BMW NEW SERIES-2 COUPE
 


BMW NEW SERIES-2 COUPE


BMW NEW SERIES-2 COUPE

การแตกไลน์ผลิตภัณฑ์เพิ่มโมเดลแยกย่อยกลายเป็นกลยุทธ์ในการครองตลาด ล่าสุด ค่ายใบพัดสีฟ้า-ขาว เปิดตัวรถรคูเป้รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีขนาดย่อมกว่า BMW Series-4 มันคือ BMW New Series-2 Coupe ยนตรกรรมคูเป้สองประตูที่เข้ามาเชื่อมต่อโยงใยกับ Series-1 บนรูปแบบที่มีประตูน้อยบานกว่าแต่ค่าตัวแพงกว่า รถรุ่นใหม่คันเล็กแบบสองประตูจะใช้รหัสตัวถัง F22 โดยจะแชร์ชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ รวมถึงระบบเกียร์กับ Series-1 ผู้พี่


รถ Series-2 Coupee ถ่ายโอนพันธุ์กรรมจาก F20 โดยทำการยืดสัดส่วนให้มีความยาวมากขึ้นไปอีก เพื่อทำให้เรือนร่างแบบสปอร์ตสองประตูน้ำหนักเบามีมุมมองที่ลงตัว ห้องโดยสารยังคงยึดรูปแบบ 2+2 ที่นั่งเพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์แม้จะมีประตูแค่สองบาน การออกแบบภายในส่วนใหญ่ในรถ Series-2 Coupe ถอดแบบมาจาก Series-1 F20 ขุมกำลังเน้นวางเครื่องยนต์ขนาดเล็กโดยเชื่อมโยงพลังของเครื่องยนต์บนเทคโนโลยี TwinPower Turbo เหมือนเดิม โดยยังคงแนวคิดเล็กแต่แรง ใช้เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรเทอร์โบแต่มีเรี่ยวแรงเท่ากับเครื่อง 2.0 ลิตร ที่ไม่มีระบบอัดอากาศ เทอร์โบแบบแปรผัน นอกจากจะสร้างแรงม้าได้เท่ากับเครื่องยนต์ที่มีความจุมากกว่าแล้ว ยังลดการปล่อยมลพิษและช่วยให้การใช้เชื้อเพลิงมีตัวเลขที่ดีขึ้น


BMW Series-2 Coupe รุ่น 225d ซึ่งวางเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ คอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่น มีเรี่ยวแรง 218 แรงม้าคาดว่าจะเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด เนื่องจากมีราคาไม่สูงจนเกินไปและมีเทคโนโลยีขั้นก้าวหน้าของเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบสมรรถนะสูง แรงบิดสูงสุดที่ 420 นิวตันเมตรเพียงพอที่จะกระชาก 225d จากจุดหยุดนิ่งไปถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 6.3 วินาที โดยมีความเร็วสูงสุดปลายคันเร่งที่ 242 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แรงสมใจอยากแฟนคลับใบพัดกันเสียจริงๆ ซึ่งทางวิศวกรของ BMW เคลมว่าเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร ตัวนี้ยังสามารถประหยัดได้ถึง 21.7 กิโลเมตรต่อลิตร จากขนาดและน้ำหนักตัวที่น้อยกว่า BMW Series-4 อยู่พอสมควร


รุ่นที่มีกำลังย่อมลงมาคือ BMW Series-2 Coupe 220d วางเครื่องยนต์บล็อกเดียวกันกับ 225d แต่ลดแรงดันของระบบจ่ายเชื้อเพลิงคอมมอลเรลลงเหลือ 1,800 บาร์แทนที่จะใช้ 2,000 บาร์เหมือน 225d ทำให้เรี่ยวแรงของ BMW Series-2 Coupe 220d ลดลงเหลือเพียงแค่ 184 แรงม้า รวมถึงแรงบิดก็ยังหดเหลือ 380 นิวตันเมตรที่ 1,700-2,750 รอบต่อนาที อัดจาก 0-100 ใน 7.4 วินาทีและไปได้สุดคันเร่งที่ 235 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


รุ่นเครื่องยนต์เล็กสุดประหยัดสุดยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร ลดแรงดันในระบบคอมมอลเรลไดเรคอินเจคชั่นลงมาเหลือเพียงแค่ 1,600 บาร์ สร้างกำลังได้ 143 แรงม้า กับแรงบิดพอท้วมๆ ที่ 320 นิวตันเมตร ซึ่งพอเพียงที่จะสร้างความสนุกหลังพวงมาลัยในสไตล์ BMW ด้วยอัตราเร่ง 0-100 ใน 8.6 วินาที ความเร็วปลายวัดได้ประมาณ 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


พวกสาวกเบนซินยังคงมีเครื่องยนต์เบนซินแบบแถวเรียง 4 สูบมาให้เลือกใช้ โดยเริ่มจาก Series-2 Coupe 220i วางเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่ มีกำลัง 184 แรงม้าที่ 5,000-6,550 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติระดับเทพของวงการ ZF-8 HP เร่งจาก 0-100 ใน 7.1 วินาทีและมีความเร็วสูงสุด 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


หากยังไม่สาแก่ใจกับกำลัง 184 แรงม้าของเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตรยังมีทางเลือกสุดท้าย เป็นหนทางสู่ความแรงอย่างแท้จริงกับ BMW Series-2 Coupe 235i แรงสุดกู่กับเครื่องยนต์เบนซินสุดคลาสสิกแบบหกสูบเรียงอัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่ขนาด 3.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์บล็อกเดียวกันกับเครื่ิอง 3.0 ลิตรใน ActiveHybrid-3 แต่ถูกอัพแรงม้าด้วย High Precision Direct Petrol ระบบ Valve Tronic และเทคโนโลยี TwinPower Turbo อัพแรงม้าขึ้นเป็น 326 ตัวจากที่เคยทำได้ 306 ตัวในรถ Z4 35i แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตรมาในย่าน 1,500-4,600-6,000 รอบต่อนาทีผ่านเกียร์ 8 สปีดอันยอดเยี่ยมของ ZF อัตราเร่ง 0-100 ใน 4.7 วินาที โดยไปได้สุดคันเร่งที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของเจ้าหนูตัวแสบคันนี้อยู่ที่ 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับแรงบิดและอัตราเร่งที่ว่องไวน้องๆ ซุปเปอร์คาร์

BMW ใช้ความพยายามในการกลบเกลื่อนรูปลักษณ์ที่ไม่ค่อยลงตัวใน 1-Series โดยปรับขนาดของความยาวและเสาท้ายให้สมส่วนเหมาะเจาะมากยิ่งขึ้นใน 2-Series รถสปอร์ตในโมเดล Series-2 Coupe จะเข้ามาสานต่อตำนานความซ่าของ 2002 Tii หรือแม้แต่ M3-E30 ให้กลับมาอยู่ในความทรงจำและความประทับใจของพวกนักขับอีกครั้ง.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail [email protected]
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcom

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.