ฟิลเทคพันธมิตรกลุ่มCLMV
 


ฟิลเทคพันธมิตรกลุ่มCLMV


ฟิลเทคพันธมิตรกลุ่มCLMV
mavikthumbnails/thumbnails/150x182-images-stories-article2013-2859-2201.jpg">ภ.ก.อนุวัตร เลิศพิทักษ์สุนทร     ภ.ก.อนุวัตร เลิศพิทักษ์สุนทร  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลเทค เอ็นเตอร์ไพรส์(1994) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้านความงาม เปิดเผยว่า จากแนวโน้มกลุ่มตลาดเครื่องมือแพทย์ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้ามาทำตลาดมากกว่า 30 ราย และมีมูลค่าประมาณ 8 พันล้านบาท โดยกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุดคือกลุ่มความงาม โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 50% และมีมูลค่าตลาดรวมทั้งสิ้น 2 พันล้านบาท จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทหันมาให้ความสำคัญกับการทำตลาดเครื่องมือแพทย์ในกลุ่มธุรกิจนี้มากยิ่งขึ้น โดยในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทมียอดขายเติบโตกว่าตลาดที่ 60% ในกลุ่มความงามและยังคงเป็นผู้นำเข้าที่มีส่วนแบ่งตลาดติด 1 ใน 3 อันดับแรก
                "ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นสุขภาพโดยองค์รวมคือการรักสวยรักงามมากยิ่งขึ้นกว่าในอดีต ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพ หน้าตา ส่งผลให้กลุ่มเครื่องมือแพทย์ และคลินิกเสริมความงามมีอัตราการเติบโตที่ต่อเนื่องในระยะยาว ประกอบกับไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น จึงหันมาสนใจสุขภาพตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการ หาทางชะลอวัย  ซึ่งปัจจุบันคลินิกความงาม มีการขึ้นทะเบียนกว่า 3 พันแห่งทั่วประเทศ โรงพยาบาลก็มีแผนกความงามขึ้นมารองรับผู้ป่วยโดยเฉพาะ จึงเชื่อว่าตลาดนี้โตแน่นอน"
                สำหรับบริษัทการทำตลาดนับจากนี้คือการให้ความสำคัญกับการขยายสู่ตลาดเครื่องมือแพทย์ในกลุ่มความงามเป็นหลักเช่น เครื่องเทอร์มาคูลหรือเครื่องมือที่ใช้ในการทำเทอร์มาจ เครื่องมือสำหรับแพทย์ผิวหนัง เป็นต้น รับกับพฤติกรรมผู้บริโภคอาเซียนที่มีแนวโน้มใส่ใจและดูแลเสริมความงามให้กับหน้าตาและบุคลิกภาพมากขึ้น
     เช่นเดียวกันกับตลาดในต่างประเทศบริษัทยังมีแผนที่จะขยายเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคอาเซียนโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนามอย่างจริงจัง หลังจากที่ผ่านมาพบว่ามีนักศึกษาในกลุ่มประเทศดังกล่าวเข้ามาเรียนแพทย์ในมหาวิทยาลัยของไทยจำนวนมาก เมื่อกลับไปนักศึกษาแพทย์ดังกล่าวก็ต้องการใช้อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ที่ไทยเป็นผู้ทำตลาดและจัดจำหน่าย
                ทั้งนี้เบื้องต้นในปีหน้าบริษัทได้เตรียมร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ชาวท้องถิ่นในประเทศเมียนมาร์ ในการจัดตั้งตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ต่อด้วยประเทศกัมพูชา ขณะที่เวียดนามนั้นมีตัวแทนจำหน่ายจากสิงคโปร์ไปทำตลาดอยู่แล้ว
                อย่างไรก็ตามมองว่าศักยภาพทางการแพทย์ของประเทศในกลุ่มเพื่อนบ้านในแถบอินโดจีนยังไม่ทัดเทียมประเทศไทย โดยเฉพาะในเรื่องของแพทย์เฉพาะทาง ส่งผลให้มีนักศึกษาในกลุ่มประเทศดังกล่าวเข้ามาเรียนแพทย์ที่ไทยเป็นจำนวนมาก นั่นเองจึงเป็นโอกาสที่สำคัญของบริษัทในการขยายตลาดเข้าสู่ประเทศต่างๆในภูมิภาค
                ด้านผลประกอบการในสิ้นปีนี้คาดว่าจะปิดรายได้ที่ 400 ล้านบาท เติบโตเกือบ 100% จากปีก่อนมียอดขาย 220 ล้านบาท มีสัดส่วนรายได้จากเครื่องมือสำหรับแพทย์ ผิวหนังและเวชสำอาง 25% เครื่องมือทางจักษุแพทย์ 20% และเครื่องมือกายภาพบำบัด 5% โดยปี 2557 บริษัทจะขยายไลน์สินค้าไปยังกลุ่มเครืองมือสัตวแพทย์และเครื่องมือช่วยชีวิตฉุกเฉิน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้ 600 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายรายได้ภายในปี 2558 บริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1 พันล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,859 วันที่  7  - 10   กรกฎาคม  พ.ศ. 2556

 

// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.