เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม แถลงข่าวภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมว่ากระทรวงมีนโยบายทำงานเชิงรุกโดยเน้นเรื่องสำคัญอาทิ การป้องกันและปราบปรามผู้มิทธิพลซึ่งมีพฤติการณ์เป็นมาเฟียคุกคามการท่องเที่ยว โดยมีมติให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เป็นภัยกับการท่องเที่ยว (ศป.อท.) และมอบหมายให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ไปประชุมร่วมกับรมว.การท่องเที่ยวและกีฬาในวันที่ 2 ส.ค. นี้ เวลา 09.30 น. เพื่อแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยจะเป็นศูนย์อย่างเป็นทางการในวันที่ 9 ส.ค.นี้ที่จ.ภูเก็ต เนื่องจากข้อมูลจากการสืบสวนพบว่ากลุ่มผู้มีอิทธิพลในจ.ภูเก็ตมีทั้งกลุ่มมาเฟียที่เป็นคนไทยตั้งตัวเป็นแท็กซี่เถื่อนข่มขู่นักท่องเที่ยว และมาเฟียต่างชาติประมาณ 15 แก๊ง ทั้งกลุ่มรัสเซีย จีน และเกาหลี โดยมีคนไทยเป็นนอมินีถือหุ้นบริษัทให้คนต่างชาติกว่า 200 แห่ง
การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ โดยเฉพาะการทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งทำให้รัฐเสียหายกว่า 4,600 ล้านบาท ซึ่งมอบหมายให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ร่วมกับดีเอสไอดำเนินคดีอย่างจริงจัง เนื่องจากกลุ่มคนร้ายสำแดงว่าส่งโลหะอัดก้อนพิเศษ(เหล็ก)พิกัด 7206.9 ในราคากิโลกรัมละ 628-630 บาทจำนวนกว่า 100,000 ตัน มูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท แต่เป็นการส่งออกเศษเหล็กอัดก้อนมีสนิม ที่สำคัญกระทรวงอุตสาหกรรมยืนยันว่าระเทศไทยมีกำลังการผลิตเหล็กน้อย สถิติการส่งออกตั้งแต่ปี 2550-2554 มีเพียง 1,500 ตันเท่านั้น จึงเป็นไม่ได้ที่จะมีการส่งออกเพียงปีเดียว 100,000 ตัน ล่าสุดศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย ที่เป็นเอกชนได้แก่ นายวีรยุทธ แซ่หลก หรือนายธนยุทธ ดลธนโกเศศ 2 . น.ส.สายธาร แซ่หลก 3.นายวีรยุทธ หรือสุรเชษฐ์ มหารำลึก ซึ่งทั้ง 3 คนอยู่ระหว่างหลบหนี 4.นายประสิทธิ์ อัญญโชติ และ5.นายกิตติศักดิ์ อัญญโชติ นอกจากนี้กระทรวงการคลังยังได้ส่งรายชื่อเจ้าหน้าที่รัฐ 24 รายซึ่งมีมูลว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม
ด้านนายธาริต กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายศุภชัย ศรีศุภอักษร และพวก ข้อหายักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด มูลค่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้ดีเอสไอได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ของนายศุภชัยในสหกรณ์และถอดถอนนายศุภชัยทันที เนื่องจากการสอบสวนพบว่าการปล่อยกู้ให้สมาชิกสมทบ 27 ราย วงเงินเกือบ 12,000 ล้านบาทไม่เป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์ บางรายมีหลักทรัพย์ค้ำประกันไม่ครอบคลุมมูลหนี้ บางรายเป็นการค้ำประกันเงินกู้ด้วยบุคคลที่ไม่มีหลักประกันหนี้และลูกหนี้ชำระหนี้ไม่เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในสัญญา การกระทำดังกล่าวถือเป็นการทุจริตและไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับสหกรณ์