8 เคล็ดลับดูแลยาง ช่วยประหยัดน้ำมัน
 


8 เคล็ดลับดูแลยาง ช่วยประหยัดน้ำมัน


8 เคล็ดลับดูแลยาง ช่วยประหยัดน้ำมัน

ปัจจุบันมีนวัตกรรมรถยนต์และยางรถยนต์ประหยัดน้ำมันจากหลากหลายค่ายผู้ผลิต ที่ชูเทคโนโลยีชั้นเยี่ยมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ายานพาหนะเลย ก็คือ พฤติกรรมของผู้ขับขี่ ไม่ว่าเราจะขับรถรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ก็สามารถช่วยลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมได้ง่ายๆ ทั้งยังช่วยประหยัดค่าน้ำมัน และช่วยให้ยางรถยนต์ใช้ได้นานลดการสึกของดอกยางก่อนเวลาอันควร และไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อยๆ อีกด้วย ซึ่งต่อไปนี้คือ เทคนิคง่ายๆ จาก Goodyear ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้

1. ขับรถให้ช้าลง : ระดับความเร็วที่เหมาะสมและช่วยประหยัดน้ำมันได้มากที่สุดควรอยู่ที่ระหว่าง 50 – 70 กม./ชม. เคล็ดลับที่ง่ายที่สุดในการประหยัดน้ำมันก็คือ ลดความเร็วและขับขี่ตามอัตรา ความเร็วที่กำหนดไว้บนถนน

2. หลีกเลี่ยงการขับรถแบบกระโชกโฮกฮาก (aggressivedriving): ค่อยๆ เร่งเครื่องและเปลี่ยนเกียร์อย่างช้าๆ จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 20% ทั้งยังช่วยลดการสึกหรอของยางอีกด้วย สำหรับทริปการเดินทางไกล ควรใช้ระบบ cruisecontrol เพื่อคงระดับความเร็วให้คงที่

3.
อย่าใช้รถยนต์เป็นห้องเก็บของ : รถยนต์ที่บรรทุกน้ำหนักเพิ่มขึ้นทุกๆ 50 กิโลกรัม จะกินน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 1-2% ดังนั้น ย้ายสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากรถ เพื่อลดปริมาณการเผาผลาญเชื้อเพลิง และลดการสึกหรอที่ไม่จำเป็นของยาง

4. หมั่นตรวจเช็กความดันลมเป็นประจำทุกเดือน
: ลมยางที่ไม่มากไป ไม่น้อยไปจะช่วยให้การใช้น้ำมันเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลมยางอ่อนจะทำให้มีการสึกหรอของดอกยางบริเวณขอบด้านนอก (หรือไหล่ยาง) เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความร้อน อันเป็นสาเหตุให้ความทนทานของยางลดลง และยังทำให้รถมีการกระจายน้ำหนักที่ไม่สมดุล ทำให้ยางได้รับความเสียหายเร็ว ขึ้นและสึกหรอมากขึ้น ส่งผลให้อายุการใช้งานของยางลดลง

5. ปรับถ่วงล้อยางให้สมดุลตลอดเวลา
: ควรปรับสมดุลของยางอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือทันทีที่มีอาการสั่นของล้อ หรือพวงมาลัยยางที่ไม่ได้ปรับถ่วงสมดุล จะทำให้รถสั่นขณะวิ่งบนท้องถนนและผู้ขับขี่จะเกิดความเมื่อยล้าในการบังคับรถ และทำให้ยางสึกกร่อนก่อนเวลาอันควร การปรับถ่วงสมดุลให้แก่ยางและรถจะทำให้ยางสามารถใช้งานได้นานขึ้น มีประสิทธิภาพดีขึ้น และให้ความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นอีกด้วย

6.
หมั่นตรวจสอบยางอยู่เสมอ : เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเศษหิน หรือสิ่งแหลมคมติดอยู่ที่อาจเป็นสาเหตุของรู รั่ว ถึงแม้รูบนหน้ายางจะไม่ลึกพอที่จะทำให้ยางแบนทันที แต่อาจทำให้ยางมีรอยแตก หรือเป็นร่องบุ๋ม ส่งผลให้ยางไร้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

7. ซ่อมแซมยางทันที
: ควรรู้ว่า เมื่อไรที่ควรจะซ่อมและเปลี่ยนยางหากพบว่ายางแบน ไม่มีลม ให้ถอดยางออกจากล้อ เพื่อนำไปตรวจเช็กความเสียหาย ยางที่แบนแม้จะวิ่งในระยะทางสั้นๆ ก็อาจได้รับความเสียหาย จนไม่สามารถนำมาซ่อมแซมได้ และอาจทำให้ค่าใช้จ่ายบานปลายมากขึ้น นอกจากนี้ การซ่อมยางควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

8 .
ซื้อยางคุณภาพดี : การซื้อยางที่มีความทนทานคุณภาพดี และมีแรงต้านทานการหมุนของยางรถยนต์ต่ำ 1 จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ในระยะยาว เช่น ยาง Goodyear Assurance Triplemax (กู๊ดเยียร์ แอชชัวแรนซ์ ทริปเปิ้ลแมกซ์) ที่ทนทานและมีความยืดหยุ่นดี ทำให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ได้ไกลขึ้น นานขึ้น และประหยัดมากขึ้น 1 แรง ต้านทานการหมุนของยางรถยนต์ คือ การที่พลังงานสูญหายไประหว่างที่ยางรถหมุนบนพื้นผิวถนน ซึ่งสาเหตุของการสูญเสียพลังงานดังกล่าว คือ ยางมีการปรับเปลี่ยนรูปทรงขณะขับขี่ และแรงต้านทานที่เกิดขึ้นระหว่างยางรถยนต์และพื้นผิวถนนซึ่งแรงต้านทานจะมีระดับที่แตกต่างกันไปตามสภาพของพื้นผิวถนน การมีแรงต้านทานการหมุนที่ต่ำจะทำให้รถใช้พลังงานในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ลดลง ดังนั้น รถจึงใช้น้ำมันน้อยลง ทั้งนี้ แรงดันยางจะมีผลกระทบต่อแรงต้านทานการหมุนของยางรถยนต์โดยความดันลมยางที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ยางมีการปรับเปลี่ยนรูปทรงขณะขับขี่ลดลง และทำให้แรงต้านทานการหมุนลดลงตามไปด้วย.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.