ช่วงที่เด็กๆปิดเทอมและอยู่กับบ้านอย่างนี้ สิ่งหนึ่งที่ขอเตือนพ่อแม่ว่าต้องระมัดระวัง และให้ความรู้แก่ลูกหลานเป็นพิเศษ คือ การเลือกซื้ออาหารว่างหรือขนมขบเคี้ยวไว้ทานเล่นหรือทานระหว่างมื้อหลัก

ปัจจุบันมีขนมกรุบกรอบหลายชนิดที่มีรูปร่าง รสชาติ สีสัน และบรรจุ– ภัณฑ์ดึงดูดใจให้เด็กเลือกซื้อ เด็กจะไม่รู้ว่าส่วนผสมที่ใส่ในขนมเหล่านั้น อะไรให้ประโยชน์หรือเป็นโทษ หากไม่ได้รับการสอนหรือบอกกล่าวจากผู้ใหญ่

มันฝรั่งทอดปรุงรส ขนมขบเคี้ยวอีกชนิดที่เด็กไทยนิยมซื้อทาน

ทว่าเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่รู้อยู่แล้วว่า มันฝรั่งทอดนั้น มีโซเดียมผสมอยู่ด้วยเพื่อเพิ่มความอร่อย

แม้โซเดียมจะเป็นสารที่จำเป็น คือ ทำหน้าที่ควบคุมความสมดุลของของเหลวในร่างกาย รักษาความดันเลือดให้เป็นปกติ ช่วยการทำงานของประสาทและกล้ามเนื้อในร่างกาย

ปริมาณโซเดียมที่แนะนำให้บริโภคต่อวันสำหรับคนไทยอายุ 6 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นปริมาณที่พอดีต่อความต้องการของร่างกายนั้น ต้องไม่เกิน 2,400 มิลลิกรัม (ครึ่งช้อนชา)

การทานอาหารที่มีรสเค็มปริมาณมากๆหรือบ่อยครั้ง จะทำให้ ร่างกายได้รับโซเดียมเกินความต้องการ ซึ่งโซเดียมส่วนเกินนี้จะทำให้ไตทำงานหนักจนเกิดอาการบวมน้ำ เสี่ยงต่อการเป็นโรคไต

อีกทั้ง ทำให้ความดันเลือดสูงขึ้น หัวใจทำงานหนักขึ้น เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย ยิ่งเด็กๆไม่ควรทานขนมที่มีรสเค็มมากเกินไป เพราะร่างกายเด็กไม่สามารถทนรับโซเดียมปริมาณมากๆ และขับถ่ายได้ดีเท่ากับผู้ใหญ่

วันนี้สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างมันฝรั่งทอดปรุงรส จำนวน 5 ยี่ห้อ เพื่อนำมาวิเคราะห์ปริมาณโซเดียม ผลวิเคราะห์พบว่า

มันฝรั่ง (ทั้ง 5 ตัวอย่าง) ในปริมาณ 1 กิโลกรัม มีโซเดียมสูงมาก และมีปริมาณเกินกว่า 2,400 มิลลิกรัม นั่นหมายถึงว่า หากเราทานมันฝรั่งปริมาณ 1 กิโลกรัม ร่างกายจะได้รับโซเดียมเกินกว่าปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน

ทางที่ดีควรให้ความรู้กับเด็กๆ ให้เลือกทานขนมที่มีหลายรสชาติ เลี่ยงขนมที่มีรสเค็มจัด ขนมใส่ผงปรุงรส สอนให้หันมาทานอาหารสด ผลไม้สด ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า เพื่อความปลอดภัยและห่างไกลโรค.

ไทยรัฐ+สถาบันอาหารโครงการอาหารปลอดภัย