ภูเก็ต พังงา กระบี่ จับมือทำหน้าที่พี่เลี้ยงให้ระนอง ตรัง ผนึกกำลังจัดยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยว หวังเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ทำหน้าที่พี่เลี้ยง เปิดตลาดให้ระนอง และตรัง สร้างการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง ตั้งเป้าปี 2556มีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่ม 20%หวั่นจุดขายการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติจะเสื่อมโทรม เร่งสร้างจุดขายอื่นทดแทน หวังขยายกลุ่มนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น

ดร. สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่าปัจจุบันการท่องเที่ยวของ 5จังหวัด ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งประกอบด้วย ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง และตรัง เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก มีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวใน 5จังหวัด ถึง 15ล้านคนต่อปี และสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้ถึงปีละ 3แสนล้านบาท แต่รายได้จากการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้น จะอยู่ในกลุ่มจังหวัดภูเก็ต 80%กระบี่ 14%และพังงา 2%ส่วนอีกสองจังหวัด คือระนอง และตรัง มีสัดส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวที่น้อยมาก ทั้งๆที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้ 3จังหวัดหลัก ซึ่งชาวต่างชาติ ที่เข้ามาท่องเที่ยวมากกที่สุด คือ จีน รัสเซีย และลูกค้ากลุ่มยุโรปเป็นหลัก

ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้เกิดการกระจุกตัวท่องเที่ยวใน 3จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา และกระบี่ เป็นเพราะความสะดวกสบายในการเดินทาง เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดกระบี่มีสนามบินนานาชาติและโรงแรมที่ได้มาตรฐานทำให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศได้เป็นจำนวนมากรวมถึงการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ทำให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากกว่า ส่วนจังหวัดตรังและระนองมีการประชาสัมพันธ์ในวงจำกัด ต้องใช้เวลาอีกพอสมควรในการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รู้จัก

ดังนั้นกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน 5จังหวัด จึงร่วมผนึกกำลังเดินหน้า โครงการพัฒนากลไกการ จัดการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดอันดามันสู่มาตรฐานสากล เป็นครั้งที่ 2โดยจัดกิจกรรม Andaman Explorer 2013ขึ้นเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยว ให้เป็นรูปธรรมและเป็นที่รู้จักจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยมุ่งหวังที่จะให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวที่หลากหลายรูปแบบ อันนำมาซึ่งการเพิ่มขึ้นของอัตราวันพักเฉลี่ยและค่าใช้จ่ายต่อคนต่อวัน ส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้ลงไปในแต่ละจังหวัดของกลุ่มมากยิ่งขึ้น

ดร.สมหมาย กล่าวต่อว่าในเบื้องต้นได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินการร่วมกันของ 5จังหวัด โดยได้มีการกำหนดให้จังหวัดระนอง เน้นเรื่องธรรมชาติเพื่อการดูแลสุขภาพ จังหวัดตรัง เน้นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จังหวัดภูเก็ต เน้นเรื่องแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ กิจกรรมการท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น และความสนุกสาน จังหวัดพังงา เน้นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ วิถีชีวิตที่เรียบง่าย และจังหวัดกระบี่ เน้นกิจกรรมการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ

การจัดกิจกรรม Andaman Explorer ในครั้งนี้จะเน้นที่ จังหวัดตรัง จังหวัดระนอง โดยการแบ่งออกเป็น 3กิจกรรม คือ

1. กิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยของจังหวัดระนอง จะจัดในรูปแบบ Table Top Sale เป็นการนำผู้ประกอบการนำเที่ยวแบบ Inbound ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ ATTA จำนวน 30บริษัท พร้อมสื่อมวลชน ไปพบปะเจรจาเพื่อซื้อขายสินค้าทางการท่องเที่ยวกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวของจังหวัด ส่วนจังหวัดตรัง จัดการซื้อขายสินค้าทางการท่องเที่ยวแบบ Mart on Train ที่จังหวัดตรัง

2. กิจกรรมเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวจริง เป็นการจัดในลักษณะเดียวกันกับ Mega Fam Trip โดยคณะ Andaman Explorer และสื่อมวลชนกว่า 60ท่าน เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว 2จังหวัดได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลักของแต่ละจังหวัด เช่น จังหวัดตรัง เยี่ยมชมสถานีรถไฟกันตรัง ที่มีอายุครบ 100ปี : สุดทางรถไฟสายอันดามัน และโปรแกรมวันเดียวเที่ยว 4เกาะ ตลาดสถานีคนเดิน ส่วนจังหวัดระนอง เยี่ยมชมบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวารินทร์ ศูนย์วิจัยป่าชายเลนหงาว นมัสการหลวงพ่อดีบุก ณ วัดบ้านหงาว เป็นต้น

3. กิจกรรมเสวนาหรือกิจกรรมระดมสมอง Andamanization Road Map Forum เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อจัดทำแผนแม่บทในการพัฒนา การส่งเสริมการท่องเที่ยว ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันให้มีการเชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์ และมีภาพลักษณ์ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในเขตเดียวกัน รวมถึงได้สังเกตการณ์สถานประกอบการ ผู้ประกอบการและร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันเพื่อเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวหลังจากกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่จะได้ร่วมกันจัดขึ้น โดยจังหวัดตรัง เสวนาหัวข้อ “ตรัง....เมืองแห่งความสุข” จังหวัดระนอง เสวนาหัวข้อ “ระนอง...เมืองแห่งสุขภาพ” โดยมี คุณอดิศักดิ์ ศรีสม เป็นผู้ดำเนินรายการ ทั้งนี้ในการจัดกิจกรรม Andaman Explorer จะจัดขึ้นช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้

การกำหนดยุทธศาสตร์ในครั้งนี้จะช่วยให้การเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังสามารถชูจุดเด่นที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งในปี 2556นี้ ได้ตั้งเป้าอัตราการเติบโตในส่วนจำนวนนักท่องเที่ยว 10%และในส่วนของรายได้จาการท่องเที่ยวตั้งเป้าเติบโต 20%

“อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวใน 5จังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน มีจุดขายสำคัญคือเรื่อง ธรรมชาติ เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันเมื่อมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าท่องเที่ยวมากขึ้น จะทำให้ธรรมชาติเสื่อมโทรมไป ดังนั้นควรจะมีการสร้างจุดขายอย่างอื่นทางด้านการท่องเที่ยว อันจะช่วยให้สามารถผลักดัน รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อาทิ การสร้างศูนย์ประชุมระดับนานาชาติ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม MICE ซึ่งเป็นกลุ่มที่เดินทางเพื่อทำธุรกิจและท่องเที่ยวไปพร้อมกัน และเป็นนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยมีอัตราการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 4เท่า นอกจากนี้การเปิดเสรีเศรษฐกิจอาเซียน AEC

ใน ปี 2558จะช่วยให้เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่ 5จังหวัด ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหา การขาดแคลนแรงงานด้านการท่องเที่ยว ดังนั้นภาครัฐจึงควรจะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยว ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ”