นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1นักเรียน ครั้งที่ 9/2556เมื่อวันที่ 16กรกฎาคม 2556โดยมีสาระสำคัญ คือ ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อสร้างมาตรฐาน พัฒนาหลักสูตร เนื้อหาและนวัตกรรม
รมว.ศธ.กล่าวว่า เนื่องจากคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1นักเรียน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งขึ้น โดยมีหน้าที่ดูแลเรื่องนโยบายแท็บเล็ต ให้เด็กได้มีแท็บเล็ตและได้ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง รวมทั้งดูแลในเรื่องหลักสูตรที่กำหนดไว้ในแท็บเล็ต ซึ่งตรงกับนโยบายของ ศธ. ที่ให้ความสำคัญกับเนื้อหา มาตรฐานของเนื้อหา ทั้งแบบเรียน แบบฝึกหัด บททดสอบ เทคนิควิธีการเรียนการสอนและนวัตกรรมใหม่ๆ
จึงได้มอบหมายให้ สพฐ.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมายังไม่มีคณะอนุกรรมการที่ดูแลในเรื่องมาตรฐานของเนื้อหา ในขณะเดียวกันจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ ศธ. เช่น สสวท. ได้ร่วมกันพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย แต่จะให้คณะอนุกรรมการดังกล่าวดูแลเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นงานหนักของ สพฐ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องเร่งดำเนินการต่อไป
นอกจากนี้ยังได้ให้ สพฐ.จัดการเสวนาเพื่อให้มีการรวบรวมผลการวิจัยและผลการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการมีการใช้แท็บเล็ตในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในแง่ความทั่วถึง คุณภาพ ปัญหาอุปสรรค รวมทั้งในส่วนของเนื้อหา เช่น ประโยชน์ของการใช้ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และอีกส่วนหนึ่งจะรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็น ครู นักเรียน ผู้ปกครอง เพื่อประเมินสถานะการใช้แท็บเล็ตที่ผ่านมาว่าเป็นอย่างไร ต้องการให้แก้ไขปรับปรุงอย่างไร เพราะเรื่องนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เมื่อดำเนินการระยะหนึ่งแล้ว ผู้ใช้อาจจะต้องการสเป็กหรือคุณภาพที่สูงกว่านี้ แต่สิ่งสำคัญคือเนื้อหา รวมทั้งความเหลื่อมล้ำระหว่างนักเรียนที่มีแท็บเล็ตกับครูที่ไม่มีแท็บเล็ตและการอบรมพัฒนาครูด้วย เพื่อจะนำผลการเสวนาและข้อมูลไปใช้ปรับปรุงในส่วนของนโยบายและการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการประมูลด้วยวิธี e-Auction ในการจัดซื้อแท็บเล็ตทั้ง 4โซน
ที่ประชุมรับทราบรายงานความคืบหน้าการจัดซื้อแท็บเล็ตทั้ง 4โซน โดย รมว.ศธ.ได้มอบหมายให้ สพฐ.ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อแท็บเล็ต ดังนี้
- โซนที่ 1และ 2 ซึ่งไม่มีข้อทักท้วงในการประมูล จะให้ สพฐ.ดำเนินการตามคำแนะนำของที่ประชุม คือ เจรจาต่อรองเกี่ยวกับราคาที่จะจัดซื้อแท็บเล็ตทั้ง 2โซน จากนั้นให้รวบรวมผลการเจรจาและข้อมูลเสนอต่อ รมว.ศธ.เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
- โซนที่ 3พบว่ามีการร้องเรียนจากภาคีเครือข่ายการต่อต้านการทุจริตคอรัปชัน และมีการเสนอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนได้รับฟังความเห็นของที่ประชุมเกี่ยวกับกรณีนี้ พบว่ามีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายทั้งในส่วนของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี และอำนาจหน้าที่ของ รมว.ศธ. จึงจะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎระเบียบและผู้เกี่ยวข้องมาให้ความเห็นและข้อแนะนำว่า ในกรณีที่เรื่องนี้ยังมีชั้นความลับ ในส่วนของ รมว.ศธ.จะต้องดำเนินการอย่างไรให้เป็นไปตามกฎหมายและดีที่สุด ดังนั้นขั้นตอนการจัดซื้อแท็บเล็ตของโซนที่ 3จึงอาจจะต้องชะลอไว้ก่อน
- โซนที่ 4ซึ่งจะมีขั้นตอนการยื่นซองเอกสารการประมูลในวันนี้ ก็จะขอดูผลการหารือในกรณีโซนที่ 3ก่อนว่าจำเป็นจะต้องเลื่อนการประมูลโดย e-Auction ในโซนที่ 4ออกไปหรือไม่ เนื่องจากหากพบปัญหาช่องว่าง ช่องโหว่ของระเบียบ วิธีการ กติกา ในการจัดซื้อโซนที่ 3ก็จะได้นำมาประกอบการพิจารณาว่าจำเป็นจะต้องแก้ไขเสียก่อนหรือไม่
