ตลาดไอทีปี56หดตัว4% เชื่อปี57มีโอกาสโต จากทีวีดิจิตอล-แท็บเล็ต
 


ตลาดไอทีปี56หดตัว4% เชื่อปี57มีโอกาสโต จากทีวีดิจิตอล-แท็บเล็ต


ตลาดไอทีปี56หดตัว4% เชื่อปี57มีโอกาสโต จากทีวีดิจิตอล-แท็บเล็ต

สวทช.จับมือ กสทช.เผยมูลค่าตลาดสื่อสารและตลาดฮาร์ดแวร์ปี 56 ชี้หดตัวลง 4% เหตุการชะลอการใช้จ่ายในครัวเรือน เชื่อปี 57 มีแนวโน้มโตขึ้นจากการใช้โมบายล์อินเทอร์เน็ต บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต และดิจิตอลทีวี แต่ห่วงหนี้ครัวเรือนกลับมาฉุดให้ชะลอตัวอีกรอบ...

นางชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า การสำรวจตลาดสื่อสารและตลาดฮาร์ดแวร์ปี 2556 เริ่มจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่เดือนมีนาคม-ตุลาคม 2556 โดยเน้นการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ประกอบการรายสำคัญในอุตสาหกรรม แล้วนำมาประมวลผลร่วมกับข้อมูลทุติยภูมิอื่นๆ รวมถึงการจัดประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อตรวจทานความถูกต้องของข้อมูล โดยการสำรวจปีนี้ สวทช. ถือเป็นตัวกลางในการประสานให้หน่วยงานพันธมิตรทั้งหมดมาทำงานร่วมกัน ซึ่งมีทั้งภาครัฐอย่าง กสทช. และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) รวมทั้งภาคเอกชนรายสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ATCI, ATSI, TSEP, TESA, TCA, TCT, ATCM และสถาบันส่งเสริมความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีแห่งประเทศไทย (สลอท.) และร่วมกันจัดเผยแพร่ข้อมูลการสำรวจที่น่าสนใจครั้งนี้


ด้าน นายจำรัส สว่างสมุทร ผู้อำนวยการ สถาบันส่งเสริมความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาโครงการสำรวจตลาดฯ เปิดเผยว่า ในภาพรวมของตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ในปี 2556 หดตัวลงจากปี 2555 คือ เติบโตติดลบ 4% คิดเป็นมูลค่า 87,435 ล้านบาท เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว และภาคครัวเรือนซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้หลักลดการใช้จ่ายลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปี 2557 ตลาดจะสามารถเติบโตได้ 4.3% หรือมีมูลค่า 91,174 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตตามกระแสอุปกรณ์พกพา ซึ่งมีความต้องการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา และมีระดับราคาต่อหน่วยลดลง ตลอดจนความนิยมนำอุปกรณ์พกพาส่วนตัวไปใช้ภายในที่ทำงาน (Bring Your Own Device: BYOD)

ผู้อำนวยการ สลอท.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยด้านการใช้งานเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ อาทิ ระบบประมวลผลกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) และการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อนำมาจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่แบ่งปันอยู่ในโลกโซเชียลมีเดียในหลายรูปแบบ เช่น ภาพ วิดีโอ สถานที่ และข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า เป็นต้น ดังนั้นประมาณการว่าในปี 2557 องค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่จะเกิดการลงทุนด้านคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ และระบบโซลูชั่นเพื่อรองรับการใช้งาน Cloud, Big Data และ BYOD ซึ่งจะทำให้มูลค่าตลาดคอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย


นายจำรัส กล่าวถึงภาพรวมของตลาดสื่อสารปี 2556 ว่า มีมูลค่า 466,526 ล้านบาท และคาดว่าจะมีอัตราเติบโต 8.4% ในปี 57 หรือคิดเป็นมูลค่า 505,831 ล้านบาท ปัจจัยขับเคลื่อนหลักยังคงมาจากตลาดบริการสื่อสาร (64%) โดยเฉพาะการใช้งาน โมบายล์อินเทอร์เน็ตที่ในปีนี้มีมูลค่า 11,571 ล้านบาท และคาดว่าปี 57 จะเติบโตเพิ่มอีกกว่า 26.4% คิดเป็นมูลค่า 14,627 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากคนเมืองปัจจุบันนิยมรับข่าวสารทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น ในขณะที่ตลาดบริการอินเทอร์เน็ตภาพรวมทั้ง ADSL และ WIFI Hotspot มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 8% หรือคิดเป็นมูลค่า 33,211 ล้านบาท ทางด้านของตลาดสมาร์ทโฟนปี 2556 มีการเติบโต 24.2% จากปี 2555 และคาดว่าอัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็น 32.5% หรือคิดเป็นมูลค่า 60,996 ล้านบาท ภายในปี 2557

ผู้อำนวยการ สลอท.กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันยังมีตลาดของอุปกรณ์เสริม (Accessories) ที่น่าจับตามอง เช่น แบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank และ Mobile Router ที่คาดว่าคนจะนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาน่าจะมีการปรับลดในปีหน้า ประกอบกับความไม่มั่นคงทางการเมือง ทำให้ทุกบริษัทเริ่มต้องคิดในเรื่องของการมีแผนสำรองในการให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง (Continuity Business Plan) โดย Cloud Computing จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี โดยคาดว่าในปี 57 นี้ตลาดคลาวด์ประเภท IaaS (Infrastructure as a Service) จะมีมูลค่าประมาณ 834 ล้านบาท จากปี 56 ที่มีมูลค่า 614 ล้านบาท



นายจำรัส กล่าวถึงปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของตลาดไอทีปี 2557 ว่า ปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญคงหนีไม่พ้นกระแสของ Digital TV และการรับข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ที่มีเนื้อหาแตกต่างจากสื่อปัจจุบัน ไม่ว่าจะโทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์ เห็นได้ชัดเจนมากจากการชุมนุมทางการเมืองในตอนนี้ ที่หลายๆ ภาคส่วนมองว่าความไม่มั่นคงทางการเมืองเป็นปัจจัยลบของอุตสาหกรรม แต่สำหรับตลาดสื่อสารและตลาดฮาร์ดแวร์ในกลุ่มแท็บเล็ตแล้วกลับมองเป็นปัจจัยบวก เพราะมีการใช้งานดาต้ากันถล่มทลายในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ทั้งการแชร์ข้อมูล อัพโหลดรูปภาพ ไปจนถึงคลิปวิดีโอ ดังนั้น คาดว่าผู้ให้บริการรายใหญ่จำเป็นต้องขยายโครงข่ายการให้บริการและมีโซลูชั่นรองรับการใช้งานหากผู้ใช้งานจำนวนมากพร้อมๆ กัน

ผู้อำนวยการ สลอท. กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่อาจทำให้มูลค่าไม่เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนภายในประเทศ ที่ทำให้ราคาอุปกรณ์ที่คาดว่าจะปรับลดลงนั้น อาจไม่ได้ลดลงมากอย่างที่คาดไว้ และภาระหนี้สินภาคครัวเรือนก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีผลกระทบต่อตลาดมากน้อยเพียงใด.

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.