นายพิสิษฐ์ สุนทรีรัตน์ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หรือเรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เรกูเลเตอร์อยู่ระหว่างการหารือข้อมูลร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อกำหนดเกณฑ์

ร่วมกันถึงแนวทางการตัดไฟฟ้า ของบ้านเรือนประชาชน กรณีผิดชำระค่าไฟ หรือชำระช้ากว่ากำหนด ซึ่งจากเดิมกำหนดให้ระยะเวลา 10 วัน หลังจากออกบิลเรียกเก็บค่าไฟ หากไม่ชำระเงินต้องถูกตัดไฟทันที แต่จากการหารือเบื้องต้นอาจขยายเวลาออกไป 20-30 วัน หรืออาจคิดดอกเบี้ยเพิ่มเติมแทนการตัดไฟ ซึ่งคาดว่า จะได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์ชัดเจนภายในก.ค.นี้
         
 "แนวทางที่หารือคร่าว ๆ มีทั้งการยืดเวลาออกไป 20-30 วัน หรืออีกแนวทางอาจไม่ตัดไฟ แต่หากจ่ายช้ากว่ากำหนดต้องคิดดอกเบี้ยเพิ่ม"
          
นอกจากนี้ จะหารือถึงความเป็นไปได้กรณีที่การไฟฟ้าว่าจ้างบริษัทเอกชน เข้ามาดำเนินการแทน (เอาท์ซอร์ส) หรือไม่ว่าจะให้พนักงานบริษัทเอกชน ใช้วิธีเก็บเงิน แทนการทำหน้าที่ตัดไฟ ส่วนการตัดไฟ จากผู้มีรายได้น้อย ได้ขอให้พิจารณาการตัดสินใจอย่างเหมาะสมด้วย ซึ่งรายละเอียดทั้งหมด ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากการไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง มีปัญหาเรื่องการค้างจ่ายค่าไฟเฉลี่ยเดือนละกว่า 100,000 ราย โดยเฉพาะ กฟภ.ที่พบว่ามีหน่วยราชการเป็นจำนวนมากที่ค้างชำระ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 หน่วยงานด้วย เพราะไม่เช่นนั้นอาจมีผลต่อสภาพคล่องได้