ญี่ปุ่นย้ำดาบสองหลังเลิกวีซ่า โปรโมตเมืองรองดึงไทยเที่ยว
 


ญี่ปุ่นย้ำดาบสองหลังเลิกวีซ่า โปรโมตเมืองรองดึงไทยเที่ยว


ญี่ปุ่นย้ำดาบสองหลังเลิกวีซ่า โปรโมตเมืองรองดึงไทยเที่ยว

"การท่องเที่ยวญี่ปุ่น" โหมโปรโมตการท่องเที่ยว หลังรัฐบาลประกาศยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยวคนไทย หวังกวาดนักท่องเที่ยวไทยเพิ่ม คาดทะลุ 5 แสนคน ภายในปี 2558 ชูจุดขายเที่ยวได้ทุกเมือง เผย "เกาหลี" โดนหางเลข เร่งปรับเกมรักษาตลาด

ไม่ เพียงเฉพาะการที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยว สำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปญี่ปุ่นได้ไม่เกิน 15 วัน ซึ่งคนในแวดวงต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นให้คนไทยที่นิยมไปเที่ยวญี่ปุ่นเป็นทุนเดิม อยู่แล้วให้ไปเที่ยวและจับจ่ายในญี่ปุ่นมากขึ้น

ขณะที่องค์การส่ง เสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (เจเอ็นทีโอ) ก็เปิดเกมรุกทำตลาดอย่างหนักหน่วง โดยได้พยายามหาจุดขายใหม่ ๆ ด้วยการผลักดันให้ทุกจังหวัดเป็นเมืองท่องเที่ยว

นายอิโต คะซุฮิโระ ผู้อำนวยการ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (เจเอ็นทีโอ) สำนักงานกรุงเทพฯ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวมาก โดยช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-พฤษภาคม) ซึ่งเป็นช่วงที่ยังไม่ได้มีนโยบายยกเว้นวีซ่า มีคนไทยไปเที่ยวมากถึง 1.8 แสนคน ขยายตัวถึง 52.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีปัจจัยเรื่องเงินเยนอ่อนค่า 20% เป็นตัวเร่งการเดินทาง หนุนให้ไทยเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คาดว่าสิ้นปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นน่าจะเกินเป้าที่ วางไว้ คือ 3 แสนคนแน่นอน

"หลังการยกเว้นวีซ่า คาดว่าตลาดคนไทยไปญี่ปุ่นจะเติบโตมากถึง 150% หรือทะลุ 5 แสนคนภายใน 3 ปีข้างหน้า และทำให้ไทยติด 5 อันดับแรกของตลาดต่างชาติที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นมากที่สุด จากปัจจุบันอยู่อันดับ 6 เป็นรองเกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน สหรัฐ และฮ่องกง ขณะเดียวกัน นโยบายการผ่อนปรนวีซ่าที่ประกาศออกมาก็จะช่วยผลักดันยอดนักท่องเที่ยวอา เซียนให้แตะตัวเลข 1 ล้านคนในปีนี้ และมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรวม 10 ล้านคน"

จาก นี้ไป เจเอ็นทีโอจะเร่งโปรโมตภาพลักษณ์ว่าญี่ปุ่นสามารถท่องเที่ยวได้ทุกเมือง ไม่ว่าไปเมืองไหน จะพบกับความประทับใจแตกต่างกันไป เพื่อไม่ให้นักท่องเที่ยวกระจุกตัวแค่ในโตเกียว โอซากา และซัปโปโรเท่านั้น โดยเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้จัดโรดโชว์โปรโมตสินค้าท่องเที่ยวของเกาะคิวชู ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องธรรมชาติ สามารถชมทุ่งดอกไม้หรือใบไม้เปลี่ยนสีได้เหมือนเมืองอื่น ๆ และมีบ่อน้ำพุร้อนหรือออนเซนมากที่สุดในญี่ปุ่น

ส่วนเดสติเนชั่นอื่น ๆ ที่กำลังโปรโมตอย่างหนักคือ เมืองเซนได ที่ศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาคโทโฮคุ (ตะวันออกเฉียงเหนือ) มีจุดขายเรื่องธรรมชาติสวยงาม เช่น แหล่งชมดอกซากุระบาน ที่สวยงามไม่แพ้เมืองอื่น, เมืองฮิโรชิมา เน้นขายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาทิ ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะ บนเกาะมิยาจิมา และอนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมา ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวฝั่งอเมริกาและยุโรปมากกว่าชาว เอเชีย

ขณะเดียวกันก็จะมีแคมเปญ "Cool Japan" ออกมา โดยเน้นขายคุณภาพของโปรดักต์ เพื่อดึงตลาดคุณภาพ ไม่สนับสนุนให้มีการดัมพ์ราคาทัวร์เพื่อการเติบโตของยอดนักท่องเที่ยว และเชื่อว่าคุณภาพของโปรดักต์ของญี่ปุ่นจะเพิ่มได้ทั้งกลุ่มเดินทางครั้งแรก และกลุ่มเดินทางซ้ำ โดยเฉพาะกลุ่มเดินทางซ้ำน่าจะเติบโตถึง 50%

"ถือ เป็นข่าวดีที่การบินไทยมีแผนเพิ่มเส้นทางบินใหม่ไปยังเซนไดและฮิโรชิมาใน เดือนตุลาคมนี้ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการไปหาแหล่งท่อง เที่ยวใหม่ ๆ เป็นอย่างดี"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามผู้ประกอบการทัวร์เอาต์บาวนด์ หลาย ๆ บริษัทพบว่ามีความเห็นตรงกันว่าการประกาศยกเว้นวีซ่าญี่ปุ่นจะทำให้ตลาดคน ไทยไปเกาหลีลดลงราว 20-30% เพราะ

พื้นฐานคนไทยชื่นชอบและอยากไป ประเทศญี่ปุ่นมากกว่า ทำให้หลาย ๆ บริษัททัวร์เข็นแพ็กเกจทัวร์ออกขายเป็นจำนวนมาก ส่วนยอดนักท่องเที่ยวไทยไปเกาหลีในช่วง 5 เดือนแรกที่ผ่านมา เติบโตเพียง 2.4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่มีตัวเลขประมาณ 1.81 แสนคน โดยได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเหนือ ทำให้เกาหลีใต้เสียโอกาสด้านการท่องเที่ยวอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก

ทั้ง นี้ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี คาดว่าปีนี้ทั้งปีจะมีคนไทยไปเกาหลีเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10-15% และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาได้เปิดตัวหนังโฆษณาชุดใหม่ ด้วยการดึงซูเปอร์สตาร์ "Psy" มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อเพิ่มฐานตลาดแมส

ด้าน นายธวัชชัย อรัญญิก รองผู้ว่าการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การทำการตลาดขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีมากขึ้น เพื่อดึงคนไทยไปเที่ยวนอกประเทศมากขึ้นดังกล่าว ทำให้ ททท.ต้องหาแผนปกป้องตลาดที่จะโดนแย่งส่วนแบ่งไป ด้วยการใช้แนวคิดหลงรักประเทศไทย ที่เปิดตัวแคมเปญมาตั้งแต่ต้นปี และเปิดแคมเปญใหม่ "ดรีม ทัวริสซึ่ม" เพื่อแนะนำแหล่งท่องเที่ยวใหม่ 10 จุดหมายที่ครั้งหนึ่งในชีวิตคนไทยต้องไปสัมผัสสักครั้ง โดยคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวคนไทย 136 ล้านคน/ครั้ง เพิ่มขึ้น 5.63% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และทำรายได้ถึง 7 แสนล้านบาท เติบโต 9%



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.