ผอ.รพ.ค่ายสุรนารี เผยสถานการณ์ไข้เลือดออกระบาดหนัก หลังพบกำลังพลป่วยเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า จาก 12 รายเพิ่มเป็น 38 ราย ขณะที่ทั้งโคราชมีผู้ป่วยแล้วกว่า 1,300 ราย เสียชีวิตแล้ว 1 ราย…
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.56 ที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลตรีพศิน บัวแสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ไข้เลือดออกที่กำลังมีการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้วทั้งสิ้นกว่า 1,350 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 51.70 ต่อประชากรแสนคน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย อยู่ในพื้นที่อำเภอปากช่อง เช่นเดียวกันกับในพื้นที่ค่ายสุรนารี และในพื้นที่ค่ายสุรธรรพิทักษ์ เริ่มมีการระบาดของไข้เลือดออกหลังจากที่มีเจ้าหน้าที่ทหารและสมาชิกภายในครอบครัวของแต่ละหน่วยได้เข้ามารักษาอาการไข้เลือดออกเพิ่มมากขึ้น จากช่วงเดียวของปีที่แล้วสูงถึง 5 เปอร์เซ็นต์ จากเดิมมีผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออกเพียง 12 ราย แต่ในปัจจุบันมีผู้ป่วยที่เข้ามารักษาไข้เลือดออกทั้งสิ้น 38 ราย หรือสูงกว่า 3 เท่าตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอายุตั้งแต่ 12 ปี ไปจนถึงอายุ 40 ปี
"หลังจากที่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมามีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องจนส่งผลให้ในหลายพื้นที่มีน้ำท่วมขัง ซึ่งเหมาะแก่การเพาะพันธุ์ของยุงลาย อีกทั้งไข้เลือดออกได้มีการกลายพันธุ์ ซึ่งจากเดิมจะมีผู้ที่ป่วยเป็นไข้เลือดออกจะเป็นเด็กอายุที่ต่ำกว่า 15 ปี แต่ปัจจุบันผู้ใหญ่ก็ป่วยเป็นไข้เลือดออกกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้เลือดออกและสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออก จึงอยากให้ประชาชนสังเกตแหล่งที่มีน้ำขังให้มีการนำทรายอะเบทเทใส่ หรือหากเห็นภาชนะที่มีน้ำท่วมขังก็ควรที่จะคว่ำภาชนะเทน้ำนั้นทิ้ง เพื่อตัดวงจรการเพาะพันธุ์ของยุงลาย อีกทั้งทางโรงพยาบาลค่ายสุรนารีได้จัดเจ้าหน้าที่แพทย์ออกตรวจร่างกายให้ชาวบ้าน และเฝ้าระวังโรคไข้เลือดออกอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปฉีดพ่นควันกำจัดยุงลายพร้อมกับแจกทราย อะเบทให้กับชาวบ้าน และสำหรับผู้ป่วยที่มานอนรักษาไข้เลือดออกที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารีมีอาการที่ดีขึ้น แพทย์สามารถให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ ทางโรงพยาบาลได้แจกชุดป้องกันไข้เลือดออก เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์แก่บ้านใกล้เรือนเคียงให้มีการป้องกันไข้เลือดออกระบาดในชุมชน" ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสุรนารี กล่าว
พล.ต.พศิน กล่าวอีกว่า สำหรับการดูแลผู้ป่วยที่สงสัยเป็นโรคไข้เลือดออก หากบุตรหลานของท่านที่มีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคไข้เลือดออก คือไข้สูง ปวดศีรษะ เหนื่อยเพลีย อาเจียน ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้ 1.โปรดนำผู้ป่วยมาตรวจที่ รพ.หรือสถานีอนามัยใกล้บ้าน 2.การลดไข้ แนะนำให้เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา ถ้าไข้ยังไม่ลดให้รับประทานยาลดไข้พาราเซตามอลได้ทุก 4-6 ชั่วโมง ห้ามใช้ยาลดไข้ชนิดอื่น ประกอบด้วย แอสไพริน, ยาแก้ไข้หัวสิงห์ไวคูลเด็ก, ยาแก้ไข้เด็กตรางู (ตราสามธง) เพราะจะทำให้เลือดออกไม่หยุด ให้ใช้ยาลดไข้พาราเซตามอลเท่านั้น 3.อาหาร ควรให้ผู้ป่วยได้รับอาหารอ่อน ย่อยง่าย อาทิ ข้าวต้ม โจ๊ก ดื่มนม หรือน้ำผลไม้ น้ำเกลือแร่ แทนน้ำเปล่า 4.เฝ้าระวังอาการภาวะซ็อกอย่างใกล้ชิต หากพบอาการต่อไปนี้ ให้รีบนำส่งโรงพยาบาล หรือสถานีอนามัยใกล้บ้านโดยทันที พลตรีพศิน กล่าว
