วันนี้(18ก.ค.) ที่วัดบวรนิเวศวิหาร พระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือหลวงปู่พุทธอิสระ แห่งวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เดินทางมายังวัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อยื่นหนังสือต่อสมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต ในการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าคณะปกครองในฐานะละเมิดจริยาพระสังฆาธิการและการปกปิดอาบัติให้แก่สมีคำ แต่ก็ไม่มีผู้ใดออกมารับหนังสือจากหลวงปู่พุทธอิสระ จากนั้นหลวงปู่พุทธอิสระ จึงได้เดินทางไปยังสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ก็ไม่มีใครที่จะสามารถรับหนังสือดังกล่าว เนื่องจากพระสงฆ์ติดกิจนิมนต์ สุดท้ายได้ไปยื่นหนังสือไว้ที่สำนักงานวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมี พระสุทธิสารเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าวไว้
พระสุทธิสารเมธี กล่าวว่า ไม่ได้รับคำสั่งจากพระเถระให้เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว อาจจะทำให้ถูกตำหนิถึงความไม่เหมาะสมได้ จึงอยากให้หลวงปู่พุทธอิสระเข้าใจด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะรับหนังสือนี้ไว้แล้วจะส่งต่อไปตามลำดับขั้นตอนต่อไป
หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าวว่า การเดินทางมายีนหนังสือต่อสมเด็จพระวันรัต รักษาการเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุตครั้งนี้  เพื่อมายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าคณะปกครองของหลวงปู่เณรคำในขณะนั้น ตั้งแต่เจ้าคณะภาค จนถึงพระอุปัชฌาย์ ในฐานความผิดละเมิดจริยาพระสังฆาธิการและปกปิดอาบัติ  รับของโจร  ซึ่งถือเป็นฐานความผิด ที่ต้องมีการพิจารณาตามตัวบทกฎหมาย และถือว่า เป็นการทำลายตระกูลสงฆ์ เป็นอาบัติสังฆาทิเสส ที่ร่วมกันปกปิดอาบัติ ส่งผลเสียต่อพระพุทธศาสนา  หากเจ้าคณะปกครองทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ก็คงไม่มีเหตุการณ์ยืดเยื้อมาอย่างนี้
“อาตมาได้ทำหน้าที่ พุทธบริษัทที่ดีตามคำสั่งของพระพุทธเจ้าแล้ว หากไม่ทำก็จะกลายเป็นว่า ปกปิดอาบัติ เพิกเฉยต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อที่จะให้มีการดำเนินการกับกระบวนการที่สร้างเณรคำขึ้นมา รู้เห็นเป็นใจ เสมือนเป็นหนึ่งในกระบวนการเณรคำ ก็คือ เจ้าคณะปกครอง ที่สำคัญอาตมายึดมั่นในหลักศีลธรรม จริยธรรม ให้เป็นต้นแบบของสังคม หากจะมองเฉย แล้วไม่ทำอะไรเลยก็ทำได้ แต่สังคมจะไปพึ่งอะไร ซึ่งการที่อาตมากัดไม่ปล่อย เพราะถ้าปล่อยไปเช่นนี้ ก็จะมี อรหันต์คำสอง คำสาม ไม่จบสิ้น และการที่เดินทางมาที่นี่ ก็คงไม่มีใครชอบ แต่หากอาตมาไม่ทำหน้าที่เพื่อพระศาสนาแล้วใครจะทำ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีใครออกมารับหนังสือ อาตมาก็จะฝากหนังสือไว้ และหากละเลยที่จะปฏิบัติตามกระบวนการปกครอง อาตมาจะหาช่องดูว่าจะฟ้องศาลปกครองได้หรือไม่”หลวงปู่พุทธอิสระ กล่าว