เครียด! ทำชาวสิงคโปร์ฆ่าตัวตายพุ่ง
 


เครียด! ทำชาวสิงคโปร์ฆ่าตัวตายพุ่ง


เครียด! ทำชาวสิงคโปร์ฆ่าตัวตายพุ่ง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ว่า กลุ่มองค์กรด้านการกุศล สะมาริทานส์ ประจำสิงคโปร์ หรือเอสโอเอส เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า อัตราการฆ่าตัวตายในสิงคโปร์ เมื่อปีที่แล้ว ทำสถิติสูงสุด ที่ 467 ราย เนื่องจากวัยรุ่นมีปัญหามากขึ้นจากความเครียดในการดำเนินชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ทำให้ตัดสินใจฆ่าตัวตายมากขึ้น เพิ่มขึ้นจากปี 2554 ถึงร้อยละ 29 โดยร้อยละ 80 ของผู้คิดสั้นฆ่าตัวตาย มีอายุอยู่ในวัยกำลังศึกษาและวัยทำงาน 20-29 ปี

เอสโอเอส ซึ่งเป็นหน่วยงานให้บริการรับฟัง ปรึกษาและตอบปัญหาทางโทรศัพท์เพื่อป้องกันการฆ่าตัวตาย ตลอด 24 ชั่วโมง ระบุว่า ปัญหาพื้นฐานของผู้ที่ฆ่าตัวตายมักเกี่ยวข้องกับปัญหาความเครียดในการดำเนินชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล รวมถึงปัญหาการว่างงาน ความเครียดจากการเรียนหรือการทำงาน ความวิตกกังวงด้านการเงิน ปัญหาครอบครัว การอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม และความเปลี่ยวเหงาอ้างว้าง ทั้งหมดทั้งมวลถือเป็นปัญหารุมเร้าที่ทำให้คนในสิงคโปร์ฆ่าตัวตาย
 

คริสตีน ว่อง ผู้อำนวยการบริหารของเอสโอเอส กล่าวว่า คนหนุ่มสาวที่มีความเครียด มักเก็บซ่อนความเจ็บปวดไว้ไม่แสดงออก โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่าจะขอความช่วยเหลือจากที่ไหน อย่างไร หรือจากใคร ขณะที่ คนใกล้ชิดที่อยู่รอบตัว ก็ไม่รู้ถึงปัญหาดังกล่าว และไม่สามารถช่วยเหลือได้เท่าที่ควร ว่องกล่าวเพิ่มเติมว่า ชุมชนควรมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการฆ่าตัวตาย ด้วยการให้กำลังใจผู้ที่มีความเครียดด้วยวิธีการเข้าไปเจรจาพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาและความรู้สึกอยากฆ่าตัวตายของพวกเขา
 

เมื่อปีที่แล้ว เอสโอเอสได้รับโทรศัพท์ปรึกษาปัญหาผ่านฮอตไลน์สายด่วน 39,994 ครั้ง ลดลงจาก 40,025 ครั้งในปี 2554
 

อย่างไรก็ตาม คดีการฆ่าตัวตายก็คิดเป็นเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นของผู้เสียชีวิตทั้งหมดในสิงคโปร์ ซึ่งมีประชากร 5.3 ล้านคน ที่มีความกดดันจากระบบการศึกษาในโรงเรียน องค์การอนามัยโลก หรือฮู ระบุเมื่อปีที่แล้วว่า ทั่วโลก มีคนฆ่าตัวตาย 1 ล้านคนทุกปี ซึ่งมากกว่าการเสียชีวิตในสงครามและฆาตกรรมรวมกันเสียอีก
 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.