รอง นรม. นายพงศ์เทพฯ ประชุมหารือเตรียมเด็กและเยาวชนไทยสู่โลกของงาน โดยการปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อยกระดับการศึกษาไทย
วันนี้ (2 สิงหาคม 2556) เวลา 9.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน ครั้งที่ 1/2556 โดยมี นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ซึ่งสรุปสาระสำคัญดังนี้
ที่ประชุมเห็นชอบการดำเนินงานด้านปฏิรูปหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งคณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตรและตำราการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งชาติ ได้พิจารณาสถานการณ์ปัจจุบันที่มีข้อมูลคาดประมาณบ่งชี้ว่า เด็กและเยาวชนไทยที่เกิดในปีเดียวกันต้องยุติการศึกษา ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายเป็นจำนวนมาก โดยจำนวนนักเรียนในระดับชั้น ม. 3 (ปีสุดท้ายของการศึกษาภาคบังคับ) มีอยู่ประมาณร้อยละ 87 ของประชากรที่เกิดปีเดียวกัน จำนวนนักเรียนในระดับชั้น ม.6 มีอยู่ประมาณร้อยละ 57 และศึกษาต่ออุดมศึกษาประมาณร้อยละ 36 ดังนั้นจึงมีผู้ออกจากระบบการศึกษาด้วยวุฒิ ม.6 , ม.3 และต่ำกว่า ม.3 ประมาณร้อยละ 21 , 30 และ 13 ตามลำดับ ในการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานครั้งนี้ จึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กและเยาวชนก้าวเข้าสู่โลกของงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนากรอบหลักสูตรกลุ่มการเรียนรู้ “การดำรงชีวิตและโลกของงาน” ขึ้นเป็นการเฉพาะ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. กรอบหลักสูตรกลุ่มการเรียนรู้ “การดำรงชีวิตและโลกของงาน” นำเสนอเหตุผลความจำเป็น สถานการณ์การหลุดออกจากระบบการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทย เป้าหมายของหลักสูตรต่อเด็กและเยาวชน เป้าหมายการจัดการเรียนรู้ แนวคิดของกรอบหลักสูตรและองค์ประกอบของกลุ่มการเรียนรู้
2. กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานกลุ่มการเรียนรู้ “การดำรงชีวิตและโลกของงาน” นำเสนอโครงสร้างชุดวิชา/กลุ่มวิชา เป้าหมายการเรียนรู้ ผลลัพธ์การเรียนรู้และทักษะที่จะเกิดแก่ผู้เรียน รวมถึงคำอธิบายของกลุ่มวิชา/ชุดวิชา จำแนกตามระดับช่วงชั้นและระดับชั้น พร้อมเนื้อหาสำคัญ กิจกรรมแนะนำและสื่อที่ใช้
3. การพัฒนาระบบการศึกษา “มัธยมสัมมาชีพ” เพิ่มทางเลือกเพื่อเด็กเยาวชนไทย โดยนำเสนอข้อเสนอระบบการศึกษา มัธยมสัมมาชีพ อันเป็นการปฏิรูประบบเพิ่มเติมจากหลักสูตรใหม่เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยพัฒนาแนวทางจากกรณีศึกษาที่มีการดำเนินการจริงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกแก่เด็กและเยาวชนไทยที่เป็นรูปธรรม
4. การปฏิรูปการแนะแนว การปฏิรูปหลักสูตรในกลุ่มสาระนี้จำเป็นต้องจัดระบบ “การแนะแนว” ให้เป็นกิจกรรมแกนกลางที่มีประสิทธิภาพ โดยเสนอระบบแนะแนว พร้อมกรณีตัวอย่างการจัดแนะแนวทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สามารถนำหลักสูตรไปใช้ในการเพิ่มทางเลือกให้แก่เด็กและเยาวชนไปสู่การปฏิบัติอย่างได้ผลต่อไป
