อดีตสาวประเภทสอง สุดสวย "แจ๊ส" (สรวีย์ นัดที ) มิสทิฟฟานี่ ปี 2552 หลังจากสร้างความแปลกใจและฮือฮาสุดขีด ด้วยการไปบวชเป็นพระได้ชื่อว่า "พระมหาวิริโยภิกขุ" ที่วัดเลียบ อ.เมือง จ.สงขลา

ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม 2556 นายทรงเดช ไตรรัตน์รังษี หรือ "หนุ่ม จี-สตาร์" ได้นิมนต์พระแจ๊สมาบรรยายธรรมให้เหล่าพนักงาน ที่จีสตาร์พาวิลเลียน ผับกลุ่มชายรักชายชื่อดัง ย่านสี่แยกเหม่งจ๋าย ครั้งนี้ถือเป็นการบรรยายธรรมครั้งแรกที่กรุงเทพฯ ในโอกาสดีนี้พระแจ๊สยังได้เปิดใจทุกเรื่องราวแบบควักหัวใจพูด

"ฉันมาพูดครั้งนี้ไม่ใช่คนเก่ง ยังกิเลสหนาปัญญาน้อยที่ต้องเดินตามพระพุทธเจ้า ไม่ได้เหนือใครไม่ได้วิเศษมาจากไหน แต่ฉันต้องการพ้นทุกข์ และฉันเจอแล้วคือพระพุทธเจ้า ก็อยากให้พวกเธอพ้นทุกข์เหมือนกันเนอะ หลังจากได้ศึกษาธรรมแล้ว พบว่าทุกคนจะต้องเดินไปหาความตาย เจตนาครั้งนี้เพื่อเอาธรรมะมาให้ ร่างกายคนเราย่อมเสื่อมไปตามเวลา แต่จิตที่เป็นกุศลจิตที่ดีไม่มีวันเสื่อม ลองถามตัวเองดีๆ ว่าถ้าพรุ่งนี้เราตาย จะเป็นยังไง ไม่ได้แช่งแต่พระพุทธเจ้าบอกมันคือความจริงที่ตัวเองต้องได้ความตาย

"ตอนนี้ข่าวหน้าหนึ่งเกี่ยวกับพระเยอะมาก เผื่อใจเอาไว้แล้วล่ะว่าจะมีพาดหัวข่าวว่า พระตุ๊ดเข้าบาร์เกย์ (ยิ้ม) ไม่ได้เป็นอินสไปเรชั่นให้นักข่าวนะ ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น อยากให้ดูที่เจตนาว่าฉันมาที่นี่เพื่ออะไร ถ้าคนที่นี่ (จีสตาร์พาวิลเลียน) โดนเหมือนคนที่ซานติก้าผับเผาตายแล้ววิญญาณอยู่ไหน ฉันมาที่นี่เพื่ออะไร เพื่อให้พนักงานทุกคน เจ้าของร้านผู้บริหาร และคนที่ชอบมาเที่ยวที่นี่ ถ้าเธอหนีมันไม่ได้ ถ้าเธอต้องเที่ยวที่นี่ ถ้าเธอต้องทำอาชีพที่นี่ จะเที่ยวยังไงไม่ให้จิตไหลไปกับกิเลส จิตไม่ไปนรกก่อนตัว จิตเราไวมาก (ลากเสียงยาว) รู้ตัวอีกทีสายเสียแล้ว มาครั้งนี้เพื่อบอกให้พวกเธอรู้ทันจิตของตัวเอง

"เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ดีแล้วโชคดีมาก ได้เกิดมามีความสามารถที่แตกต่างกันไป ถ้าชาติหน้าไปเกิดเป็นหมา ไปเกิดเป็นนกล่ะ ไปเป็นขอทาน จัณฑาลล่ะ วันนี้เธอเกิดมาโชคดีแล้ว ได้เกิดมาเจอธรรมะของพระพุทธเจ้าที่เผยแพร่ไปทั่วโลก แม้มีข่าวหน้าหนึ่งเกี่ยวกับพระที่เราด่ากันมาก ส่วนใครจะมาด่าว่าฉันก็ไม่สน เพราะฉันเป็นลูกพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ลูกพวกเธอใช่มั้ย คนที่มีอิทธิพลกับฉันคือพระพุทธเจ้า ฉันมีจีวร ฉันมีบาตรหนึ่งบาตร ที่มีเอาไว้ขอข้าวกินเพราะใคร เพราะพระพุทธเจ้า ไม่ใช่พวกเธอ (สื่อมวลชน) แม่ให้ชีวิตฉันมา อุ้มท้องฉันมา 9 เดือน พระพุทธเจ้าให้ทางรอดกับฉัน ให้ความเป็นอมตะ ไม่ใช่เป็นสาวสองพันปีเป็นกะเทยห้าพันปี ไม่ใช่ จิตต่างหากล่ะ จิตไม่ตาย ไม่เกิดไม่ดับ ทุกวันนี้จิตเราไหลไปกับของปลอมทั้ง ลาภ ยศ สรรเสริญ เสื่อมมั้ย อาตมาจะอวยพรให้ทุกคนนะ ขอให้มีลาภ ยศ สรรเสริญ และเสื่อมทั้งหมด มันเป็นความจริงมั้ย เราควรวางด้วย และจะอวยพรให้ทุกคนตายตามลำดับ ไม่ต้องมาอวยพรให้ทุกคนอายุยืน ไม่ต้อง เธอไปคุมได้เหรอว่าต้องกินอย่างนี้นะ กินแคลเซียมแค่นี้นะแล้วจะไม่ตาย ตายแน่นอนแต่จะตายยังไงล่ะ ตามตามลำดับคือ วัยรุ่น วัยทำงาน แก่เป็นโรคตาย ไม่เป็นโรคก็ตายแน่นอน

บวชเป็นพระมาพักหนึ่งแล้วรู้สึกอย่างไร? "หลังจากบวชก็รู้สึกเฉยๆ เพราะพระได้เตรียมตัวมานานกว่า 2 ปีแล้ว ศึกษาธรรมปฏิบัติธรรมมาตลอด 2 ปี ครั้งแรกขอพ่อแม่บวชตอนอายุ 21 เขาไม่ให้บวช เพราะตอนนั้นเพิ่งได้ตำแหน่งยังสวยเด้งอยู่ ยังหาเงินได้อยู่นะเธอ (ยิ้ม) ปกติสวดมนต์ทุกวันตี 1 หรือตี 2 จะสลับกันนะ พอสวดมนต์ 6 โมงเช้าก็จะตื่นมาใส่บาตร ทำอย่างนี้ตลอดเรื่อยๆ คืนนั้นสวดมนต์ไปเจอบทที่ว่า เมื่อมีสิ่งนี้ สิ่งนี้ย่อมมี เพราะการเกิดขึ้นของสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อไม่มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงไม่มี เพราะการดับไปของสิ่งนี้ ส่ิงนี้จึงดับไป เกิดดับๆๆๆ ทุกอย่าง (เสียงดัง) นี้คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าบอก คิดแต่เรื่องนี้เรื่องเดียวเลย เกิดดับๆๆๆ ก็เลยโทรหาแม่ดีกว่า รู้เลยว่าโทรไปขอบวชคงไม่ได้บวชหรอก ลองโทรไปแม่ก็เสียงสั่นเครือเหมือนจะร้องไห้ เมื่อก่อนเราไปปฏิบัติธรรมในวัดที่โคราช ไปที 5 วัน 7วัน 15 วัน เขากลัวว่าเราไปแล้วจะไม่กลับมาทำงาน แม่บอกว่าใจเย็นๆ นะลูก เดี๋ยวขอคุยกับพ่อก่อน โทรกลับมาอีกบ่ายโมงบอกว่า พ่อกับแม่อนุโมทนา โอ้โหสุดๆ แล้วชีวิตนี้ พันธนาการที่มันผูกมาตั้งแต่เกิด ตั้งใจเรียนหนังสือ ไขว่คว้าไปเรียนที่ดีๆ ตั้งแต่เรียนหนังสือ ไปอยู่ในสังคมดี ได้ตำแหน่งทำงานหาเงินแล้วส่งเงินให้เขา พาให้เขาไปเที่ยวในที่ต่างๆ โน่น นั่น นี่ ที่เขาอยากไปพาไปหมด เพื่ออะไรเพื่อเขา พอเขาตายเสร็จ ฉันไม่ต้องอะไรอีกแล้ว

"พ่อกับแม่สองคนนี้ยิ่งใหญ่มาก นึกตามเลยนะ อาตมาอายุ 24 สามารถหาเงินได้เดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่าแสน อีก 20 ปีมีบ้านมีรถ พาเขาไปเที่ยวต่างประเทศได้เลย แต่เขายอมยกฉันให้เป็นลูกพระพุทธเจ้า ไม่ให้เป็นลูกตัวเองแล้ว ยกให้ฉันเป็นลูกพระพุทธเจ้าใช่มั้ย (ยิ้ม) เขาตัดขาดความเป็นพ่อแม่ลูกกัน พ่อแม่ต้องมากราบลูกตัวเอง แม่ไม่มีสิทธิ์กอดลูกตัวเองเลย พ่อจับมือได้แต่กอดไม่ได้ พ่อแม่เสียสละมาก โดยที่เขาไม่หวังอนาคตของเขาแล้วนะ หวังกับพี่ชายคนเดียวให้พี่ชายเลี้ยงดูไป ฉันขายของหมดทุกอย่างเลยนะ แล้วยกเงินหมดให้พ่อแม่ ฉันมีแค่ตัวเปล่าเดินเข้าวัดไป ฉันอยากจะบวชใจจะขาดอยู่แล้ว ไม่อยากอยู่ในโลกนี้ ฉันไม่ได้อกหักเขียนใหม่นะ ฉันไม่ได้ผิดหวังเรืื่องฐานะการเงินฉันล่มจม ไม่ใช่ หลายคนก็ตั้งคำถามอีกว่าที่ฉันบวช หรือว่าเพราะฉันไปพูดในรายการคนดังนั่งเคลียร์ แล้วมีคนมาด่า ตอนแรกๆ ก็เครียด แต่หลังๆ ฉันไม่ ยอมรับความจริงกันหน่อยซิ ว่าทำอะไรกันอยู่ยอมรับความจริงกันหน่อยซิว่าค้าประเวณีกันอยู่ ฉันพูดแค่นี้หลายคนเกลียดฉันแล้ว พระพุทธเจ้าบอกว่าค้าประเวณีไปนรก เปรต อสูรกายรอเธออยู่

"วันบวชก็บวช เงียบๆ มีสื่อหนึ่งเคยบุกเข้าไป ฉันขอบิณฑบาตความสงบแล้วเธอยังเอากันอยู่ ฉันขอตั้งสติแป๊บนะ ขอความสงบให้พ่อแม่ ฉันเพิ่งบวชได้วันเดียว ขอให้พ่อแม่ได้บุญค่อยมาถ่ายใหม่ค่อยมาสัมภาษณ์ใหม่ เขาให้ไม่ได้ฉัน ขอร้องแค่นี้ ฉันทุกข์นะตอนนั้น แต่ยังดีฉันมีธรรมะของพระพุทธเจ้า บอกตรงๆ ถ้าฉันไม่มีธรรมะของพระพุทธเจ้า ฉันก็ตกเป็นเหยื่อของพวกเธอแล้ว เพราะเธอก็เคยเหยี่ยวตัวหนึ่งที่ใครไปคาบเหยื่อตัวใหญ่ได้ก่อนเธอเยี่ยมมาก(ยิ้ม) ใช่มั้ย ไม่ใช่บอกว่าไม่ดี งานก็คืองาน เรามาตามเพราะนายสั่งมา นักข่าวคนนั้นนั่งคุยกันไปคุยกันมา ก็เทศน์ให้เขาฟัง ขอร้องนะก่อนคุยกันฉันจะพูดกับเขาด้วยสติ เธอจงฟังฉันอย่างมีสติ เธออย่ามาแค่หน้าที่ถ้าเธอไม่มีสติฉันจะไม่พูด เพราะจะไม่เกิดประโยชน์กับตัวเธอและผู้ที่ได้รับฟัง พอพูดไปเรื่อยๆ พูดธรรมของพระพุทธเจ้า เขากราบขอขมาฉันอ่ะ วันนั้นบวชได้วันแรก คราวบุญของฉัน พระผู้ใหญ่ให้ฉันขึ้นเทศน์เลย พอขึ้นไปเทศน์เขาเข้าไปบุกถ่ายเลย พ่อแม่เขาตายเขามาทำบังสุกุลกระดูกกำลังโศกเศร้ากัน บุกกันมาอย่างนี้ โอ้โห แม่เจ้า ฝากบอกทุกคนเลย ฝากตีแผ่เรื่องนี้ด้วยนะ อาตมาขอร้องเลย เรื่องมันเป็นอย่างนี้

"พ่อก็ถามตรงๆ นะ รู้สึกอยากกลับไปมั้ย เสียดายอะไรมั้ย หือ เสียดายอะไรอ่ะ ฉันก็มานั่งถามกับตัวเองนะ ก่อนจะขอแม่บวช วันนี้ฉันอายุ 24 หารายได้เดือนละแสนกว่านะ ส่งกลับบ้านได้ อีกสิบปียี่สิบปีข้างหน้า ฉันเป็นกะเทยแก่งั่ก หัวหงอก สิวขึ้น ฉันทำงานไม่ได้ ศักยภาพไม่ได้ แล้ววันนั้นฉันจะหาเงินได้เท่าเดิมมั้ย แล้วถ้าแก่อย่างนั้น ผู้ชายที่ไหนจะมาเอาฉัน ขนาดฉันยังเลือกคนหล่อเลยใช่มั้ย ทุกคนเลือกกันหมดเลย (ยิ้ม) ฉันอายุ 24 ฉันเทกระจายเลย ไม่เอาอะไรเลย มีอะไรขายหมดเลย ลองตัวเปล่าซิ สตาร์ตใหม่จากความไม่มี อยู่กับความไม่มี ตายกับความไม่มีนี่แหละ พระพุทธเจ้าเป็นกษัตริย์ยังทรงเทคว่ำทุกอย่างเลย ปราสาทสามฤดู นางสนองกว่าสองหมื่นคน แผ่นดินทั้งแผ่นดินเป็นของท่าน ลูกเมียก็มีแล้วเป็นถึงเจ้าแผ่นดิน แต่ไม่เอาอะไรเลย แล้วฉันเป็นใคร พ่อเป็นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แม่เป็นแม่บ้าน ตำแหน่ง (มิสทิฟฟานี่) เหรอ ก็สามปีที่แล้ว ลาภยศ สรรเสริญเหรอ พอฉันทำอะไรๆ โน่น นั่น นี่ ได้โอ๊ยสรรเสริญกัน แต่พอทำไม่ได้ก็ด่าฉัน

"พระพุทธเจ้า บอกว่า ต่อไปพุทธศาสนาภิกษุสงฆ์จะเกิดความแตกแยก บิณฑบาตจะหากินยาก จะหาความสงบในแผ่นดินนี้หายากมาก และที่สำคัญสงฆ์จะไม่เชื่อฟังพระพุทธเจ้าเลย ไม่เชื่อเลย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ท่องได้ปาวๆ ตั้งแต่ ป.1 แต่จะไม่เชื่อเลย ประเคนกันมาลูก เงินๆๆๆ ใส่ซองหนาหน่อย ขับรถเบนซ์มา หาที่จอดให้อย่างดีเลย โอ๊ย คุณหญิงคุณนายมา เช็ดบันไดอย่างดีเลยนะ หรือบางรูปพอนั่งสนทนากัน เห็นเศร้าสร้อยมีความทุกข์มาใช่มั้ย ก็ทำนายทายทักไปเป็นหมอดู บ้าเหรอ (เสียงดังมาก) พระมาเป็นหมอดู เดาถูกก็จ๊ะจ๋ากันไป เดาไม่ถูกก็โดนเตะ เขาเรียกว่าเดรัจฉานวิชานะ ไม่มีสิทธิ์ พระมีสิทธิ์อะไร สิทธิ์ที่สอนให้คนพ้นทุกข์ ไม่ใช่ไปหาทุกข์ให้มากกว่าเดิม พอทายเสร็จก็บอกว่า เอานะโยมหน้าวัดมีปล่อยปลา มีสังฆทาน หลอดไฟเจ็ดดวงแปดดวงซื้อตามอายุวันเกิด โดนเขาเอาไปกี่ล้านล่ะ เราโง่เองอ่ะอาตมาก็โง่ คนแปลว่ายุ่งแปลว่าโง่ เป็นมนุษย์เป็นให้ประเสริฐ กายสุจริต วาจาสุจริต มโนสุจริต สุจริตกันบ้างมั้ย ถ้าเธอสุจริตทั้งสามอย่าง เธอไม่ต้องถวายสังฆทาน ไม่ต้องรดน้ำมนต์เก้าวัด ไม่ต้องลอดอุโบสถ เวลาเธอทุกข์ปุ๊บ เธอไม่เคยโทษตัวเองแล้วมองตัวเอง ไม่เคยลำดับว่ามาจากไหน ทำไมตกงาน ทำไมสามีเลิก ทำไมอะไรยังไง ก็เลยหาที่พึ่งผิดๆ ไปหารุกขเทวดา ไปหาเจดีย์ สวนป่าศักดิ์สิทธิ์ ไปหาพระเชื่อว่าพระศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ฉัน เธอก็ไม่ต้องเชื่อว่าฉันศักดิ์สิทธิ์หรือว่าฉันดี ลับหลังเข้ากุฏิฉันอาจจะสะบัดจีวร i will survive ก็ได้นะ (ยิ้ม) ไม่ต้องเชื่อฉัน แต่ให้อยู่กับปัจจุบัน เราวัดกันที่ปัจจุบันเท่านั้น เราจะได้ไม่ต้องโดนหลอกนะ

อยากจะสึกเมื่อไหร่? "ตอนแรกไม่อยากจะสึกแล้ว อยากบวชจนตายเลยอ่ะ ตั้งแต่บวชโยมมาหาทุกวัน ท่านจะสึกมั้ยคะอยู่ต่อนะคะ อยู่ต่อให้ธรรมะต่อกับพวกเรานะเจ้าคะ อยู่เป็นลมหายใจให้พุทธศาสนากันต่อไปนะคะ พูดกันไปโน่น นั่น นี่ รำคาญ จะสึก ตั้งใจฟังใครที่ถามตั้งใจฟัง จะสึกก็ต่อเมื่อหนึ่ง วันที่ไม่มีพุทธศาสนา สองวันที่ธรรมะพึ่งไม่ได้แล้ว สามวันที่คนไม่เดินเข้าวัด สี่วันที่ฉันหมดศรัทธาในพระพุทธศานาแล้ว ห้าวันที่ศาสนาตายจากโลกนี้ไป เธอช่วยคิดหน่อยว่าศาสนากับฉันใครตายก่อน ทุกวันนี้ฉันภาวนาความตาย นอนในกุฏิขอให้ตีสามไม่ต้องตื่นแล้ว ทั้งวันอุตส่าห์ทำงานเหนื่อยนะ ศึกษาอ่านตำราเสร็จ ก็ทำงานจนเหนื่อยจนดำเลย ทำโน่น นั่น นี่ ให้เหนื่อยแล้วหลับให้สนิทไปเลย ตี 3 ตื่นขึ้นมาเซ็งสุดๆ ตื่นมาทำไมเนี่ย (ยิ้ม) ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไอ้สัตว์พวกนี้โอ้โห เธอไม่ผิดนะฉันผิดเอง ฉันต้องมองเห็นเธอไง ฉันต้องเห็นเธอนินทาด่าว่าฉันไง ฉันไปมองว่าเธอสวยเธอหล่อไงก็เกิดกิเลสตัณหากับฉัน ฉันไปลิ้มรสอะไรอร่อยก็ว่าดี ถ้าไม่อร่อยก็ด่าไง พอสัมผัสร้อนหนาวได้ที่ก็โอเค พอฝนตกด่าฟ้าด่าฝน พอร้อนด่าพระอาทิตย์ทำไมร้อนอย่างนี้ ฉันไม่อยากให้สร้างบ่วงทุกข์กับฉันเองไง อยากตัดตรงนั้นไงแต่ยังไม่ตายสักที ฉันเซ็งมากเลย ถ้าตายช่วยเขียนข่าวให้หน่อยนะ ฉันดีใจมากเลยฝากไว้ตรงนี้เลย ฉันเขียนหนังสือเอาไว้แล้ว ถ้าฉันตายอย่าเสียใจเพราะสมหวังปรารถนาแล้ว มันจะได้จบทุกอย่างไป ไม่ใช่ฉันท้อชีวิต ไม่ใช่ฉันมีปัญหาชีวิต ไม่ใช่พ่อแม่ไม่รัก ไม่ใช่ฉันอกหัก ไม่ใช่ (เน้นเสียง) ฉันเหนื่อยมากกับการตื่นมา เธอไม่เหนื่อยกันเหรอ ใครบอกไม่เหนื่อยยกมือขึ้นหน่อย ใครบอกไม่เหนื่อยขอสักคน"

ห่วงกังวลกับความสวยที่เคยมีมาก่อนหรือไม่? "เมื่อก่อนใช้ครีมเยอะแยะมากมายเลย พอไปอยู่วัดอาบน้ำบาดาลแพ้น้ำบาดาล สิวขึ้นเต็มหน้าเลย อ๊ะ ไม่สิวก็ฉันนี่แหละที่ตายก่อนกัน ตอนนี้ฉันไปนำโยมปฏิบัติอานาปานัสสติ เริ่มไปได้เดือนกว่าแล้ว โยมไม่เคยตำหนิเรื่องสิวฉันเลยสักคำหนึ่ง โยมถามแต่ธรรมะอย่างเดียว ตายแล้วไปไหน ทุกข์แล้วเป็นยังไง กรรมฉันอยู่ตรงไหนคะ รึว่าดิฉันต้องถวายสังฆทาน มันใช้ธรรมะอย่างเดียวเลย พอพูดถึงพระพุทธเจ้าจะเซ็งเลยใช่มั้ย (ยิ้ม) เมื่อก่อนฉันก็เซ็งเหมือนเธอนั่นแหละ พอพูดถึงนิพพานนึกค้านในหัวเลย เป็นไปไม่ได้พระพุทธเจ้าเข้าถึงยาก ให้ตายก่อนค่อยสวดกัน 7 วัน 9 วัน 100 วัน ใช้ผ้าบังสุกุลอย่างดีเลย ใช้มาลัยอย่างดีเลย ไม่จริงอ่ะ พระพุทธเจ้าให้อยู่กับปัจจุบัน

กลัวผลกระทบที่จะตามมาจากการมาเทศน์ในสถานที่อโคจรหรือไม่? "ดีๆ ตีแผ่เยอะๆ เพราะอะไรอ่ะ ผับแผ่นดินนี้ไม่ได้มีที่เดียว ผับโลกนี้ไม่ได้มีที่เดียว พวกทำงานพวกเที่ยวผับมีทุกคนใช่มั้ย แล้วจะทำงานที่ผับ จะเที่ยวในผับยังไงให้มีปัญญา ไม่ใช่เที่ยวโง่ๆ ก้มหน้าก้มตาทำงานแล้วเที่ยว เมามันส์กันแล้วก็ปิ๊งๆ เสพสุขกัน ถ้าห้ามความอยากตัณหาของเธอไม่ได้ อยากกินเหล้า อยากมีเซ็กซ์กับผู้หญิงกับผู้ชายคนนั้นคนนี้ไม่ได้ ถ้าห้ามไม่ได้เธอทำยังไง ต้องกลับมาที่สตินะ แล้วมาที่ละอายเกรงกลัวปุ๊บ เธอก็เริ่มทำน้อยลงๆ ใช่มั้ย ไม่ใช่พูดแบบนี้ให้ผับเจ๊งหมดไม่ใช่ หนีไม่ได้ พระพุทธเจ้าบอกว่าโลกมันเป็นอย่างนี้ แม้พระพุทธเจ้าไม่เกิดในโลกนี้ สิ่งเหล่านี้มันอยู่ของมันอยู่แล้ว ท่านมาเพื่อให้เธอเห็นว่าทำยังไงให้พ้นทุกข์ ไม่ใช่ให้เธอเผาผับไม่ใช่"

ตอนนี้ในสังคมไทยก็ยังมีพระตุ๊ดพระแต๋วอยู่จำนวนหนึ่ง ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร? "ตุ๊ดแต๋วไม่มีความทุกข์หรือคะ ทุกคนทุกข์หมด แล้วตุ๊ดไม่มีสิทธิ์บวชกันเหรอ ฉันบอกเลยถ้าเป็นตุ๊ดอย่าเพิ่งแปลงเพศลูก อย่าเพิ่งตัดอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าเธออยากแต่งหญิงทำแล้วมีความสุขทำเลย ทำให้เต็มที่ คนเราถ้ามันจะขึ้นสุดๆ ปล่อยมันไป อย่าไปห้ามนะ มันจะเป็นกะเทยปล่อยมัน เพราะยิ่งห้ามยิ่งขึ้นไง เหมือนอาตมาไงพอขึ้นไปสุดๆ แล้วมันจะวางได้ ไม่เอาแล้วพอแล้ว เขาไปบวชเพราะอะไร อยากบวชเพื่อเอาบุญให้พ่อแม่ อยากศึกษาธรรมะ เราไม่รู้หรอกว่าเขาทำจริงหรือไม่จริง เรื่องของเขา ธรรมะมีไว้เพื่ออะไร ธรรมะเหมือนลู่วิ่งโอลิมปิก วิ่งไปเรื่อยๆ ตั้งแต่กีฬาจังหวัด แล้วไปประเทศ อาเซียน โอลิมปิก ลู่วิ่งมันใหญ่ขึ้นๆ ตามธรรมะที่เธอรู้ ธรรมะวิ่งไปไหน ไม่ใช่เธอวิ่งถอยหลัง ไม่ใช่เธอวิ่งไปดูลู่เพื่อนไปดูหน้าเพื่อน ให้เธอวิ่งไปถึงเส้นชัยของเธอนั่นแหละธรรมะ กะเทยเหมือนกันไปบวชศึกษาธรรมะเพื่อให้เข้าถึง เมื่อไปถึงไปเจอธรรมะที่แท้จริงจากปากของพระพุทธเจ้า สอนอะไรพูดอะไรเธอเอามา อย่างถ้าพ่อติดเหล้าอยู่ เธอเอาธรรมะไปสอนไปบอก พูดซ้ำๆ สักวันจะเข้าใจเอง เรื่องธรรมะจะผู้หญิง กะเทย ผู้ชายได้หมด แต่เรามีเควสชั่นมาร์คกันเอง ห้ามกะเทยบวช ก็ตอนนี้เขาเลิกเป็นกะเทยแล้ว พระพุทธเจ้าท่านให้อยู่กับอะไร อยู่กับปัจจุบันมั้ย ถ้าเธอไปอยู่กับอดีตตายซิ อดีตๆๆๆๆ ฉันเธอผ่านผู้ชายมาแล้วกี่คนนั่นแหละ  อดีตของเธอเคยเป็นฆาตกรเธอจะไปจำทำไม ปัจจุบันตอนนี้ซิ ปัจจุบันดีเธอก็จะวางลู่ทางอนาคตของเธอดีใช่มั้ยๆ เธอเป็นลูกชาวนาปลูกข้าวได้ผักตบชวามากินเหรอ ก็ต้องได้ข้าวกิน เธอสูบบุหรี่ก็เป็นมะเร็งไง เพราะเธอทำอย่างนั้นก็จะได้อย่างนั้น"

เตรียมตั้งรับกับกระแสในด้านลบอย่างไร? "โจมตีอีก ขีปนาวุธมีมั้ย เอาขี้มาปาหน้ากันเลย มาซึ่งๆ หน้าเลย อย่าไปในเน็ตอย่ามือดีปากดีนักเลงคีย์บอร์ดในเน็ตหาตัวไม่ได้ ฉันจะได้เคลียร์ถูกตัวไง มาเลยซึ่งๆ หน้า (ยิ้ม) เราจะได้รู้ว่าเธอมีเจตนาต้องการอะไรในตัวฉัน ฉันมีอะไรจะให้เธอ อย่างงี้ง่ายกว่าอีก ไอ้โง่ที่นั่งคอมเมนต์ด่าโน่น นั่น นี่ เถียงกันเป็นร้อย ทะเลาะกันเป็นสิบเป็นพัน คนเขียนมีคนเดียว แผ่นดินถึงไม่เจริญไง ใครจะต่อต้านก็ต่อต้านไป บอกแล้วฉันแคร์ใคร พ่อแม่ พระพุทธเจ้า แผ่นดินฉันมีอยู่ ฉันแคร์ใคร แคร์ในหลวง ราชินี สิ แคร์พระนเรศวร พระเจ้าตากสิน ทุกๆ พระองค์เลย แคร์ท่านซิ แคร์ปัจจุบันด้วย แล้วแคร์ใครอีก แคร์พวกเธอ (สื่อมวลชน) ที่นั่งอยู่ตรงนี้ พวกเธอคือใคร พวกเธอคือกัลยาณมิตรของฉัน ทุกคนคือคนสำคัญ ใครบอกว่าไม่สำคัญบ้างยกมือขึ้น ฉันเคยด่าเคยว่าใครไว้ก็ต้องขอโทษด้วย ทำไมเธอสำคัญกับฉัน เพราะเธออยู่ตรงหน้าฉัน ในเวทีประกวด จำคำถามนี้เอาไว้เลย

บุคคลสำคัญที่สุดของคุณตอนนี้ (เน้นเสียง) คือใคร ก็ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี่แหละ ใช่มั้ย ถ้าเธอไม่สำคัญกับฉัน จะพูดกับเธอรู้เรื่องมั้ย ไม่งั้นก็จะกลายเป็นอากาศธาตุล่องลอยกันไป เพราะฉะนั้น พึงให้ความสำคัญกับคนซึ่งหน้าสันติสุขจะเกิด ซึ้งกันบ้างมั้ย (ยิ้ม)ไปหาอาตมาหน่อยนะ ฝากทำข่าวหน่อยนะ โจรที่วัดเลียบเยอะเลย โอ้โห มาทุกวันเลยอ่ะ ก่อนหน้านี้ไปแทงเจ้าอาวาสจะเอาเงิน พอฉันมาพระกะเทยมีเงิน โอ๊ย ฉันเขียนป้ายไว้หน้ากุฏิเลยนะ ในกุฏิมีตังค์ไม่เกิน 320 บาท ขอร้องนรกสวรรค์มีจริง อย่าทำร้ายภิกษุ เลิกปล้นเลิกจี้เลิกทำร้าย ถ้าอยากได้บอกฉันจะวางเงินไว้ให้ จบ เราจะได้ไม่เป็นบาปกันเลย ขอดีๆ ซิ ฉันให้ๆ ถ้ามีนะ แต่ส่วนมากหมด (ยิ้ม)" หลังจากเปิดใจกับสื่อมวลชนเสร็จ พระแจ๊สก็ได้บรรยายธรรมให้กับเหล่าพนักงานในจีสตาร์ พาวิลเลียน ฟังกัน ซึ่งพระแจ๊สเน้นพูดเรื่องกายใจ กุศลบุญก็จะเกิดขึ้นได้ และได้เน้นย้ำถึงเรื่องชักจูงใจพ่อแม่ให้มาสนใจในเรื่องธรรม บุุญกุศลนั้นก็จะได้ทั้งตัวเราและพ่อแม่ด้วย.