของ "พ่อ แม่" คือ "โซ่ที่เกี่ยวร้อยความรักและความศรัทธาของครอบครัวไทยให้เข้มแข็ง

"รูปธรรม" ความรักของท่านทั้งสองที่ให้กับ "ลูก" ...เชื่อว่าลูกทุกคนรับรู้ได้ด้วยสัมผัสทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็น ตา ด้วยแววตาแห่งความรัก ความเอ็นดู ให้ความรัก ให้กำลังใจ ให้ความเมตตา หู ด้วยคำพูดวาจาที่สื่อให้ลูกแต่ละคำช่างเสนาะจับใจ หาเสียงดนตรีใดๆ เทียบไม่ได้ จมูก ด้วยกลิ่นไอแห่งความรักเอ็นดู เมตตาแก่ลูกส่งได้ด้วยทุกลมหายใจ สู่ลูกอย่างชัดเจน ยามเจ็บไข้ได้ป่วย หรือยามที่เราทุกข์ระทม ท่านจะโอบกอดจูบหอมศีรษะ หน้าผาก แก้ม 2 ข้าง

 

ด้วยการสื่อกลิ่นไอแห่งความเมตตา กรุณา ให้กำลังใจแก่เราในการที่จะต่อสู้ต่อไป

 

ขณะเดียวกันภาษา "กาย" ที่ท่านสัมผัสกับเราเป็นไออุ่น กลายเป็นไอแห่งความมั่นคงปลอดภัย คุ้มครองเรา บางครั้งสองมือของท่านจะลูบไล้ศีรษะเราไปมาด้วยความนิ่มนวล พริ้วเบาบนผิวกายของลูก เราผู้เป็นลูกจะรู้สึกได้ดังว่า คือ น้ำมนต์ที่ชโลมศีรษะ ใบหน้า หน้าผาก แก้ม 2 ข้าง แผ่ซ่านทั่วสารพางค์กายให้เราได้มีความเข้มแข็ง แข็งแกร่ง ปลุกเราไม่ให้ย่อท้อ อดทนต่อสู้ชีวิตต่อไป

"ใจ" หรือ "จิตวิญญาณ" ของแม่และลูกต่อสายเชื่อมโยงกันมาตั้งแรกอยู่ในท้องแม่แล้วด้วย "สายสะดือ" แห่งความรักของแม่พ่อมีต่อลูกด้วยสายใยแห่ง "สายเลือด" ที่แม่ฟูมฟักให้ลูกได้เจริญเติบโตจากเซลๆ เดียวของพ่อแม่จนเป็นหลายเซล เป็น "ร่างกาย" ของเรา 9 เดือน อยู่ในท้องแม่ แม่ไปไหน กินอะไร แม่จะแข็งแรงเจ็บป่วย ดีใจเสียใจ "ลูก" จะเป็นอย่างนั้นเช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าแม่ที่อุ้มท้องอยู่จะกินอะไร จะทำอะไร ท่านคิดถึง ห่วงถึง อยากให้ "ลูกในท้องได้เป็นอันดับแรกก่อนเลย" ตัวเองจะลำบากยากเย็นอย่างไร ขอให้ลูกในท้องได้แข็งแรงสมบูรณ์ร่างกายครบ 32

 

 

หลังคลอด ท่านเฝ้าดูแลเราตั้งแต่แบเบาะทุกเรื่องของการเจริญเติบโตทางร่างกาย ว่าด้วยการบริโภคอาหาร ท่านจะดูแลอาหารให้ถูกกับ "ลิ้น" ด้วยคุณค่าโภชนาการสูง "ความผูกพันของแม่กับลูกถูกกลั่นกรองเป็นสายใยรักด้วยการกลั่นน้ำนมแม่จากสายเลือดให้ลูกดื่มกิน" ตามองค์การอนามัยโลกที่ให้ลูกกินนมแม่แต่อย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนถึง 2 ปี ต่อด้วยอาหารเสริมตามวัย ครบ 5 หมู่ และติดตามดูพัฒนาการของเราทั้งจิตใจ อารมณ์ สติปัญญา IQ, EQ, MQ ของเราให้เพียบพร้อมเป็น "คน" เป็นทรัพยากร "มนุษย์" เข้ากับสังคมได้ดี เป็น "ลูก" ที่ดีของท่านที่สมบูรณ์แบบ

 

 

และที่สำคัญคือ "เลี้ยงลูก" แล้วต้องให้ดีกว่า "พ่อ แม่" ที่เป็นอยู่ เช่น พ่อแม่เป็นคนรับจ้างหาเช้ากินค่ำ ก็หวังให้ลูกเป็นครู เป็นทหาร ตำรวจ เชื่อว่าครอบครัวและประเทศชาติเราก็เจริญมั่นคงไปด้วย

ผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านหนังสือธรรมะของ "พระพรหมมังคลาจารย์" ... "หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ" แห่งวัดชลประทานรังสฤษฏ์ หัวข้อเรื่อง "อยู่กันด้วยความรัก" ฉบับประจำเดือน มีคุณค่า น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง จึงได้นำมาเผยแพร่ให้สมาชิกมติชนได้ทราบด้วยกัน

"อยู่กันด้วยความรัก" เป็นคติธรรมคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ ที่ประกาศแก่ประชาชนทั้งหลายให้อยู่กันด้วยความรัก อันได้แก่ รักตนเอง รักครอบครัว รักชุมชน รักองค์กร รักประเทศชาติ รักบวรพุทธศาสนา และหมายรวมที่สุดคือ "รักธรรมะ" อันเป็นที่พึ่งของมนุษย์ทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้

"อยู่กันด้วยความรัก" เป็นคำที่ "คนดี" นำมากล่าวถึงอยู่เสมอ เพื่อเตือนตนเองและกัลยาณมิตรให้ใช้ชีวิตอยู่บน "โลกนี้" ด้วยความรัก เมตตา และปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ ร่วมทุกข์ ร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย

"อยู่กันด้วยความรัก" เป็นพลังในการสร้างสันติสุขให้บังเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับครอบครัว สังคมและประเทศชาติ โดยเฉพาะปัจจุบันนี้ที่ประชาชนชาวไทยต้องการเป็นอย่ายิ่ง คือ "ความสมานฉันท์"

"อยู่กันด้วยความรัก" เป็นคำพูดเพื่อปรับจิตปรับใจให้ยอมรับในธรรมชาติของ "คน" และมีความเข้าใจผู้อื่น มองโลกในแง่ดี พร้อมทั้งการให้อภัยซึ่งกันและกัน

"อยู่กันด้วยความรัก" จึงเป็นคำที่น่าส่งเสริมและสนับสนุนให้ความรักที่บริสุทธิ์ มีขึ้นในจิตใจของมนุษย์ทุกคน ทั่วโลก และถ้าเราสร้างความรักได้มากเท่าใด โลกก็จะสงบร่มเย็นมากขึ้นเท่านั้น เราจึงขอให้ "ท่าน" เป็นส่วนหนึ่งในความ "สันติสุข" ของสังคม และประเทศชาติต่อไป

"รักบริสุทธิ์และอมตะ" ที่ผู้เขียนเอ่ยถึงและคำสอนของหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ อยากสรุปว่า "รักบริสุทธิ์และอมตะ" ที่ "พ่อแม่" มีให้ "ลูก" ฉันใด ผู้เขียนภาวนาอยากให้ "คนไทย" ทุกคนที่อยู่ในครอบครัวใหญ่ชื่อ "ประเทศไทย" ได้ "อยู่กันด้วยความรัก" เช่นเดียวกันฉันนั้น เพื่อให้เกิดสันติสุขร่มเย็นแก่ประเทศชาติต่อไป...นะครับ

 

 

(ที่มา:มติชนรายวัน 22 มกราคม 2557)

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟซบุ๊กกับมติชนออนไลน์
www.facebook.com/MatichonOnline



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.