บริษัท แอปเปิล เผยผลประกอบการไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2013 ปรากฏว่ามีกำไรมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด จากยอดขายไอโฟนที่เพิ่มขึ้น แต่กำไรโดยรวมตลอดปีกลับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ว่า บริษัท แอปเปิล ยักษ์ใหญ่ในตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ประจำปีงบประมาณ 2013 ปรากฏว่า แอปเปิล มีกำไร 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ เนื่องจากยอดขายสมาร์ทโฟน "ไอโฟน" เพิ่มขึ้นเป็น 33.8 ล้านเครื่อง หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 26% ทุบสถิติด้านยอดขายประจำไตรมาส 4

แอปเปิล เผยต่อว่า ยอดขายแท็บเล็ตไอแพด ประจำไตรมาสนี้ อยู่ที่ 14.1 ล้านเครื่อง เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนราว 1 ล้านเครื่องเท่านั้น ส่วนคอมพิวเตอร์ แมค ขายได้ 4.6 ล้านเครื่อง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ขายได้ 4.9 ล้านเครื่อง

อย่างไรก็ตาม แม้กำไรในโตรมาส 4 ของแอปเปิล จะมากกว่าที่หลายฝ่ายคาด แต่ก็ลดลงจากผลกำไรในไตรมาสที่ 3 และลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2012 ราว 8.6% ขณะที่ผลกำไรสุทธิตลอดปีงบประมาณ 2013 อยู่ที่ 3.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้นี่จะเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี ที่แอปเปิลมีรายได้ตลอดปีลดลง ข่าวนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นของแอปเปิลร่วงลงมากกว่า 2% หมายความว่าปีนี้หุ้นของแอปเปิลร่วงมากกว่า 13% แล้ว

แต่ถึงกระนั้น ทิม คุก ประธานคณะผู้บริหารของแอปเปิล ยังคงยืนยันว่า ธุรกิจของแอปเปิลแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า ยอดขายไอโฟนที่เพิ่งขึ้นของ แอปเปิล เป็นผลจากความพยายามตีตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่ (รวมไต้หวัน) จากการเปิดตัวไอโฟน 5 ซี ที่มีราคาถูกปกติออกมา ส่งผลให้ยอดขายในภูมิภาคดังกล่าวเพิ่มขึ้นราว 24% แต่ก็ยังทำยอดขายไม่ได้ตามเป้า สำหรับไอโฟน 5 ซี.