จากกรณีพระราชธรรมโกศล(สวัสดิ์) เจ้าอาวาสวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาว่า จะขับหลวงปู่เณรคำออกจากสังกัดวัดหรือไม่ โดยมีการประชุมวันนี้( 6 ก.ค.)
ล่าสุด พระราชธรรมโกศล เปิดเผยว่า เบื้องต้นคณะกรรมการได้สอบประวัติความเป็นมาของหลวงปู่เณรคำ และได้ข้อสรุปว่า ได้บวช มีอุปัชฌาย์จริง เข้ามาขอสังกัดวัดใต้ฯจริง แต่ไปจำวัดที่สำนักสงฆ์ป่าขันติธรรมตั้งแต่ปี 2549 ส่วนเรื่องการขับออกจากวัด คณะกรรมการ เห็นว่าควรขับออกจากวัด เนื่องจากเห็นว่าไม่อยู่ที่วัดเป็นหลักแหล่ง เพราะพระเณรจะอยู่ที่วัดใดก็ตาม จะต้องบอกลาไปได้เพียง 7 วันถึง 1 เดือน เว้นแต่เจ็บป่วย ขณะที่หลวงปู่เณรคำไปตลอด โดยไม่ได้อยู่ในโอวาทและขาดการติดต่อ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดนี้ ยังไม่มีอำนาจตัดสินใจ โดยจะส่งผลสรุปมาให้ คณะกรรมการชุดใหญ่ที่ตนเป็นประธานได้พิจารณาอีกครั้ง ซึ่งในเบื้องต้นก็อาจจะยืนยันตามความเห็นของคณะกรรมการแต่ก็จะดูว่า หากขับควรจะขับออกวันไหนภายในกี่วัน โดยคาดว่า จะดำเนินการเสร็จและประกาศได้ไม่เกินวันที่ 9 ก.ค.นี้
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า ตนได้รับทราบในเบื้องต้นเกี่ยวกับผลการพิจารณาของคณะกรรมการที่ พระราชธรรมโกศล(สวัสดิ์) เจ้าอาวาสวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีตั้งขึ้น เกี่ยวกับการขับหลวงปู่เณรคำออกจากสังกัดวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อแล้ว ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า ให้ขับหลวงปู่เณรคำออกจากสังกัดวัดใต้พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ โดยคณะกรรมการกำลังสรุปผล เพื่อส่งให้คณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีพระราชธรรมโกศล เจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี พิจารณาอีกครั้งว่า จะกำหนดระยะเวลาให้ขับออกจากวัดภายในวันใด ซึ่งในส่วนของพศ.เห็นว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม หากคณะกรรมการพิจารณาว่า ควรขับหลวงปู่เณรคำออกจากสังกัดวัด เนื่องจากทุกฝ่ายได้ให้โอกาสหลวงปู่เณรคำเข้ามาชี้แจงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ยอมมาให้ข้อมูล จากนี้ไปก็เป็นกระบวนการของเจ้าคณะปกครอง และกระบวนการทางกฎหมายบ้านเมือง