ไปย่ำต๊อกยามย่ำค่ำ : หนังสือระดับชาติ 2556
 


ไปย่ำต๊อกยามย่ำค่ำ : หนังสือระดับชาติ 2556


ไปย่ำต๊อกยามย่ำค่ำ : หนังสือระดับชาติ 2556

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าบ้านเรามีงานใหญ่เกี่ยวกับหนังสืออยู่ 2 งานด้วยกัน ได้แก่งาน “สัปดาห์หนังสือแห่งชาติ” ที่มักจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน กับงาน “มหกรรมหนังสือระดับชาติ” ที่มีกำหนดจัดในเดือนตุลาคม ซึ่งทีมงานซอกแซกจะถือโอกาสไปเดินตระเวนเก็บบรรยากาศมาเล่าสู่กันฟัง (อ่าน) อยู่เสมอๆ

ถือเป็นประเพณีปฏิบัติปีละ 2 ครั้งว่างั้นเถอะครับเพื่อที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ สร้างความคึกคักแก่งานหนังสืออันจะเป็นการช่วยรณรงค์ให้คนไทยหันมาอ่านหนังสือเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง

เพื่อให้เป็นไปตามประเพณีปฏิบัติทีมงานซอกแซกจึงถือโอกาสแวบไปศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เพื่อจะสำรวจตรวจสอบดูว่า งาน “มหากรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 18” ประจำปี 2556 นี้ มีผู้คนไปอุดหนุนมากน้อยเพียงใด

ก็ต้องบอกว่าชื่นใจครับชื่นใจ...เพราะแฟนๆ ยังคงทยอยไปซื้อหนังสือแน่นศูนย์การ ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ไม่แพ้ปีที่ผ่านๆมา

ขนาดทุ่มกว่าๆ จนถึงเกือบ 3 ทุ่ม ที่ทีมงานซอกแซกตระเวนอยู่ยังมีผู้คนหนาแน่น แม้จะบางกว่าช่วงบ่ายๆอยู่สักหน่อย...แต่ก็ต้องถือว่าเยอะมากแล้วครับ สำหรับช่วงเวลาที่ผู้คนควรจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านกันแล้วแบบนี้

บูธที่ผู้คนหนาตาที่สุดในช่วงที่ทีมงานไปเดิน ได้แก่ สำนักพิมพ์ แจ่มใส ขวัญใจวัยรุ่นเจ้าเก่าครับ...แฟนๆ วัยรุ่นไปยืนเข้าคิวรอขอลายเซ็นนักเขียนที่มานั่งโต๊ะอยู่ 2 คน ยาวเหยียดเลย เห็นแล้วก็ดีใจที่เด็กๆ หันมาอ่านหนังสือกันเยอะแบบนี้ แม้จะเป็นหนังสือประเภทหวานเจี๊ยบก็ไม่ว่ากันขอให้อ่านหนังสือไว้ก่อนละกัน เพราะเมื่อโตขึ้นเธอๆ จะหันไปอ่านอย่างอื่นที่เป็นสาระมากขึ้นเองแหละ

บูธที่มีแฟนๆอุดหนุนหนาแน่นเป็นอันดับ 2 ได้แก่ ของ ร้านนายอินทร์+อมรินทร์ ซึ่งได้ลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาหน่อย...อมรินทร์ขนมาหมดทั้งหนังสือแปลหนังสือธรรมะ หนังสือการ์ตูน ฯลฯ แบบยกร้านนายอินทร์มาไว้ศูนย์สิริกิติ์ ดังเช่นทุกปี และที่ขึ้นป้ายใหญ่ไว้ก็คือ การ์ตูน “ในหลวงของเรา” ฉบับพิมพ์ล่าสุดปกแข็ง ราคาถูกกว่าในท้องตลาด ส่วนอีกเล่มที่ติดอันดับขายดีได้แก่ “กรรมกรข่าว 3” เรื่องราวของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ฉบับล่าสุดเช่นกัน

ถัดไปน่าจะเป็นบูธของ นานมีบุ๊คส์ ครับ ยึดด้านเหนือของห้องประชุมใหญ่ศูนย์สิริกิติ์ไว้อย่างเหนียวแน่น หนังสือโปรโมตของนานมีบุ๊คส์ ในมหกรรมครั้งนี้มี 2-3 เล่มด้วยกันที่ขึ้นป้ายไว้ ได้แก่ “ชีวิตไร้ขีดจำกัด” เรื่องราวของชายไร้แขนขาแต่พลังใจเกินร้อย ส่วนหนังสือที่เป็นแม่เหล็กยังคงได้แก่หนังสือการ์ตูนส่งเสริมความรู้สำหรับเด็กๆที่ขนมาครบถ้วน

ประชันกันอยู่ตรงข้าม และมีลูกค้าแน่นไม่น้อยหน้าเท่าไรนัก ได้แก่ สยาม-อินเตอร์ มัลติมีเดีย ที่ขนการ์ตูนญี่ปุ่นสารพัดเรื่องมาวางขายในราคาถูกกว่าท้องตลาด จึงมีแฟนๆไปมะรุมมะตุ้มไม่ขาดสาย...ส่วนหนังสือโปรโมตงานนี้ก็คือ “บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน” หนังสือดังล่าสุด จากแผ่นดินใหญ่ที่ร่ำลือกันว่าขายดีทำลายสถิติ “รหัสลับหลังคาโลก” ไปเรียบร้อย...อีกเล่มที่ขึ้นป้ายไว้ “คัมภีร์ปีมะเมีย” ทำนายโชคชะตาราศีปีหน้าโดย ซินแส คนเดิม

ในส่วนของสำนักพิมพ์ มติชน ยังอยู่ที่โซนพลาซ่าเหมือนเดิมครับ...นี่ก็แฟนแน่นชนิด 2 ทุ่มครึ่งยังหนาตา รุมกันอยู่ตรงแผงแนะนำหนังสือใหม่...ที่ขึ้นป้ายไว้หลายเล่มได้แก่ “ไพร่-นารี ผีทักษิณ” ของ พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์, “ศาสตร์-แห่งโหร 2557” นำทีมโดย หมอทรัพย์ สวนพลู, กับหนังสือชุดของ “ดร.โกร่ง” วีรพงษ์ รามางกูร ที่ทีมงานซอกแซกนับได้ 9 เล่ม...อีกเล่มน่าจะขายดีเพราะทันเหตุการณ์ก็คือ “หยุดเข็มนาฬิกา” บันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ 14 ตุลาคม 2516 โดย มลทล ใบบัว และ จิรนันท์ พิตรปรีชา,

ไม่ทันไรเลยเนื้อที่จะหมดซะแล้ว...คงร่ายไปทีละสำนักพิมพ์ไม่ไหวแล้วละ ขออนุญาตสรุปความประทับใจเล็กๆน้อยๆ สำหรับหนังสือบางเล่ม และสำนักพิมพ์บางสำหนักพิมพ์ก็แล้วกัน

ชอบใจมากๆสำหรับเรื่อง “รามเกียรติ์” ครับ วรรณคดีไทยที่ดัดแปลงมาจากรามายณะของอินเดีย...ในงานนี้มีสำนักพิมพ์ต่างๆนำมาพิมพ์ใหม่หลายสำนัก ในรูปแบบนิยายภาพ โดยเฉพาะ สกายบุ๊คส์ เจ้าตำรับการ์ตูนไทยขนมาขายด้วย 1 ชุด สนนราคา 2,020 บาท และอีกยี่ห้อ สำนักพิมพ์ห้องเรียน อยู่บริเวณไหนโปรดเปิดคู่มือเที่ยวงานดูเอาเอง...จัดพิมพ์แบบนิยายภาพ “รามเกียรติ์” ฉบับปฐมบท  มาวางขายด้วยภาพวาดสวยมากขอยกนิ้วให้เลยละ

นี่ก็ชอบใจ สำนักพิมพ์ “แสงดาว” นำเรื่องเก่ามาตีพิมพ์ใหม่อีกแล้ว งวดนี้ยก “ผู้ชนะสิบทิศ” ของ ยาขอบ ฉบับพิมพ์ใหม่ปกแข็งไปวางขายคู่กับ “ขุนศึก” ของ ไม้เมืองเดิม ใครจะซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกที่บูธนี้แวะไปได้เลยครับ ...อีกเล่มที่วางอยู่ด้วยได้แก่ “ตำนานรองเท้าบาจา” โดย ไพบูลย์ สำราญภูติ

บูธนี้ก็น่าสนใจ “คบบัณฑิต” ของ บัณฑิต อึ้งรังสี วาทยากรระดับโลกที่ขนหนังสือที่เขาเขียน เองจากประสบการณ์มาวางขายหลายเล่ม รวมทั้ง “เก่งภาษา 50 ล้านอย่างบัณฑิต และแมรี่ อึ้งรังสี” ที่โฆษณาไว้ว่าขายไปแล้ว 600,000 เล่มทั่วประเทศไทย!

ส่งท้ายด้วย “ใยไหม” ก็แล้วกัน สำนักพิมพ์ที่ทำหน้าที่ให้กำลังใจวัยรุ่น โดยเฉพาะเด็กสาวอย่างน่าชื่นชมมาตลอด...มาออกบูธกับเขาด้วยในงานนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่โดดเด่นเตะตาพร้อมเรื่องที่โฆษณาไว้เป็นพิเศษ ได้แก่ “เพลีย” โดย ว.แหวน นักเขียนดังคนหนึ่งของสำนักพิมพ์นี้

ต้องขออภัยที่ไม่สามารถเขียนได้ครบทั้ง 425 สำนักพิมพ์ รวมแล้วกว่า 1,000 บูธ ตามที่สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) แจ้งไว้...แต่ก็พร้อมที่จะให้กำลังใจด้วยการประกาศเชิญชวนให้ท่านผู้อ่านแวะไปอุดหนุนทั้ง 425 สำนักพิมพ์ในงานนี้เท่าที่จะมีโอกาส ซึ่งจะยังมีต่อไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม  10 โมงเช้าถึง 3 ทุ่มทุกวัน

สรุป...“หนังสือเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนโลก” ...เห็นด้วยทุกประการกับคำขวัญของงานปีนี้ครับ ฉะนั้น ใครอยากเปลี่ยนชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น อย่าลืมอ่านหนังสือมากๆก็แล้วกัน.

"ซูม"



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.