คนไทยซื้อสมาร์ทโฟน ชี้ แบรนด์ สำคัญกว่าคุณภาพ-ราคา-ฟังก์ชั่น
 


คนไทยซื้อสมาร์ทโฟน ชี้ แบรนด์ สำคัญกว่าคุณภาพ-ราคา-ฟังก์ชั่น


คนไทยซื้อสมาร์ทโฟน ชี้ แบรนด์ สำคัญกว่าคุณภาพ-ราคา-ฟังก์ชั่น

"เทเลนอร์" เผยผลสำรวจ 43 ประเทศในหัวข้อ "Mobile Life" พบสมาร์ทโฟนเป็นของที่คนไทยต้องการเป็นเจ้าของมากที่สุด แต่ส่วนใหญ่ยังเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านไว-ไฟ มากกว่าใช้ดาต้าจากเครือข่าย โดยเกือบครึ่งของผู้ใช้สมาร์ทโฟนนิยมเข้าถึงโซเชียลฯ ทุกวัน คาดการทำธุรกรรมทางมือถือจะเป็นที่นิยมในอนาคตอันใกล้...

เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. มีการเปิดเผยเกี่ยวกับรายงานล่าสุดจากเทเลนอร์ จากการสำรวจประจำปี Mobile Life โดย TNS ซึ่งมีผู้ร่วมตอบแบบสำรวจเป็นจำนวน 38,000 คน จาก 43 ประเทศ ซึ่งเป็นการทำสำรวจในระหว่างวันที่ 20 พ.ย.2555-4 ก.พ.2556 เกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์มือถือ โดยพบว่าอุปกรณ์ที่คนไทยต้องการเป็นเจ้าของมากที่สุดคือสมาร์ทโฟน แต่แม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าถึงบริการดิจิตอลต่างๆ แต่การเชื่อมต่อส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการให้บริการของเครือข่ายโทรศัพท์มือ อย่างไรก็ตาม ราคาอุปกรณ์ในปัจจุบันเริ่มมีราคาถูกลง และยังพบว่า 56% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต โดยมีเพียง 39% เท่านั้นที่ใช้งานเครือข่ายมือถือในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ส่วนที่เหลือเป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านระบบไว-ไฟ


รายงานวิจัยชิ้นนี้ระบุว่าผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับแบรนด์ของโทรศัพท์มือถือมาก เมื่อเทียบกับผู้บริโภคจากประเทศอื่นๆ โดยการสำรวจดังกล่าวมีการระบุ 18 ปัจจัยที่ผู้บริโภคทั่วโลกคำนึงถึงเมื่อเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ ราคา อายุของแบตเตอรี่ แบรนด์ ขนาดและคุณภาพหน้าจอ รุ่น กล้อง คุณภาพเสียง ดีไซน์ หน่วยความจำ ความง่ายในการใช้งาน ระบบปฏิบัติการ เครือข่ายผู้ให้บริการ ช่องเชื่อมต่อต่างๆ การเรียกใช้อินเทอร์เน็ต การปรับแต่งรูปแบบการใช้งาน ความหลากหลายของแอพพลิเคชั่น ความสามารถในการเชื่อมต่อกับพีซี และความสามารถในการซิงค์ผ่านคลาวด์เซอร์วิส โดยผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับแบรนด์ในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือถือ มากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 30 จุด ขณะเดียวกันผู้บริโภคชาวไทยยังให้ความสำคัญกับเรื่องของราคาเป็นรองลงมาเล็กน้อย อาจกลายเป็นการส่งสัญญาณไปถึงผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและผู้ให้บริการเครือข่ายว่าตลาดมีความต้องการแบรนด์พรีเมี่ยม

นอกจากนี้ รายงาน Mobile Life จาก TNS ยังแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเกี่ยวกับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือในทวีปเอเชีย โดยการสำรวจได้ครอบคลุมถึงผู้ใช้งานที่มีอายุระหว่าง 16-60 ปี ซึ่งมีทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือและผู้ที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ โดยในประเทศไทยมีผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 1,000 คน ในประเทศมาเลเซีย มีจำนวน 500 คน และ ในประเทศอินเดีย มีจำนวน 2,980 คน ทั้งนี้ ผลการสำรวจยังระบุว่าตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยจะเติบโตอย่างมาก ปัจจุบันมีคนไทยเพียง 36% เท่านั้นที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน แต่ความต้องการนั้นสูงเทียบเท่ากับตลาดอื่นๆ ทั่วโลก โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ราคาเฉลี่ยของสมาร์ทโฟนได้ลดลงมาต่ำกว่าราคาสูงสุดที่ผู้บริโภคชาวไทยยินดีจ่าย จึงเชื่อว่าในอนาคตเราจะเห็นอัตราการเป็นเจ้าของสมาร์โฟนเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง


นายโจ เวบบ์ หัวหน้าผ่ายดิจิตอล TNS ประเทศจีน กล่าวว่า TNS จัดทำการสำรวจ Mobile Life ประจำปีขึ้นเพื่อที่จะได้เข้าใจถึงการใช้งานโทรศัพท์มือถือของผู้คนทั่วโลก และเพื่อที่จะได้รู้ว่าแพลทฟอร์มและบริการใดจะมีการเติบโตในอนาคต สำหรับผู้ให้บริการเครือข่ายระดับโลกอย่างเทเลนอร์ พฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์มือถือของผู้บริโภค รวมถึงผลกระทบที่เกิดจากการใช้งานธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บริษัทได้เข้าใจถึงโอกาสและเทรนด์ใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค หน่วยธุรกิจของเทเลนอร์ในประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยถือเป็นตลาดที่มีความหลากหลายและเติบโตเร็วที่สุดในทวีปเอเชีย ขณะเดียวกันก็ยังมีคนจำนวนมากในพื้นที่ห่างไกลที่ยังเข้าถึงแค่เพียงบริการทางเสียง และเอสเอ็มเอสเท่านั้น โดยอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนกลุ่มนี้ยังด้อยกว่าประเทศอื่นในเอเชีย ขณะเดียวกันผู้ใช้งานในเมืองและกลุ่มคนรุ่นใหม่ ถือเป็นกลุ่มที่มีความพร้อมสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีอัตราการเชื่อมต่อที่รวดเร็วที่สุดในประเทศและทวีปเอเชีย


ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวอีกว่า ประเทศไทยพร้อมสำหรับการเริ่มขยายบริการ 4จีแล้ว ซึ่งทั้งดีแทคและเทเลนอร์ล้วนมีความพร้อมที่จะดำเนินการ หลังจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือได้มีการเปิดให้บริการ 3จี ซึ่งนำไปสู่การให้บริการดาต้าที่มีความรวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น พร้อมกระตุ้นการใช้งานดาต้าให้เติบโต อย่างไรก็ตาม โครงการฟรี ไว-ไฟ ของรัฐบาลนั้นยังไม่ได้มีการให้บริการอย่างกว้างขวาง และผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังคงรู้สึกว่าการใช้งานดาต้าผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือนั้นยังมีราคาสูง ผู้ให้บริการรายใดที่ให้บริการดาต้าได้ในราคาที่ถูกลง และไม่ได้คิดราคาแพงสำหรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขึ้น จะสามารถกระตุ้นการใช้งานและเพิ่มความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการดังกล่าวได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม พบว่าปัจจุบันมีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือในประเทศไทยเพียง 4% ที่เคยใช้บริการธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ กลุ่มผู้ที่สนใจที่จะใช้งานบริการดังกล่าวมากที่สุดคือกลุ่มช่วงอายุ 16-30 ปี โดยมีผู้แสดงความสนใจถึง 20-23% แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยมั่นใจในความปลอดภัยและชอบที่จะทำรายการกับพนักงานโดยตรง จึงเห็นได้ว่าในปัจจุบันคนไทยยังทำบริการธุรกรรมทางการเงินผ่านทางสาขาและคอมพิวเตอร์มากกว่าทำผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้บริโภคชาวไทยยังลังเลกับแนวคิดโมบายล์วอลเลท หรือการใช้โทรศัพท์มือถือแทนกระเป๋าสตางค์ โดย ประมาณ 1 ใน 2 ของผู้ทำแบบสำรวจ (49%) ระบุว่าพวกเขาไม่รู้สึกว่านั่นเป็นบริการที่มีความจำเป็น โดยเทเลนอร์เห็นว่าโมบายล์วอลเลทในเมืองไทยจะเติบโตและประสบความสำเร็จได้เหมือนหลายประเทศในทวีปเอเชีย รวมถึงประเทศมาเลเซีย โดย TNS กล่าวว่าการที่กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจ ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นบริการที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต


ทั้งนี้ รายงานจาก TNS ยังระบุว่า โมบายล์วอลเลทนั้นจะเป็นบริการที่สามารถทำกำไรให้ร้านค้าและผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือได้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าการจ่ายเงินชำระค่าสินค้าและบริการผ่านเอสเอ็มเอส ผ่านการใช้แอพพลิเคชั่น หรือการแตะโทรศัพท์มือถือกับเซ็นเซอร์ในร้านค้าเพื่อชำระเงินค่าสินค้าจะกลายเป็นเรื่องปกติในประเทศที่กำลังมีการเติบโตในทวีปเอเชีย โดยประเภทของสินค้าและบริการที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงสุด ได้แก่ การชำระค่าโทรศัพท์มือถือรายเดือน การชำระบิลต่างๆ ปั๊มน้ำมัน และร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด

ขณะเดียวกัน รายงานจาก TNS ระบุว่าจากการที่ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มมีความรู้ความเข้าใจในการใช้งานสมาร์ทโฟนมากขึ้น ส่งผลให้ชาวไทยนิยมใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กและบริการด้านดาต้า โดยคนไทยเป็นกลุ่มที่มีการใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กในอัตราสูง โดยมีผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ 19% เข้าสู่โซเชียลเน็ตเวิร์กผ่านโทรศัพท์มือถือทุกวัน และมีสัดส่วนถึง 49% สำหรับสมาร์ทโฟน.

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.