เกษตรกรไทยใช้ยาและสารเคมีมาก เป็นเสียงวิจารณ์ที่ได้ยินกันบ่อย แต่เชื่อหรือไม่ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เขาใช้สารเคมีทางการเกษตรมากกว่าบ้านเราหลายเท่า

นี่ไม่ใช่เป็นตัวเลขจากการจินตนาการคิดฝันไป แต่เป็นสถิติข้อมูลจากการรวบรวมของนักวิชาการ Wageningen University มหาวิทยาลัยชั้นนำด้านเกษตรของเนเธอร์แลนด์....ประเทศไทยมีอัตราการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ปีละ 1.1 กก.ต่อเฮกแตร์ (6.25 ไร่)

ในขณะที่สหรัฐอเมริกาใช้ 2.4 กก.ต่อเฮกแตร์, เยอรมนี 4 กก., อังกฤษ 5.8 กก., ฝรั่งเศส 6 กก., เบลเยียม 12 กก. ญี่ปุ่น 17.5 กก.

เนเธอร์แลนด์ ปีละ 20.8 กก.ต่อเฮกแตร์...มากกว่าเรา 18 เท่าตัว

เห็นตัวเลขแล้วงงไหม...ประเทศเจริญแล้วมีเกษตรกรหัวก้าวหน้า ทำเกษตรกรรมสมัยใหม่ และยังเป็นประเทศที่จ้องจะออกกฎห้ามสินค้าเกษตรมีสารเคมีตกค้างเข้าประเทศ ทำไมถึงใช้สารเคมีมากมาย โดยไม่มีปัญหาเรื่องสารเคมีตกค้าง

ในทางกลับกัน...เราใช้น้อย แต่ทำไมถึงมีปัญหามาก

หลายคนอาจจะตั้งข้อสงสัย ประเทศเหล่านั้นคงปลูกพืชผักราคาแพง เลยต้องใช้สารเคมีดูแลรักษามาก...คำตอบไม่น่าจะใช่  เพราะสินค้าเกษตรไม่ว่าที่ไหน ไม่ต่างกัน  ตั้งราคาไว้แพงประเทศผู้ซื้อสามารถหันไปนำเข้าจากประเทศที่ขายราคาถูกกว่ามาทดแทนได้ไม่ยาก

ส่วนเรื่องรัฐบาลประเทศเหล่านั้น ไม่ห่วงคุณภาพชีวิตของประชาชนรึไง คงต้องมองข้าม พูดไปก็อายเขา มาตรฐานมันต่างกัน...ของใครสูง ของใครต่ำ รู้อยู่แก่ใจ

แล้วอะไรล่ะเป็นเหตุผลที่เขาใช้สารเคมีกันมาก โดยไม่มีปัญหาเรื่องสารเคมีตกค้างเหมือนอย่างบ้านเรา...ดูเหมือนคำตอบยังวนเวียนอยู่กับเรื่องเดิมๆ

เกษตรกรไทยขาดความรู้ ไม่มีความเป็นมืออาชีพ ยังคงทำเกษตรตามความเชื่อที่เขาว่ามา

พูดง่ายๆ เทคโนโลยีก้าวไกล แต่เกษตรกรยังก้าวตามไม่ทัน...ถึงเวลายอมรับความจริงกันรึยัง.

ชมชื่น ชูช่อ