ICT-ศธ. ประสานเสียงโต้ฝ่ายค้าน แท็บเล็ต นักเรียนเจ๊งแค่หลักพันไม่ใช่แสนเครื่อง ยัน สตง.ตรวจสอบไม่พบทุจริต ด้าน “อ๋อย” ฟุ้ง เด็กเรียนดีขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์...
วันนี้ (10 ต.ค.56) เวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณากระทู้ถามสดของนายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ เรื่องนโยบายแจกคอมพิวเตอร์แบบพกพา หรือ แท็บเล็ต ล้มเหลว ถามนายกรัฐมนตรีว่า ตรงนี้ทำให้นักเรียนเสียโอกาส ทำให้อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ คิดเลขไม่เก่ง จึงขอถามว่า 1. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจพบว่ามีการใช้งบประมาณในการจัดซื้อแท็บเล็ต จำนวน 8.6 แสนเครื่อง มูลค่า 2,600 ล้านบาท แต่ขณะนี้ชำรุดถึง 2 แสนกว่าเครื่อง หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของทั้งหมด 2. ซื้อแท็บเล็ตมาแจกเด็ก ป.1 แจกเพื่ออะไรและได้ผลอย่างไร 3. ขยะคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตจะทำอย่างไร และสารพิษจากแบตเตอรี่จะมีวิธีการดูแลอย่างไร
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมกับโชว์รายงานการตรวจสอบแท็บเล็ตของ สตง.ว่า กระทรวงไอซีทีได้รับรายงานฉบับนี้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งนายพิเชษฐ์ ตระกูลกาญจน์ ผอ.สำนักตรวจสอบการดำเนินงานที่ 3 สตง. ผู้ตรวจสอบโครงการนี้ ท่านได้ฝากมาบอกว่า ท่านไม่เคยทำรายงานแล้วระบุว่ามีตัวเลขความเสียหายมากขนาดนี้ ทั้งนี้รายงานการตรวจสอบของสตง.ไม่ได้ระบุถึงการทุจริต แต่ สตง.ยังเขียนระบุว่าเป็นโครงการที่ดีและอยากให้มีต่อไป ขณะที่ตัวเลขการเข้าซ่อมตั้งแต่เดือน ส.ค. ปี 55-56 ก็มีเสียหายเพียง 3,244 เครื่องเท่านั้น
ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในรายงานของ สตง.ไม่มีการรายงานว่ามีเครื่องแท็บเล็ตเสีย ถึงร้อยละ 30 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวไปคำนวณกันอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่มีการตรวจสอบแบบสุ่มตรวจ 80 โรงเรียน พบว่ามีความเสียหาย 295 เครื่อง แต่ไม่ได้ระบุว่าเสียอย่างไร เมื่อเกิดการชำรุด เราก็มีระบบประกันดูแลอยู่ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าการมีแท็บเล็ตส่งผลให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้นกว่าร้อยละ 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องปัญหาขยะเทคโนโลยีนั้นก็จะมีระบบที่ดูแลในเรื่องสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว นอกจากนี้การพัฒนาเด็กต้องใช้เครื่องมือหลายอย่าง แท็บเล็ตก็เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าใช้แท็บเล็ตแล้วจะไม่ทำอย่างอื่นเลย
