เพราะมีขนขาวตลอดทั้งตัวเหมือนแม่ชีห่มขาว ไก่พันธุ์นี้จึงมีชื่อเรียกว่า...ไก่ชี
แม้จะมีขนขาวเหมือนไก่พันธุ์เนื้อ แต่ไก่ชีไม่ใช่ไก่เนื้อพันธุ์นำเข้ามาจากต่างประเทศ...เป็นไก่พันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมของท้องถิ่นอีสานบ้านเฮา ที่คนรุ่นหลังไม่ค่อยรู้จัก แต่ได้ฉีกกินเมื่อไรไม่รู้ลืม
“เป็นไก่พื้นเมืองสายพันธุ์ไทยแท้ ที่กรมปศุสัตว์ด้วยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้นำมาคัดปรับปรุงพันธุ์ ที่ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ท่าพระ จ.ขอนแก่น เพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์ไก่ไทย มาเมื่อปี 2545 จนได้สายพันธุ์ไก่ชีแท้ ตรงตามลักษณะประจำพันธุ์ จำแนกสายพันธุ์ได้เช่นเดียวกับไก่พันธุ์แท้ทั่วโลก ไทยสามารถแสดงความเป็นเจ้าของพันธุ์ได้ และมีศักยภาพสูงกว่าไก่พื้นเมืองทั่วไป
สีดำติดที่ผิวหนัง แข้งมีสีเหลืองจึงเป็นที่ยอมรับของตลาดต่างๆ เนื้อแน่นนุ่ม ไม่เหนียวเหมือนไก่บ้าน และไม่นุ่มเกินไปเหมือนไก่พันธุ์เนื้อ โปรตีนสูงแต่ไขมันและคอเลสเทอรอลต่ำ”
นายเฉลิมพล บุญเจือ ผอ.ศูนย์พัฒนาปศุสัตว์ตามพระราชดำริ อ.ด่านซ้าย จ.เลย พูดถึงลักษณะเด่นของไก่ชี และหลังปรับปรุงพันธุ์จนได้ไก่ชีพันธุ์แท้ ปี 2552 จึงได้ทำการเพาะพันธุ์ส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงในพื้นที่ จ.มหาสารคาม และ จ.เลย... ปรากฏว่าไก่ชีที่นำมาเลี้ยงที่ จ.เลย ได้ผลดีกว่ามหาสารคาม
นางกาจนา ตัวสะเกต หัวหน้ากลุ่มเกษตรกรเลี้ยงไก่ชีท่าพระ บ.นาเจียง ต.โคกงาม อ.ด่านซ้าย บอกว่า ทุกวันนี้เลี้ยงไก่ชีไว้ 3 เล้า เล้าละ 150 ตัว เฉพาะเลี้ยงไว้ขายพันธุ์ เลี้ยงตั้งแต่เล็ก 7-8 เดือน ลูกไก่ฟักออกมา 7 วัน ขายลูกได้แล้วตัวละ 20 บาท จากนั้นจะได้ลูกไก่ไว้ขายทุก 4 เดือน รายได้เฉลี่ยตกเดือนละ 4,000-6,000 บาท
แต่ถ้าเลี้ยงขายเป็นไก่ชำแหละต้องเลี้ยง 4 เดือน ไก่จะมีน้ำหนักประมาณ 1.2 กก.ขายได้ กก.ละ 180 บาท จะมีรายได้เพิ่มจากส่วนนี้อีกประมาณเดือนละ 2,500 บาท เพียงแค่นี้ก็พออยู่ได้อย่างยั่งยืนแล้ว
สำหรับเกษตรกรที่สนใจจะเลี้ยงไก่ชี เพราะเลี้ยงง่ายไม่ต้องซื้อหัวอาหาร ติดต่อได้ที่ศูนย์พัฒนาปศุสัตว์ตามพระราชดำริ อ.ด่านซ้าย 0-4207-8199 และ 08-9861-8843 หรือศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ท่าพระ จ.ขอนแก่น 0-4326-1194.
บุศย์ สิริปัญญาพร
