โดย นายพล



ตลาดรถสปอร์ตหรูในบ้านเราปีนี้ ถือว่ายังไปได้เรื่อยๆ แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะไม่หวือหวา แต่ไม่ค่อยมีผลกระทบกับตลาดที่มีกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนักเท่าไหร่นัก

ขึ้นกับผู้ประกอบการแต่ละราย นำเข้ารถประเภทนี้เข้ามามากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญปีนี้ผู้แทนจำหน่ายรถกลุ่มนี้กระโดดเข้ามาแข่งขันกันหลายราย จึงเป็นปัจจัยหลักทำให้ตลาดรถสปอร์ตหรูยังคงเติบโตได้

สำหรับค่าย มาเซราติ ก็เป็นอีกยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างสม่ำเสมอ มีลูกค้ากระเป๋าหนัก รู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของรถดีอยู่แล้ว เมื่อทราบว่าผู้แทนจำหน่ายนำเข้ามา ถ้าสีและรุ่นตรงตามความต้องการ เซลส์ขายรถก็คงไม่ต้องงัดกลยุทธ์การขาย ออกมาโน้มน้าวลูกค้ามากนัก

มาเซราติจะแตกต่างจากซุปเปอร์คาร์รุ่นอื่น อย่างลัมโบร์กินี ปอร์เช่ หรือเฟอร์รารี เพราะเป็นรถที่เจ้าของสามารถขับใช้งานได้ทุกวัน ไม่เหมือนซุปเปอร์คาร์ยี่ห้ออื่น อาจจะต้องเลือกวันเวลาสำหรับการขับขี่ให้เหมาะสม

ล่าสุด มาเซราติเปิดตัวรุ่น ควอตโตรปอร์เต้ (MASERATI QUATTROPORTE) เป็นความท้าทายของการรวมสมรรถนะแบบสปอร์ตและความหรูหราแบบคลาสสิกของรถยนต์ซาลูนอันหรูหราของอิตาลีอย่างมีสไตล์ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักออกแบบผู้ยิ่งใหญ่เสมอมา ไม่ว่าจะเป็น ปิเอโตร ฟรูอา (Frua), เบอร์โทเน่ (Bertone), จิออร์เก็ตโต้ จุยเกียโร่ (Giorgetto Giugiaro), มาร์เซลโล กานดินี่ (Marcello Gandini) และ พินินฟาริน่า (Pininfarina)

การออกแบบควอตโตรปอร์เต้ เพื่อต้องการรักษาภาพลักษณ์เพรียวลมและทรงพลัง ภายในของรถแผงข้างที่บุด้วยไม้อันหรูหรา เบาะหุ้มหนัง พอลโทรน่า ฟราว (Poltrona Frau) ไม้ชั้นดีและรอยเย็บอันประณีต ไร้รอยต่อกับเส้นมันวาวของผังหน้าปัด ร่องกลาง และประตูอะลูมิเนียมเคลือบสีเป็นโครงของแผงควบคุมด้วยระบบสัมผัสของมาเซราติขนาด 8.4 นิ้ว กลางแผงหน้าปัด ช่วยให้จัดการระบบข้อมูลและการบันเทิงอันหลากหลายได้ง่าย

เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V8 ขนาด 3.8 ลิตร แบบใหม่ ไฮเทคที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งในมาเซราติ ให้พลังถึง 530 แรงม้า และแรงบิด 710 เมื่อเร่งเครื่อง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 307 กม./ชม.

การใช้เครื่องยนต์ทวิน เทอร์ไบน์ (twin turbine) แบบยกขนานขนาดเล็ก ช่วยป้องกันปัญหาการรอรอบ (turbo lag) ทำให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เสริมด้วยการใช้ระบบเปิด-ปิดวาล์วแปรผันต่อเนื่องคู่บนหัวกระบอกสูบทั้งสอง ระบบสูบฉีดตรงด้วยความดันสูง (200 บาร์) ทำให้การเผาไหม้ดีขึ้นที่จำนวนรอบสูงด้วยการทำให้น้ำมันเป็นอนุภาค

ระบบกันสะเทือน ปีกนกคู่บริเวณส่วนหน้า และจุดเชื่อมโยงหลายจุดในส่วนหลัง ได้รับการควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ สปอร์ต สกายฮุค (Sport Skyhook) รุ่นล่าสุด พร้อมทั้งอุปกรณ์ลดแรงกระแทกอย่างต่อเนื่องรุ่นใหม่ เมื่อกดปุ่มที่มีไว้บริเวณร่องกลาง จะเปลี่ยนให้เป็นการตั้งแรงให้แข็งขึ้น สำหรับการขับขี่ในแบบสปอร์ต

เกียร์อัตโนมัติ ZF ความเร็ว 8 ระดับแบบใหม่ มีซอฟต์แวร์ปรับได้เอง จะเบาขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ มีเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ (Overdrive) สองระดับ ผู้ขับสามารถเลือกโหมดอัตโนมัติ หรือเปลี่ยนเกียร์เองโดยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยหรือคันเปลี่ยนเกียร์บริเวณช่องกลาง ในทั้งสองกรณี การกดปุ่ม SPORT จะทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้นและสามารถขับขี่แนวสปอร์ตได้

โหมด I.C.E. (Increased Control Efficiency) ให้ประสิทธิภาพในการควบคุมมากขึ้นนั้น เพื่อให้ประหยัดน้ำมัน รวมทั้งให้การขับขี่ที่ผ่อนคลายและไม่ต้องใช้แรงจับยึดมาก ระบบส่งกำลังช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ไม่ว่าจะในขณะที่เพิ่มหรือลดระดับเกียร์ก็ตาม

ระบบความปลอดภัยเชิงรุก มีระบบสร้างความเสถียรของมาเซราติ (Maserati Stability Program-MSP) คือระบบไฟฟ้าระดับสูง เมื่อรถเริ่มไถล จะลดแรงบิดจากเครื่องยนต์และกระตุ้นเบรกให้เข้าสู่ระดับเสถียรภายในเสี้ยววินาที

ไฟหน้าคู่แบบ Bi-Xenon มีระบบหมุนได้ในตัว ให้ความสว่างแก่ท้องถนนและขอบถนน เพิ่มความปลอดภัยเมื่อเข้ามุมในยามค่ำคืน หน่วยไฟฟ้าที่ควบคุมลำแสงทั้งแบบเต็มลำและแบบลดต่ำ ช่วยให้มองเห็นได้หลายระยะ และสามารถปรับความลึกของลำแสงได้โดยอัตโนมัติเพื่อให้มองเห็นได้ชัด และไฟกลางวันแบบ LED ช่วยให้รถมองเห็นได้ในทันที

ในแง่ของความปลอดภัยเชิงรับ มีถุงลมนิรภัย 6 ชิ้น ได้แก่ ถุงลมนิรภัยด้านหน้าแบบสองระดับสองชิ้น สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ถุงลมด้านข้าง 2 ชิ้น ติดอยู่กับที่นั่งด้านหน้า ถุงลมด้านข้างอีก 2 ชิ้น ติดอยู่กับหลังคารถจะป้องกันศีรษะของผู้ที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง

สีรถยนต์มีอยู่ 8 เฉดสี สามารถนำไปรวมกับขอบล้อสามชนิด (19, 20 และ 21 นิ้ว) รวมทั้งสีของก้ามปูเบรกอีก 5 สี โดยลูกค้ามีทางเลือกเสนอหลากหลาย ตั้งแต่แผงหน้าปัด เหมือนกับร่องกลางและส่วนข้างประตู เลือกแต่งได้ด้วยไม้ชั้นดี 5 ชนิด

นอกจากนี้ สีหนัง พอลโทรน่า ฟราว (Poltrona Frau) แต่งบริเวณแผงหน้าปัด ร่องกลาง ประตู และพวงมาลัย รวมทั้งเบาะนั่ง ให้บรรรยากาศทางเลือกที่ผ่อนคลาย นอกจากนี้ ส่วนกลางของเบาะนั่งและหลังคาอาจตกแต่งด้วย อัลคานทาร่า (Alcantara) ก็เลือกได้ตามต้องการ

ระบบเสียงรอบทิศทางระดับพรีเมียมของ โบเวอร์ แอนด์ วิลกินส์ (Bowers & Wilkins) ลำโพง 15 ชิ้น กระจายไปทั่วแผงหน้าปัด ประตูและชั้นด้านหลัง ระบบเสียงนี้มีเครื่องขยายเสียงขนาด 1,280 วัตต์ วางโครงแหล่งเสียงและการตั้งค่าของระบบควอนตัม ลอจิก เซอร์ราวด์ (Quantum Logic Surround) รอบทิศทาง ช่วยสร้างความจริงของเสียงระะดับที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในรถยนต์

มาเซราติ ควอตโตรปอร์เต้ ซุปเปอร์คาร์หรูสไตล์คลาสสิก จากแดนมะกะโรนี ตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ 14,500,000 บาท