หนาวเนื้อห่มเหล็ก กับ MAZDA MX-5 (ตอนที่ 2)
 


หนาวเนื้อห่มเหล็ก กับ MAZDA MX-5 (ตอนที่ 2)


หนาวเนื้อห่มเหล็ก กับ MAZDA MX-5 (ตอนที่ 2)

ทดสอบยานยนต์โรสเตอร์สุดอมตะ ของค่าย "Zoom Zoom" เปิดหลังคาท้าลมหนาวตอนที่ 2 กับ "Mazda MX-5 2013"...

ความสัมพันธ์ระหว่างรถยนต์และคนขับ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน นักขับที่ประสบความสำเร็จในอาชีพทดสอบรถยนต์ ต้องหลอมรวมตัวเองให้เป็นหนึ่งเดียวกับรถทดสอบ ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนที่สุด คือ KiKi ศักดิ์ นานา นักขับรถดริฟต์มืออันดับต้นๆ ของประเทศไทย ซึ่งต้องสไลด์รถให้เกิดอาการท้ายปัดอย่างรุนแรง แล้วประคองพวงมาลัย คันเร่ง ทิศทาง และความเร็วให้มีความสมดุลอย่างสูงสุด ปัจจัยหรือตัวแปรส่วนใหญ่แล้วไม่ได้ขึ้นกับรถแข่ง หรือรถทดสอบเสมอไป คนขับที่อยู่หลังพวงมาลัย จึงต้องใช้ประสาทสัมผัสของตัวเองในการทำเรื่องดังกล่าวให้มีความสมบูรณ์

สำหรับ MX-5 NC ของค่าย Zoom Zoom รถ Roadster รุ่นใหม่คันนี้ ให้การตอบสนองที่ชัดเจนกว่าเดิม จากช่วงล่างที่พัฒนามาเป็นอย่างดี การกดคันเร่งอย่างต่อเนื่อง จะทำให้มันกลายเป็นรถยนต์ที่ขยันทำรอบมากกว่าปกติ แม้เพียงแค่นิดเดียวที่น้ำหนักถูกกดลงไปยังคันเร่ง เกียร์ออโต้ 6 สปีด จะลดตำแหน่งลงทันที พร้อมๆ ไปกับรอบเครื่องที่กวาดขึ้นอย่างร่าเริง ส่วนท้ายของรถจะออกอาการที่ไวมากกว่าปกติ ซึ่งทำให้ต้องระวังกันพอสมควร แต่ล้อคู่หน้าที่จิกเกาะกับผิวถนนอย่างมั่นคง ทำให้ผมสามารถผ่านโค้งมุมแคบบางโค้งไปได้อย่างเฉียวเฉียด

ทั้งนี้ มันเป็นรถที่มีกำลังพอเหมาะพอควร ไม่แรงมากจนพาเจ้าของไปจบเห่ หรืออืดเป็นเต่าคลานจนน่ารำคาญ กำลัง 167 แรงม้าบนน้ำหนักตัวที่ 1.1 ตัน เหมาะสมมากเมื่อต้องผจญกับทางขึ้น-ลงเขาโหดๆ ที่อุดมไปด้วยทางโค้ง การถ่ายเทน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม แม้จะเป็นรถเปิดประทุน ช่วงล่างที่แข็งกระด้างยังให้ความรู้สึกถึงการยึดเกาะ จนอาจทำให้คุณใส่มันหนักข้อขึ้นไปอีก


ถนนที่สวยงามของเส้นพะเนินทุ่ง ทำให้ผมสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนและกระจ่างตาเมื่อพับหลังคาเก็บ แม้แดดตอนบ่ายจะร้อนจนแสบผิว แต่กระแสลมเย็นของความกดอากาศสูงของเดือน ธ.ค. ทำให้รู้สึกสดชื่น รื่นเริง อย่างบอกไม่ถูก เส้นทางจาก อ.หนองหญ้าปล้อง ไปจนถึงวงเวียนแก่งกระจานมีลักษณะเป็นทางลาดยางมะตอย ตรง ยาว สลับทางโค้งกว้างๆ 2 เลนสวนกัน ที่มีวิวทิวทัศน์สองข้างทาง ประกอบไปด้วย ทุ่งหญ้งแห้งๆ สีน้ำตาล เนินเขาเตี้ยๆ กับเรือกสวนไร่นาของชาวบ้านในแถบนั้น

พวงมาลัยที่ผอมบางของ MX-5 NC มีขนาดรอบวงที่เรียวเล็กพอเหมาะกับมือของคนเอเชีย เมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัยบนรถแบบเปิดหลังคา คุณจะได้สิ่งที่ต้องการทั้งหมดจากสภาพการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าโดยเฉพาะการวิ่งด้วยความเร็วต่ำ ท่ามกลางอากาศที่เย็นยะเยือกในช่วงปลายเดือน ธ.ค.แบบนี้ การสั่นสะเทือนจากสภาพผิวถนน ที่เป็นลอน คลื่น จะส่งตรงถึงมือของคนขับให้ได้รับรู้อาการของระบบรองรับที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน

เมื่อขับเข้าโค้ง เจ้า MX-5 NC ให้การตอบสนองที่เป็นธรรมชาติ และมีความชัดเจนมากกว่า Mercedes Benz SLK 200 AMG R172 หรือแม้แต่สุดหล่อจากเมืองเบียร์ อย่าง BMW Z4 E89 sDRIVE 20i อารมณ์และความรู้สึกที่สัมผัสได้ ทำให้คุณกล้าที่จะใส่มันแรงขึ้น เมื่อเริ่มคุ้นเคยกับสภาพของการควบคุมบน MX-5 NC เมื่อกดคันเร่งอย่างต่อเนื่องอาการท้ายกวาด จะเริ่มปรากฏทันทีที่ความเร็วในโค้งมากเกินไป จนไม่สัมพันธ์กับมุมมและองศาที่ถูกต้อง ซึ่งเกิดขึ้นจากความเร็วที่เกินคำว่าพอดี

ขณะที่ระบบรองรับด้านหน้าจิกกดหน้ารถให้เกาะถนน บั้นท้ายที่ค่อนข้างไวจะปัด หรือกวาดทันทีที่คันเร่งถูกกดสวนในโค้งแคบๆ สำหรับทางตรงนั้น MX-5 NC วิ่งได้อย่างมั่นคง แม้จะใช้ความเร็วสูงในระดับ 160-180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากผิวถนนเรียบพอมันจะพลิ้วไปตามเส้นทาง จนคุณรู้สึกพออกพอใจ


รถทดสอบคันนี้ เป็นรุ่นปี 2013 และมีน้ำหนักตัวมากกว่า MX-5 NA - NB จากอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี กับหลังคาโลหะแบบพับเก็บได้ ตัวรถมีความหรูหรา น่าใช้งานจากการดีไซน์และรูปแบบของการจัดวาง มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ MX-5 ทั้งสามรุ่นเหมือนกัน คือ ตำแหน่งและทรงของมาตรวัด การจัดวางปุ่ม หรือสวิตช์ต่างๆ และอุปกรณ์สำหรับการเปิด-ปิดหลังคา ส่วนสมรรถนะนั้นในรถรุ่นใหม่ ย่อมดีขึ้นจากนวัตกรรมการขับเคลื่อนที่ถูกปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เพื่อทำให้มันมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

รถ MX-5 NC ควบคุมได้ง่ายกว่า พวงมาลัยให้สัมผัสที่ชัดเจน แม้จะค่อนข้างไวไปสักนิดที่ย่านความเร็วสูง อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 7.6 วินาที ยังทำให้มันมีการเร่งและออกตัวใกล้เคียงกับ BMW Z4 E89 sDRIVE 20i / Mercedes Benz SLK 200 AMG R172 แต่ควบคุมได้เฉียบคมกว่าเล็กน้อยจากน้ำหนักที่เบากว่า จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและเฟืองท้ายแบบ LSD Limited Slip Differential ผิวถนนที่ไม่เรียบ ส่งผลกระทบโดยตรงที่ย่านความเร็วสูง อาการดังกล่าวเกิดจากช่วงล่างที่ถูกเซตมาในแนวทางสปอร์ต ส่วนอาการหน้าดื้อโค้ง คงต้องใส่กันสุดๆ มันถึงจะเกิดขึ้น โดยปราศจากการเตือน และเมื่อมันเกิดขึ้นก็ยากแล้วที่จะแก้ใข หากคุณไม่ใช่มือระดับเซียน

ข้อดีของเจ้า MX-5 NC คือ มันปราศจากอาการยุบ หรือย้วยอย่างสิ้นเชิงเมื่อเบรกเต็มกำลัง พร้อมไปกับการหักเลี้ยวแบบกะทันหัน เกียร์เซมิออโตเมตริก 6 สปีด ยังมีอัตราทดที่เข้ากันกับย่านของกำลังแรงบิด โดยเน้นไปที่การคงรอบเอาไว้ให้นานกว่าปกติ ก่อนจะเปลี่ยนตำแหน่งของอัตราทดขึ้นไปสู่เกียร์ที่สูงกว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างน่าแปลกใจ และมันขับได้ดีพอๆ กันกับ Z4 sDRIVE 20i ซึ่งมีราคาแพงกว่าถึง 1 เท่าตัว


MX-5 ทุกรุ่น ถูกออกแบบให้เป็นรถที่ขับสนุก สัมผัสที่ได้รับจะนำพาคุณให้ย้อนกลับคืนไปสู่อดีตอันรุ่งเรืองของรถเปิด หลังคาในยุค 1960 ทุกสิ่งทุกอย่างของมันเชื่อมโยงการขับขี่ให้เข้าถึงแก่นแท้ของคำว่า รถสปอร์ต ได้อย่างเหลือเชื่อ มันไม่ได้แรงบ้าพลังจนเกินเหตุ ซึ่งทำให้ควบคุมได้ง่าย และมีราคาสมเหตุสมผลพอที่คนทั่วไปจะไขว่คว้าหามาครอบครอง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ดีและทำให้มันกลายเป็นเจ้าของสถิติโลกด้านยอดขายสูงสุดในรถยนต์แบบเปิดประทุน มันคือตัวตายตัวแทนที่เข้ามาจุดประกายให้ค่ายรถอื่นลอกเลียนแบบ แต่ไม่มีค่ายใดทำได้เหมือน หรือแม้แต่ใกล้เคียง ทั้งราคาค่าตัว การขับขี่ และค่าบำรุงรักษา

นอกจากนี้ การออกตัวอย่างรวดเร็วด้วยเกียร์ต่ำ สามารถทำให้รถ MX-5 พุ่งทะยานไปข้างหน้าราวกับถูกยิงจากหนังสติ๊ก คันเร่งน้ำหนักเบาแบบพอดิบพอดี บวกกับพวงมาลัยที่สื่อสารระหว่างคนขับและ ถ่ายทอดความรู้สึกจากสภาพถนน โดยส่งผ่านช่วงล่างขึ้นมาถึงวงพวงมาลัยในทุกย่านความเร็ว ทำให้มันกลายเป็นรถเล็กที่น่าขับมากที่สุดคันหนึ่งในยุคนี้ ผมไม่แนะนำให้ขับแบบดริฟต์บนถนนที่มีผู้คนอื่นๆ ใช้ทางร่วมกัน และเมื่อคุณใช้ความเร็วสูงบนรถสปอร์ตคันเล็กๆ

สิ่งแรกสุดที่ต้องคำนึงถึง คือ การมองให้ไกลและเพิ่มความระมัดระวัง ไม่หลงระเริงไปกับความเร็วที่มันมอบให้ คือ สิ่งที่จำเป็นในการป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด คุณอาจพบว่าในพุ่มไม้ข้างทางมีจักรยานยนต์กำลังโผล่ออกมาแบบไม่ได้มองมาทางคุณ ผิวทางที่มีหลุมบ่อขนาดยักษ์ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นจากฝีมือของรถสิบล้อบรรทุกเกิน หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นอย่างต้นไม้ล้มขวางถนนเพราะลมพายุ การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์เมื่อต้องขับเร็วมากกว่าปกติ จะช่วยให้คุณเดินทางไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย และไร้สิ้นซึ่งรอยขีดข่วนทั้งปวงบนรถของคุณ


Mazda MX-5 NC เปิดโอกาสให้ผมได้ลองใช้เทคนิคใหม่ๆ ในการเข้าโค้งด้วยการรักษาระดับของ ความเร็วให้พอดีกับรูปแบบของทางโค้ง กดคันเร่งสวนลงลึก เมื่อใกล้ถึงสุดปลายของโค้งจนท้ายรถออกอาการ มันเป็นรถที่จะไม่มีการแจ้งเตือนให้คุณได้รับรู้ถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เมื่อใส่มันหนักจนเกินลิมิต ส่วนท้ายที่เริ่มขาดการยึดเกาะแม้จะเป็นล้อขับเคลื่อนแก้ได้ไม่ยาก หากไม่บ้าจนเกินขอบเขต

ยาง Bridgestone Potenza RE050 ขนาด 205/45R17 แม้จะมีเนื้อที่ค่อนข้างแข็ง เนื่องจากเป็นยางแบบรันแฟลตที่ไม่ต้องพึ่งพายางอะไหล่ให้เกะกะที่เก็บสัมภาระ ส่วนท้าย RE050 ให้สัมผัสที่แท้จริงของความกระด้าง เมื่อมันทำงานร่วมกับช่วงล่างแข็งๆ ทุกอย่างจึงดูเร็วและไวไปหมด ไม่ว่าจะเป็นหลุมบ่อ รอยต่อของผิวถนน ลอนคลื่นที่เกิดจากรถบรรทุกหนักบนทางลาดยางมะตอย อาจทำให้คุณแปลกใจที่สามารถรับรู้สภาพของผิวถนนได้อย่างชัดเจนผ่านพวงมาลัย สำหรับคนที่ชอบนั่งรถนิ่มสบายก้นอาจดูเลวร้าย แต่สำหรับพวกมือซิ่งที่ชอบรถสปอร์ต ที่ต้องใช้ฝีมือในการควบคุมเนื่องจากความดิบ จะชอบและติดอกติดใจในรสชาติของกันสะเทือนแบบสปอร์ตบนเจ้า MX-5 NC

ยางแบบรันแฟลตรุ่นนี้ แม้จะออกมานานแล้ว แต่ประสิทธิภาพที่สามารถวิ่งได้ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแม้ลมยางจะรั่วออกจนหมดโดยไปได้ไกล 100 กิโลเมตร ทำให้เรื่องเลวร้ายเมื่อยางต้องไปแตกกลางทางเปลี่ยวๆ หมดไปโดยปริยาย โช้กอัพอันลือชื่อยี่ห้อ Bilstein ยังช่วยให้รุ่น NC GEN-3.5 คันทดสอบ มีประสิทธิภาพด้านการซับแรงสะเทือนในทุกสภาพถนน คือมันจะสะเทือนทุกครั้งที่วิ่งผ่านทางแย่ๆ และเกาะเป็นกาวเมื่อพบกับผิวทางเรียบ


ช่วงระยะเวลาของการเปลี่ยนเกียร์ในโหมดออโต ที่เกียร์ 3 นั้น ECU ที่ควบคุมเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง จะปล่อยให้ผู้ขับสามารถลากรอบไต่ระดับความเร็วได้อย่างสะใจ แม้จะถอนคันเร่ง แต่เกียร์ยังคงคาอยู่ในตำแหน่งเดิมชั่วครู่ ทำให้อารมณ์และความรู้สึกที่ได้รับ มีความแตกต่างจากเกียร์ 7G Tronic-Plus Transmission ของ Mercedes Benz SLK 200 AMG R172 หรือเกียร์สมรรถนะสูงของ ZF 8 HP ที่วางใน BMW Z4 sDRIVE 20i E89 อยู่พอสมควร

พวกที่บ้าลากรอบจะต้องชอบเจ้า MX-5 NC รุ่นเกียร์ออโตอย่างแน่นอน จากคาแรกเตอร์ของระบบส่งกำลังที่ช่วยผลักดันความมันส์หลังพวงมาลัย ในโหมดแมนนวลที่ผู้ขับสามารถชิฟเกียร์เองตามใจชอบ ผ่านคันเกียร์ในตำแหน่ง +/- หรือแม้แต่การชิฟเกียร์ขึ้น-ลงผ่านแป้น Paddle Shift หลังพวงมาลัย ส่วนแป้นและปุ่มสวิตช์ Paddle Shift สีเงินทำจากพลาสติก ออกแบบให้ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไวเพียงแค่ใช้นิ้วกด เกียร์ของ MX-5 NC จะตอบสนองอย่างรวดเร็วในการเปลี่ยนอัตราทดและเหมาะกับเส้นทางบนภูเขา ที่อุดมไปด้วยโค้งหลากหลายรูปแบบ


นอกจากรูปแบบ Roadster สองที่นั่งเปิดประทุนแล้ว ระบบให้ความบันเทิงเริงรมย์ของ MX-5 NC 2013 ยังถูกเติมเต็มด้านสุนทรียภาพในการขับขี่อีกด้วย ระบบเครื่องเสียงของรถรุ่นนี้ ใช้ชุดควบคุมและลำโพงชั้นยอดจากค่าย Bose มาพร้อมกับลำโพงคุณภาพสูง 7 ทิศทาง ที่ให้เสียงคมชัดแม้จะเปิดหลังคาวิ่ง เครื่องเสียงของ Bose มากับเซ็นเซอร์ ปรับความดังแบบอัตโนมัติเมื่อหลังคาแบบ Retractable Hard Top ถูกพับเก็บ แล้ววิ่งในลักษณะเปิดประทุน ระบบเครื่องเสียงของ Bose ใน MX-5 NC สามารถรองรับ CD/ MP3/ AUX / FM /AM โดยไม่มีจอภาพที่จะดึงความสนใจของผู้ขับขณะทำการขับขี่ ซึ่งอาจทำให้สมาธิในการควบคุมลดน้อยลง

ความง่ายของระบบต่างๆ ที่เชื่อมโยงการใช้งานที่ครอบคลุม จะช่วยเพิ่มเติมสมรรถนะของการขับได้ดี การที่ไม่มีปุ่ม หรือสวิตช์ ตลอดจนระบบนำทางด้วยดาวเทียม แม้จะด้อยกว่าคู่แข่งจากเยอรมนี การตัดขาดจากอุปกรณ์ไฮเทคที่รกรุงรัง แลกคืนด้วยความง่ายและสะดวกในการเข้าถึง มันคือตัวแทนของ Roadster ในอดีตที่ปราศจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัยและก้าวหน้า ซึ่งส่งถ่ายสัมผัสของรถเปิดหลังคาในยุคก่อนได้อย่างกลมกลืน


Mazda MX-5 NC อย่างที่บอกว่ามันให้การตอบสนองต่อการขับขี่รวดเร็วกว่ารุ่นพี่ ทั้งรุ่น NA และ NB สำหรับบางจุดที่ต้องขับเข้าสู่ทางโค้งยาวๆ สลับจากซ้ายไปขวานั้น การถ่ายเทน้ำหนักอยู่ในระดับที่ยิ่งยวด ซึ่งเกิดจากความแข็งและหนึบของระบบรองรับ มันเปิดโอกาสให้ผมใช้ทักษะในการควบคุมที่ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากรถเปิด หลังคารุ่นอื่นๆ อย่างชัดเจน แม้ท้ายจะไว แต่อาการในโค้งจะน้อยกว่ารุ่น NA อยู่พอสมควร จากน้ำหนักและการปรับแต่งจุดยึดของระบบรองรับด้านหลัง ซึ่งรวมถึงขนาดของล้อและยางที่โตกว่ารุ่นแรกอยู่พอสมควร

สำหรับการเบรกที่ย่านความเร็วสูง จากรูปแบบของการขับเคลื่อน ซึ่งเป็นรถสปอร์ตขนาดเล็กเครื่องยนต์วางตามยาว ด้านหน้าขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้การถ่ายเทน้ำหนักขณะเบรกที่ย่านความเร็วสูง มีอาการที่ค่อนข้างมั่นคง ล้อทั้งสี่ของมันยังคงเกาะกับผิวถนน ไม่ว่าผมจะถอนคันเร่ง หรือกดเบรกลึกๆ เพื่อเตรียมหักพวงมาลัยเข้าสู่หัวโค้ง แม้แต่การออกตัวจากจุดหยุดนิ่งแบบเต็มกำลัง ส่วนหน้าของรถก็ไม่มีอาการเหิน หรือยกตัวแม้แต่น้อย

องค์ประกอบที่ดีของจุดยึดพวกยางแท่น เครื่องแท่นเกียร์ กับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ เตี้ย และการกระจายน้ำหนักที่ดีเยี่ยม เข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพของการทรงตัวได้อย่างเหลือเชื่อ ขนาดของตัวถังและฐานล้อที่เล็กและสั้นกว่าของคู่แข่ง ไม่เป็นปัญหาสำหรับการทำความเร็วบน MX-5 NC ถึงแม้ความเร็วปลายของมันจะแพ้คู่ต่อสู้จากเมืองเบียร์อยู่พอสมควรก็ตาม


จากบ่าย 2 ไปจนเกือบตี 1 ของการขับทดสอบรถคันนี้ไปบนพื้นที่อันสวยงามของ จ.เพชรบุรี-อ.หัวหิน ผมสารภาพอย่างไม่มียางอายเลยว่า ไม่ได้ปิดหลังคาโดยเอาหลังคาโลหะของมันเก็บลงไปตั้งแต่เริ่มหักพวงมาลัยเข้าสู่ทางหลวงชนบทของ อ.หนองหญ้าปล้อง การวิ่งไปเรื่อยๆ ในย่านความเร็วต่ำท่ามกลางภูมิประเทศที่สวยงาม และอากาศที่เย็นสดชื่นแบบนี้ มีโอกาสน้อยครั้งมากที่จะมีเวลาให้กระทำกันบ่อยๆ จากที่ตั้งของประเทศไทยซึ่งอยู่ในเขตร้อนชื้น อุณหภูมิตอนบ่าย 2 โมง ในแถบพะเนินทุ่ง ที่ 26 องศาเซลเซียส ลดต่ำลงมาเหลือ 19 องศา เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง

ผมขับเจ้า MX-5 NC มาถึงยังสันเขื่อนแก่งกระจาน พร้อมๆ กับใบหน้าที่ตรากตรำกรำแดดมาตั้งแต่เช้า ซึ่งกลายเป็นรอยยิ้มที่พึงพอใจของคนบ้ารถเปิดหลังคาทันทีที่โผล่พ้นสันเขื่อน ผมขับผ่านแนวเขื่อนแก่งกระจาน ในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า แสงอันนุ่มละมุนกระจ่างตา ไร้เมฆหมอกในช่วงกลางฤดูหนาวของแก่งกระจาน กลายเป็นมนต์ขลังที่ยากจะลืมเลือน ในช่วงชีวิตของการเป็นสื่อมวลชนสายยานยนต์ใน ไทยรัฐออนไลน์


ดวงอาทิตย์ในช่วงฤดูหนาวจะหล่นจากขอบฟ้าเร็วเป็นพิเศษ ผมยังมะงุมมะงาหรา เอ้อระเหยลอยชายใช้ความเร็วต่ำ ลัดเลาะจากเขื่อนแก่งกระจานมุ่งหน้าไปยังปึกเตียน เพื่อไปให้ทันงานเลี้ยงของค่าย Ducati พร้อมๆ ไปกับการพับหลังคาวิ่งมาตั้งแต่บ่าย 2 โมง

กลไกของชุดหลังคาแข็งแบบพับได้ของเจ้า NC มีความเรียบง่าย ไม่สลับซับซ้อนเหมือนกับ Mercedes Benz SLK หรือแม้แต่ BMW Z4 E89 น้ำหนักของชุดหลังคาที่เบาเพียงแค่ 35 กิโลกรัม ส่งผลให้มันทำงานได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ปลดล็อกแล้วกดสวิตช์ มันจะพับเก็บ หรือกางออกเพื่อปิดคลุมในเวลาเพียงแค่ 15 วินาที หลังคาเปิด-ปิดได้อย่างนิ่มนวล ไร้การกระแทกใดๆ ทั้งสิ้น มันทำงานได้นิ่มนวลและรวดเร็วกว่า ทั้ง Z4 และ SLK จากขนาดและน้ำหนักที่เล็กและเบากว่า และเมื่อมันเริ่มทำงานแทบจะไม่ได้ยินเสียงหึ่งๆ ของมอเตอร์เลยแม้แต่น้อย

19.00 น. ผมมุดเข้าสู่ถนนที่จะตรงไปยังวนอุทยานแห่งชาติเขานางพันธุรัต เพื่อไปยังโรงแรมเดอลาเปซ สปีดความเร็วที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยปล่อยให้ใบหน้าปะทะไปกับกระแสลมเย็นยะเยือกจากอ่าวไทย ปนกับซากแมลงที่ลอยข้ามหัวไปไม่ต่างจากสิงห์นักบิดกำลังควบมอเตอร์ไซค์ฝ่าสายลมหนาว อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้นว่า ความรู้สึกดีๆ ได้หวนคืนกลับมาอีกครั้งเหมือนกับการได้พบคนรักเก่า สัมผัสของ Roadster จาก Mazda MX-5 เมื่อขับแบบเปิดหลังคามันจะเชื่อมโยงคุณให้เข้าใกล้กับธรรมชาติรอบข้างได้ดียิ่งขึ้น ความรู้สึกที่ผิดแปลกแตกต่างไปจากการขับขี่รถสปอร์ตแบบหลังคาปกติ จะทำให้คุณเพลิดเพลินจนไม่อยากลงจากรถโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศกำลังเป็นใจแบบนี้

จักรกล Mazda MX-5 ทุกรุ่น เหมาะสมกับการเดินทางที่ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบเสมอไป เพียงแค่ขับมันไปเรื่อยๆ ด้วยความเร็วต่ำ ซึ่งเป็นย่านความเร็วที่มีความสมดุล กับรถยนต์แบบเปิดประทุน คุณจะพบตัวเองอยู่ในโลกของจิตนาการแห่งการขับขี่เดินทาง ซึ่งเชื่อมโยงธรรมชาติรอบตัวเข้ากับจิตวิญญาณของนักขับได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.