สธ.เผย น้ำท่วม 34 วัน เริ่มพบประชาชนเป็นโรคตาแดงกว่า 100 ราย ประปรายในหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่พบในเด็ก ขอความร่วมมือผู้ปกครองให้ดูแลลูกหลาน ให้งดลงเล่นน้ำท่วม เนื่องจากมีสิ่งสกปรกปนเปื้อน เชื้อโรคที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า...

วันที่ 22 ต.ค. 56 นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า จากการประเมินสถานการณ์การเจ็บป่วยของประชาชนจากน้ำท่วมในรอบ 34 วันมานี้ พบว่า มีจำนวนผู้ป่วย สะสมทั้งหมด 165,074 ราย เป็นโรคทั่วๆ ไป ไม่มีรายใดอาการรุนแรง ในส่วนของโรคระบาดที่กระทรวงสาธารณสุขป้องกันและเฝ้าระวังในทุกพื้นที่ เช่น โรคฉี่หนู ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก โรคอุจจาระร่วง ยังไม่พบผิดปกติทุกพื้นที่ มีเพียงโรคตาแดง หรือตาอักเสบ ที่เริ่มมีรายงานผู้ป่วยประปรายใน 5 จังหวัด พบ 100 กว่าราย คือ นครนายก ปราจีนบุรี ขอนแก่น บุรีรัมย์ และฉะเชิงเทรา ไม่มีการแพร่ระบาดในวงกว้าง ส่วนใหญ่มักเกิดในเด็กๆ เนื่องจากลงเล่นน้ำท่วม และยังไม่รู้จักดูแลรักษาความสะอาด

สำหรับโรคตาแดง เกิดจากการระคายเคือง หรือเชื้อไวรัส หรือเชื้อแบคทีเรีย ที่อยู่ในน้ำสกปรก หรืออยู่ในฝุ่นละอองต่างๆ เชื้ออาจเข้าตาโดยตรง หรือติดมากับมือ แม้เป็นโรคที่ไม่มีอันตรายรุนแรงก็ตาม แต่เมื่อเป็นแล้ว โรคตาแดงที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะติดต่อคนอื่นง่าย จากการสัมผัสกับน้ำตา ตา น้ำมูกของผู้ป่วยโดยตรง หรือติดจากการใช้สิ่งของเครื่องใช้ร่วมกัน เช่น ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดหน้า หรือติดจากแมลงวัน แมลงหวี่ ตอมตา อาการของโรคนี้จะปรากฏหลังติดเชื้อประมาณ 1-2 วัน เริ่มจากอาการระคายเคืองตา ปวดตา น้ำตาไหล แสบตาเวลาถูกแสง มีขี้ตามาก หนังตาบวม อาจเริ่มเป็นข้างใดข้างหนึ่งก่อนแล้วเป็นอีกข้างหนึ่ง

ในการดูแลเมื่อป่วยเป็นโรคตาแดง โรคนี้จะมีน้ำตา ขี้ตาออกมามากกว่าปกติ ขอให้ใช้กระดาษทิชชูเช็ดขี้ตา หรือซับน้ำตา แล้วทิ้งในถุงพลาสติก ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดน้ำตา เนื่องจากจะทำให้เชื้อโรคสะสมอยู่ในผ้าเช็ดหน้า ขอให้ล้างมือ ฟอกสบู่บ่อยๆ ไม่ควรขยี้ตา อย่าให้แมลงวันแมลงหวี่ตอมตา ขอให้แยกของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าห่ม ผ้าขนหนู ไม่ใช้รวมกับผู้อื่น และไปพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่อยู่ใกล้ เพื่อรักษาให้ถูกวิธี อย่าซื้อยาหยอดตามาใช้เอง เนื่องจากอาจจะไม่ตรงกับเชื้อที่เป็นต้นเหตุ และอาจทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน เช่น กระจกตาดำอักเสบ ทำให้ปวดตา ตามัว หรืออาการรุนแรงกว่าเดิมได้

"ขอความร่วมมือประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังขณะนี้ อย่าทิ้งขยะทุกชนิด หรือขับถ่ายของเสียลงน้ำท่วมขัง เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มความสกปรกให้น้ำท่วมเพิ่มขึ้นไปอีก ขอให้ทิ้งขยะ สิ่งปฏิกูลลงในถุงพลาสติก และมัดปากถุงแล้วเก็บไว้ในที่ที่แห้ง เพื่อนำไปกำจัดให้ถูกวิธี หากเป็นไปได้ให้ดูแลลูกหลานอย่าให้ลงเล่นน้ำท่วมขัง เนื่องจากในน้ำท่วมจะมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่ในน้ำ หากน้ำกระเด็นเข้าตา หรือมีฝุ่นละอองเข้าตา ขอให้ใช้น้ำสะอาด เช่น น้ำดื่มบรรจุขวด ล้างหน้าให้สะอาด" นพ.ณรงค์ กล่าว.