เปิดม่าน คอมมาร์ตปลายปี ไม่หวั่นการเมืองทำงานกร่อย คาดโน้ตบุ๊กขายดี
 


เปิดม่าน คอมมาร์ตปลายปี ไม่หวั่นการเมืองทำงานกร่อย คาดโน้ตบุ๊กขายดี


เปิดม่าน คอมมาร์ตปลายปี ไม่หวั่นการเมืองทำงานกร่อย คาดโน้ตบุ๊กขายดี

เปิดงาน "คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2013" เป็นวันแรก ผู้จัดมั่นใจ การชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทำให้งานเงียบเหงา ชี้โน้ตบุ๊กยังเป็นที่ต้องการในสำนักงาน เล็งจัดงานอิงกระแสไอทีควบสมาร์ทโฟนแท็บเล็ต เอาใจผู้บริโภค...

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอที บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ผู้จัดงานคอมมาร์ต เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดไอทีในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เชื่อว่ายังมีการเติบโตอยู่แต่ไม่ใช่การเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อน้อย โดยเป็นผลต่อเนื่องจากการซื้อรถยนต์คันแรกและความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์ทางการเมือง ส่วนการจัดงานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2013 ซึ่งเป็นงานครั้งสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในงานราว 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขรายได้ใกล้เคียงกับการจัดงานครั้งก่อน


"ส่วนการจัดงานซึ่งตรงกับช่วงที่มีสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองนั้น ไม่ห่วงว่าจะกระทบการเดินทางมาเข้าชมหรือซื้อสินค้าในงานแต่อย่างใด เนื่องจากการแสดงออกถึงารคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว มักจะเกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย แม้จะมีการนัดรวมตัวกันแสดงพลังต่อต้านแต่ก็เป็นการชุมนุมแบบชั่วคราวในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น และสถานที่ส่วนใหญ่ที่นัดชุมนุมก็ไม่ใช่สถานที่จัดงานคอมมาร์ต แม้ว่าในช่วงเที่ยงของวันนี้จะมีการนัดชุมนุมใกล้กับสถานที่จัดงาน แต่มองว่าอาจส่งผลดีเนื่องจากผู้ที่มาชุมนุมนั้นสามารถเดินทางมาเที่ยวชมงานคอมมาร์ตได้ง่ายขึ้น" นายพรชัย กล่าว


ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอที บมจ.เออาร์ไอพี กล่าวว่า สำหรับอันดับสินค้าขายดีภายในงาน เชื่อว่าโน้ตบุ๊กยังคงเป็นอันดับแรก รองลงมาคือสินค้าอื่น ๆ อาทิ พรินเตอร์ กล้อง และอุปกรณ์เสริม ตามมาด้วยสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต โดยมีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ 50% 20% และ 30% ตามลำดับ

"โน้ตบุ๊กที่คาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคคือราคา 25,000 บาท ที่สเปกเครื่องเป็นคอร์ไอ7 ซึ่งมีบางค่ายนำมาทำราคาพิเศษภายในงาน หรือสเปกคอร์ไอ5 ในราคา 19,000 บาท ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมที่หลายร้านไอทีนำมาลดราคากว่า 70-80% เชื่อว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าที่ผู้เข้าชมงานให้ความสนใจเลือกซื้อ" นายพรชัย กล่าว


นายพรชัย กล่าวอีกว่า หากเปรียบเทียบความนิยมระหว่างโน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน จะพบว่าความต้องการในตลาดโน้ตบุ๊กนั้นลดลง โดยพบว่าผู้บริโภคนิยมใช้งานสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเพื่อความบันเทิง แตกต่างจากอดีตที่ต้องใช้งานผ่านโน้ตบุ๊ก อย่างไรก็ตาม โน้ตบุ๊กยังมีความจำเป็นในการใช้เพื่อทำงานหรือใช้เป็นคอมพิวเตอร์ภายในสำนักงาน ทำให้การจำหน่ายสินค้าในงานคอมมาร์ตฯ มีแนวโน้มการจำหน่ายในปริมาณมากเพื่อใช้งานในสำนักงานหรือองค์กร มากกว่าการจำหน่ายน้อยเครื่องให้ผู้บริโภคเหมือนในอดีต ขณะที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตนั้น เป็นการซื้อเพื่อใช้งานความบันเทิงเป็นหลักและเป็นเรื่องของแฟชั่นที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอยากใช้จ่าย


ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอที บมจ.เออาร์ไอพี กล่าวด้วยว่า การจัดงานคอมมาร์ตฯ ในปีต่อไป บริษัทจะยังคงจัดงาน 3 ครั้งต่อปี แต่ปรับรูปแบบให้เป็นงานคอมมาร์ตยุคใหม่ที่ผสมผสานกันระหว่างโน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตให้มากขึ้น ตามแนวโน้มและความต้องการของผู้บริโภค โดยการจัดงานครั้งต่อไปจะมีขึ้นภายในเดือน มี.ค.2557

ทั้งนี้ จากการสังเกตบรรยากาศการจัดงานคอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2013 วันแรก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สินค้าที่มีผู้ให้ความสนใจต่อคิวซื้อกันตั้งแต่ช่วงเปิดงาน คือ สมาร์ทโฟนรุ่นดังไอโฟน 5เอส และ 5ซี ซึ่งมีจำหน่ายภายในงาน ส่วนไอแพดแอร์ที่หลายคนจับตามองนั้น มีการนำมาจัดแสดงในบางบูธ ซึ่งยังไม่มีวางจำหน่ายแต่อย่างใด.

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.