เทรนด์อี-คอมเมิร์ซไทยปี57 โมบายล์-ออนไลน์เพย์เมนท์ จุดพลุพารุ่ง
 


เทรนด์อี-คอมเมิร์ซไทยปี57 โมบายล์-ออนไลน์เพย์เมนท์ จุดพลุพารุ่ง


เทรนด์อี-คอมเมิร์ซไทยปี57 โมบายล์-ออนไลน์เพย์เมนท์ จุดพลุพารุ่ง

2 บิ๊กด้านอีคอมเมิร์ซ ชี้ ปี 57 อีคอมเมิร์ซไทย และการช็อปปิ้งออนไลน์ จะเติบโตมากขึ้นอีก เนื่องจากการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับการความสะดวกในการชำระเงิน และ การจัดส่งสินค้า ที่สะดวกรวดเร็วมากกว่าเดิม... 

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ราคูเท็น ตลาดดอทคอม (Rakuten TARAD.com) กล่าวว่า ภาพรวมของอีคอมเมิร์ซไทยในปี 2556 นั้น มีการเติบโตได้น่าสนใจ ผู้ประกอบการหลายรายมีการพัฒนาตั้ง ระบบเพย์เมนท์ดีขึ้น บริการรับ-ส่งสินค้าโลจิสติกส์พัฒนาขึ้นอย่างมาก เช่นเดียวกับตลาดผู้ใช้งานด้านโมบายล์ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เติบโตขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากได้เครือข่าย 3G ช่วย ทำให้ปีนี้การเติบโตอยู่ที่ประมาณ 30% ประกอบกับผู้ประกอบการต่างชาติิเข้ามาทำตลาดในไทยมากขึ้น รวมไปถึงตลาดแอพพลิเคชั่นที่คนเริ่มหันมาซื้อแอพฯ จากแอพสโตร์มากขึ้น สังเกตจากพฤติกรรมคนไทยหันมาซื้อของมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไป ที่มีกำลังซื้อสูง

กก.ผจก.ราคูเท็นตลาดดอทคอม กล่าวอีกว่า สำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซในปี 57 เชื่อว่าจะเป็นปีของตลาดโมบายล์คอมเมิร์ซ หละงจากที่ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตถึง 158% หรือมากกว่าเท่าตัวในปี 56 ขณะที่โซเชียลมีเดียจะมีบทบาทต่อการซื้อขายมากขึ้น โดยเฉพาะ LINE จะทำให้การซื้อ-ขายรวดเร็วมากขึ้น เช่นเดียวกับเทรนด์ซื้อขายกลุ่มVertical e-Commerce ที่จะเป็นร้านขายของเฉพาะทางออนไลน์ เช่นซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ นอกจากนี้ ยังมีคู่แข่งจากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดเมืองไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ 10 เทรนด์เด่นอีคอมเมิร์ซในปี 2557 ได้แก่

1. โซเชียลเน็ตเวิร์กจะเป็นช่องทางในการขายของมากขึ้น
2. LINE จะทำให้การขายสินค้าทำได้รวดเร็ว
3. ร้านค้าออนไลน์ที่ขายของเฉพาะทางจะมากขึ้น
4. ปีทองของดิจิตอลคอนเทนต์ เช่น อีบุ๊ก ดิจิตอล มิวสิกสโตร์
5. เว็บไซต์ผู้ประกอบการต่างชาติจะเข้ามาบุกตลาดไทยมากขึ้น จริงจังมากกว่าเดิม ด้วยโปรโมชั่นแรง
6. การชำระเงินออนไลน์ ที่ถูกพัฒนาทำให้สะดวกมากกว่าเดิม
7. การเกิดขึ้นของเว็บไซต์เปรียบเทียบสินค้า
8. การตลาดออนไลน์จะมีความก้าวหน้ามากกว่าเดิม ด้วยการนำเทคนิคใหม่ๆ เข้ามาใช้ เช่น แบนเนอร์โฆษณาติดตามไปทุกหน้าเพจ
9. จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนคนดูให้หันมาซื้อของออนไลน์มมากขึ้น เพื่อสร้างยอดขาย
10. การขนส่งสนค้า คลังสินค้า จะมีผู้เล่นโลจิสติกส์หน้าใหม่เข้ามาแข่งขัน ทำให้บริการดีขึ้น

ด้าน นายเบนจามิน ทอมสัน รองประธานฝ่ายการตลาด แห่งประเทศไทย ของ ซาโลรา (www.zarola.co.th) กล่าวว่า ทางซาโลร่ามีผลการตลาดที่ดีมากขึ้น เฉลี่ย 15% ทุกเดือน โดยตลาดช็อปปิ้งออนไลน์ในประเทศไทย มีแนวโน้ม ที่จะเติบโตมาก สิ่งที่เป็นปัจจัยที่มีผลในการเจริญเติบโต คือ  ยอดการช็อปปิ้งออนไลน์ที่คาดว่าจะเติบโตได้ถึง11 - 12 % ของตลาดค้าปลีกรวมภายในในปี 2020 โดยปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต คือ การเพิ่มขึ้นของคนในการใช้อินเทอร์เน็ต การเจริญเติบโตของพฤติกรรมผู้บริโภคต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นในการใช้สมาร์ทโฟน

รองประธานฝ่ายการตลาดแห่งประเทศไทย ของ ซาโลรา กล่าวต่อว่า สำหรับความท้าทายทางธุรกิจ ช็อปปิ้งออนไลน์ที่จะก้าวเดินต่อในปี 2557 ในประเทศไทยคือการจัดการ มีอยู่ 3 ประเด็น ได้แก่ 1. ความกลัวของการใช้ บัตรเครดิต ทางซาโลราก็มีการให้บริการการชำระเงินเป็นเงินสดในการส่งมอบ กรณีที่ลูกค้าไม่มีบัตรเครดิต 2. ความกลัวของที่จ่ายเงินแล้วไม่ได้ของ ที่ได้มีการพยายามดำเนินการส่งของ 1-3 วันและจ่ายเงินสดตอนปลายทาง และ 3. กรณีไม่สะดวกที่จะรอ สำหรับการจัดส่งสินค้า ขณะนี้ ซาโลราเป็นพาร์ตเนอร์กับร้านสะดวกซื้อ 7/11 ที่สามารถไปรับสินค้าและจ่ายเงินได้เมื่อลูกค้าสะดวก

นายเบนจามิน กล่าวอีกว่า อีกปัจจัยในการเจริญเติบโต คือ พฤติกรรมผู้บริโภค จำนวนการใช้สมาร์ทโฟน และ แท็บเล็ต บริการการชำระเงินออนไลน์ที่ตอบสนองการช็อปปิ้ง ธุรกิจออนไลน์ โดยเห็นจากจำนวนยอดขายมือถือที่เพิ่มขึ้น อัตราการเข้าชม และรายได้จากมือถือเป็น 20-30 % ของรายได้ ทั้งหมดของซาโลร่า การเจาะกลุ่มสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเป็นอันดับ 1 สูงที่สุดในปีที่ผ่าน โดยเติบโตมากขึ้นกว่า 40%  และผู้คนยังไว้วางใจสำหรับการชำระเงิน ออนไลน์-ที่มีการเติบโต ในประเทศไทย เพราะผู้คนหันมาไว้ใจเกี่ยวกับการช็อปปิ้งออนไลน์มากยิ่งขึ้น ทางซาโลรามีความเร็วในการส่ง จัดส่งในกรุงเทพฯ ภายใน 1-2 วัน และต่างจังหวัดอยู่ที่ประมาณ 2-3 วัน ทั้งนี้ ในร้านค้าออนไลน์สินค้ามีให้เลือกซื้อมากกว่า 15,000 ชิ้น.



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.