วันนี้ (8 ก.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตนได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ สร 466/2556 เรื่อง มอบอำนาจให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการสั่งและปฏิบัติราชการแทน โดยได้แบ่งงานให้กับ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เรียบร้อยซึ่งการแบ่งงานครั้งนี้มีส่วนคล้ายคลึงกับการแบ่งงานระหว่างนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และนายเสริมศักดิ์ ซึ่งสมัย นายพงศ์เทพ ได้แบ่งงานให้ นายเสริมศักดิ์ รับผิดชอบหลายหน่วยงานเพราะ นายพงศ์เทพ ดำรงตำแหน่งรองนายกฯควบ รมว.ศึกษาธิการ จึงมีภารกิจมากมาย แต่ตนเป็น รมว.ศึกษาธิการ เต็มเวลาและต้องการเน้นงานที่คิดว่ามีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องการการปฏิรูปหรือการผลักดันให้ทันกับความต้องการ เพราะฉะนั้น ตนจึงตัดสินใจที่จะดูแลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานปลัด ศธ. โดยมอบอำนาจให้ นายเสริมศักดิ์ ดูแล สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยมศัย (กศน.) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ รวมถึงการตอบกระทู้ชี้แจงญัตติ การเสนอและชี้แจงกฎหมายด้วย
“การแบ่งงานนี้เห็นว่าจะเป็นผลดี และคำนึงถึงการทำงานของรัฐมนตรีทั้ง 2 คนในภาพรวม ส่วนการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการทุจริตสอบครูผู้ช่วยนั้น ก็จะเร่งผลักให้การทำงานสืบสวนให้ได้ตามข้อเท็จจริงเพื่อรักษาผลประโยชน์ของทางราชการให้ดีที่สุด โดยผมไม่มีนโยบายลดราวาศอกแน่นอนทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง”นายจาตุรนต์ กล่าวและว่า ส่วนการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับผู้ที่กระทำการทุจริตการจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และการทุจริตจัดสอบครูผู้ช่วยของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ตนได้เร่งรัดไปยังผู้ที่ทำหน้าที่ในการสอบสวนทั้ง 2 กรณีดังกล่าวให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง เพื่อให้ทางราชการได้รับประโยชน์สูงสุด แต่ในเบื้องต้นนี้ยังไม่ได้เชิญผู้ที่รู้ปัญหามาหารือ อาจจะต้องนัดหารือหลังจากนี้อีกซักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าตนให้ความสำคัญกับเรื่องการทุจริต จะผลักดันให้มีการดำเนินการอย่างเต็มที่ไม่ให้มีการลดราวาศอกกับผู้ที่กระทำความผิดอย่างเด็ดขาด..
