พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด กสท. เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีมติพิจารณารับรองผลการประมูลคลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล โดยบอร์ด กสท.มีมติรับรองผลอย่างเป็นทางการของผู้ประกอบการจำนวน 17 บริษัท 24 ใบอนุญาตช่องรายการ ซึ่งจากนี้สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการประกาศลงเว็บไซต์อย่างเป็นทางการและส่งหนังสือแจ้งเตือนผู้ชนะการประมูลทั้ง 17 ราย ภายใน 3 วัน

ขั้นตอนต่อไป ภายในสัปดาห์นี้ กสท. จะเชิญผู้ชนะการประมูลมาทำความเข้าใจ จากนั้นจะกำหนดแนวทางการเลือกหมายเลขช่องรายการของผู้ชนะการประมูล โดยผู้ที่ชนะการประมูลที่เสนอราคาประมูลสูงสุดจะมีสิทธิเลือกหมายเลขก่อน ทั้งนี้ หากรายใดพร้อมสามารถออกอากาศทีวีในระบบดิจิตอลได้ทันที แต่ต้องออกอากาศก่อนกำหนด กสท. คือวันที่ 1 เมษายนนี้

พ.อ.นทีกล่าวว่า ในการประชุมบอร์ดครั้งนี้ ทางผู้ประกอบการทั้ง 4 รายที่ได้รับใบอนุญาตให้เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายในระบบทีวีดิจิตอล ได้มีการส่งแผนการวางโครงข่ายของปี 2557 มาให้ กสท.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยกำหนดให้ภายในเดือนมิถุนายน พื้นที่ครอบคลุมการออกอากาศจะสามารถดำเนินการให้เข้าถึงรับชมทีวีดิจิตอลกว่า 12 ล้านครัวเรือน หรือกว่า 50% ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวมี 11 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ, นครราชสีมา, เชียงใหม่, สงขลา, อุบลราชธานี, สุราษฎร์ธานี, ระยอง, สิงห์บุรี, สุโขทัย, ขอนแก่น และอุดรธานี ส่วนการรับชมผ่านกล่องรับสัญญาณทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี คาดสามารถรับชมได้ในช่วงเดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป

"กสท.จะนำเงินที่ได้จากการประมูลทีวีดิจิตอลทั้งหมด 50,862 ล้านบาท เข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อไปใช้ในโครงการสำหรับช่วยสาธารณะในด้านกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ ซึ่ง 1 ในโครงการดังกล่าวคือ การออกคูปอง 690 บาทแก่คนไทย 22 ล้านครัวเรือน เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านอุปกรณ์รับสัญญาณในระบบทีวีดิจิตอล คาดว่าจะสามารถเริ่มแจกได้ในช่วงเดือนเมษายน" พ.อ.นทีกล่าว