พาณิชย์โฟกัส7จังหวัดท่องเที่ยวตรวจนอมินีพิรุธในภูเก็ตเพียบ
 


พาณิชย์โฟกัส7จังหวัดท่องเที่ยวตรวจนอมินีพิรุธในภูเก็ตเพียบ


พาณิชย์โฟกัส7จังหวัดท่องเที่ยวตรวจนอมินีพิรุธในภูเก็ตเพียบ

พาณิชย์เร่งตรวจสอบนอมินีจังหวัดท่องเที่ยวจับตา7 จังหวัดท่องเที่ยวกระบี่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี  ประจวบคีรีขันธ์  ชลบุรี เชียงราย  และเชียงใหม่พร้อมร่วมมือกับก.ท่องเที่ยวและกีฬาในการเข้าไปตรวจสอบการดำเนินธุรกิจที่มีต่างชาติร่วมถือหุ้นอยู่ด้วยหวังสร้างความมั่นใจ


นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ  รัฐมนตรช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบสถานะของบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีคนต่างชาติถือหุ้นว่ามีการถือหุ้นแทนคนต่างชาติ (นอมินี)ว่า  จากการตรวจสอบล่าสุดในจังหวัดภูเก็ตพบกลุ่มเป้าหมาย153ราย  และจากการคัดกรองออกจากกลุ่มเป้าหมายพบว่าได้ปรับเป็นผู้หุ้นเป็นไทย100% จำนวน 7 รายไม่ประกอบธุรกิจ 44 รายไม่ส่งงบการเงิน (รอถอนร้าง)43 ราย ซ้ำกับโครงการที่ได้ตรวจสอบแล้ว1 รายจดทะเบียนเลิกบริษัทแล้ว 2ราย รวม97 รายและพบกลุ่มเป้าหมายที่ต้องตรวจสอบ 56 รายแบ่งเป็น รอตรวจสอบ 24 รายรอส่งงบการเงินก่อนเพื่อวิเคราะห์การประกอบธุรกิจอยู่ระหว่างการดำเนินการ 13ราย

แบ่งเป็นประเภทขายอาหารและเครื่องดื่ม2 ราย  การนำเที่ยว 1 ราย ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์1 ราย  ตัวแทนรับชำระสินค้า 1ราย  ที่ปรึกษาและการจัดการ1 ราย  แนะนำเทคนิคการดำน้ำ 1 ราย พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1ราย  รับจ้างออกแบบเว็บไซต์1 ราย จำหน่ายสินค้าประเภทต่างๆ 4 ราย  โดยได้ตรวจเอกสารออกเอกสารถึงผู้ถือหุ้นให้ส่งเอกสารเกี่ยวกับการถือหุ้นร่วมลงทุนออกหนังสือถึงกรรมบริษัทให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการทำธุรกิจพร้อมให้ส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง


โดยในกลุ่มเป้าหมายที่ต้องตรวจนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้19 ราย แบ่งเป็นจดหมายตีคืน 11ราย จึงได้ส่งให้สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า(สพค.)ในพื้นที่ตรวจสอบที่ตั้งของสำนักงานและพบว่าพบที่ตั้งของนิติบุคคล3 รายและให้ตรวจสอบต่อไปและไม่พบที่ตั้งนิติบุคคล 8รายได้ดำเนินการถอนทะเบียนร้าง

นอกจากนี้ยังพบว่ามี 8 รายที่ไม่ปฎิบัติตามหนังสือจึงได้สั่งให้ดำเนินคดีตามพรบ.การบัญชีและส่งให้กรมสอบสอบคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม

นอกจากนี้กรมจะเร่งตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมในจังหวัดเป้าหมายอีก7  จังหวัดคือ กระบี่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี  ประจวบคีรีขันธ์  ชลบุรี เชียงราย  และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญด้านการท่องเที่ยวโดยก่อนหน้านี้ได้ตรวจสอบไปแล้วจำนวนกว่า3.2 หมื่นรายพบว่าส่วนใหญ่ไม่มีการกระทำผิดส่วนผู้กระทำผิด 844 รายในจำนวนนี้352รายกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบเชิงลึกและส่งดีเอสไอดำเนินคดี
 

“จะร่วมมือกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการเข้าไปตรวจสอบการดำเนินธุรกิจที่มีต่างชาติร่วมถือหุ้นอยู่ด้วยและจะลงพื้นที่ตรวจสอบและสร้างความมั่นใจในการดูแลธุรกิจคนไทยในวันที่ 25 ก.ค.นี้
ซึ่งในเบื้องต้นได้หารือกับนายสมศักดิ์ ภูรีศรีศักดิ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้วถึงแนวทางในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวซึ่งทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ก็จะมีการหารือกันในรายละเอียดต่อไปเพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเพราะธุรกิจส่วนใหญ่ที่มีการตรวจพบว่ามีการทำผิดกฎหมายนอมินีจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและจะทำให้ในภาพรวมของการประกอบธุรกิจในลักษณะนอมินิที่ถูกต้องตามกฎหมายในไทยมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นเพราะภาครัฐได้ให้ความสำคัญในการดูแลให้ผู้ประกอบธุรกิจมีการมีการปฎิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย"

 


// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.