วันนี้(1ส.ค.)นายประกอบ รัตนพันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายจาตุรนต์  ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ มีแนวคิดจะปรับระบบการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาว่า ตนยังไม่กล้าวิเคราะห์ว่าการรื้อระบบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษาจะดีหรือไม่ เพราะยังไม่เห็นรูปแบบใหม่ที่จะปรับว่าเป็นอย่างไร หากปรับแล้วนำไปสู่ความยุติธรรมและคุณภาพมาตรฐานก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าปรับแล้วไม่มีทิศทาง หรือรู้เพียงว่าระบบได้ปรับในสมัยรัฐมนตรีคนนี้ก็ไม่ควรปรับ  อีกทั้งระบบปัจจุบันก็ควรที่จะต้องมีการพัฒนาให้ดีขึ้น พร้อมทั้งสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.)จะต้องทำคะแนนที่จัดทดสอบให้มหาวิทยาลัยเกิดความเชื่อมั่น เพื่อจะได้นำคะแนนไปใช้ในการคัดเลือกเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย และเด็กจะได้ไม่ต้องสอบหลายอย่างด้วย
“ที่ผ่านมานโยบายการศึกษาของรัฐบาลจะมีรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการเป็นคนคิด แต่พอเปลี่ยนรัฐมนตรีคนใหม่ก็จะกำหนดนโยบายกันใหม่ บางครั้งบางนโยบายยังเป็นแค่โครงร่างก็ต้องถูกทิ้งแล้ว แต่ประเทศที่มีความรับผิดชอบไม่ว่าจะเปลี่ยนรัฐมนตรีกี่คนก็จะถือนโยบายรัฐบาลเป็นนโยบายหลัก ขณะที่เราถึงแม้ไม่เปลี่ยนนโยบาย แต่ก็ไปทำอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อให้รู้เพียงว่านโยบายได้เปลี่ยนแปลงในรัฐมนตรีคนนี้ โดยไม่ดูภารกิจของประเทศชาติ ทำให้น่าสงสารข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องและรับนโยบายรัฐมนตรีคนเก่ามาแล้วและยังไม่ได้ทำเลย แต่ก็ต้องมาเดินหน้าทำตามนโยบายรัฐมนตรีคนใหม่อีก”นายประกอบ กล่าว
ด้านนายจาตุรนต์  กล่าวว่า ในการปรับระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยนั้น ตนขอย้ำว่ารัฐมนตรีไม่ได้มีอำนาจที่จะไปสั่งการใดๆได้ เพียงแต่ตนต้องการกำหนดนโยบายให้ชัดเจน และทุกฝ่ายไม่เดือดร้อน ขณะที่การรับนิสิตนักศึกษายังเป็นอำนาจของมหาวิทยาลัยที่จะดำเนินการ เพียงแต่ตนอยากให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)เข้ามาช่วยรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อนที่จะมีการปรับระบบใหม่ และก็ไม่ได้ให้สกอ.กลับมาทำหน้าที่คัดเลือกเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา เพราะยังเป็นหน้าที่ของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย(ทปอ.)