mavikthumbnails/thumbnails/200x177-images-stories-article2013-2859-thakorn999.jpg">นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยในกรณีการกำหนดวันหมดอายุในบัตรเติมเงิน หรือ พรีเพด ว่า จากการหารือร่วมกับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่

ทั้ง ๓ บริษัท ได้แก่ บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด จนได้ข้อสรุปตรงกันว่าบัตรเติมเงินพรีเพดสามารถมีวันหมดอายุได้  ซึ่งล่าสุด ทางผู้ประกอบการได้ตอบรับเงื่อนไขตามที่กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้กำหนดไว้แล้ว  โดยผู้ประกอบการจะจัดให้ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในลักษณะที่เรียกเก็บค่าบริการเป็นการล่วงหน้า (prepaid) หรือแบบเติมเงินได้รับระยะเวลาใช้งานจำนวนไม่น้อยกว่า ๓๐ วัน ต่อการเติมเงินทุกมูลค่า รวมทั้งในการเติมเงินเข้าสู่ระบบทุกครั้ง บริษัทจะนับระยะเวลาการใช้งานที่ผู้ใช้บริการได้รับรวมกับระยะเวลาที่เหลืออยู่ รวมระยะเวลาสูงสุดในการสะสมวันใช้งานได้ ๓๖๕ วัน
           
ทั้งนี้  เรื่องบัตรเติมเงินพรีเพดที่เป็นปัญหาที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ยุคของคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กทช.) หลังจากที่ กทช. ออกประกาศข้อ 11 ( เรื่องมาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 ห้ามมิให้ผู้ประกอบการกำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องใช้บริการในระยะเวลาที่กำหนด หรือห้ามไม่ให้มีบัตรเติมเงินพรีเพดหมดอายุ) ที่ก็ยังไม่สามารถบังคับได้อย่างจริงจัง ส่งผลให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ และผู้ประกอบการก็โต้แย้งตลอดมาว่า การไม่ให้บัตรเติมเงินพรีเพดไม่มีวันหมดอายุเลย และไม่ระงับการให้บริการเลยนั้นจะส่งผลกระทบเกิดภาระค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และจะมีเลขหมายโทรศัพท์ตกค้างโดยที่ไม่มีการใช้งานอยู่ในระบบเป็นจำนวนมาก   ซึ่ง กสทช.ยืนยันการปฏิบัติตามเงื่อนไขเพื่อประโยชน์ผู้ใช้บริการ  ทั้งนี้หากผู้ใช้บริการรายใดไม่ได้รับความสะดวกในการใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถร้องเรียนมาได้ที่ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กสทช. โทร 1200 (ฟรีไม่เสียค่าบริการ)