ไปกินปลาดิบของแท้ ที่ "ตลาดปลา" โตเกียว
 


ไปกินปลาดิบของแท้ ที่ "ตลาดปลา" โตเกียว


ไปกินปลาดิบของแท้ ที่

“พระอุโบสถวัดสึคิจิ ใกล้ตลาดปลาสึคิจิ โตเกียว”

หัวหน้าทีมซอกแซกเขียนเกริ่นเอาไว้เมื่อ 2-3 วันก่อนว่า มีโอกาสหลบฝนเมืองไทยไปสูดอากาศเย็นๆสบายๆไม่ร้อนเกินไปและไม่หนาวเกินไปที่ญี่ปุ่นมาสี่ซ้าห้าวัน

โดยไปกันเป็นครอบครัวแบบประหยัด ซื้อตั๋วเรือบินราคาถูก นอนโรงแรมถูกๆ เที่ยวกันเอง หาอาหารรับประทานกันเอง ไม่ต้องพึ่งพาบริษัททัวร์ที่ไหน...อาศัย “อากู๋สารพัดรู้” หรือ “กูเกิ้ล” เป็นเข็มทิศและแผนที่นำทาง ได้รสชาติและความระทึกใจ ตลอดจนความประทับใจกลับมาไม่น้อยเลย

อย่างที่ทราบกันแล้ว ช่วงนี้ค่าเงินบาทแข็ง ค่าเงินเยนอ่อน คนไทยจึงไปเที่ยวญี่ปุ่นกันมาก...

ไปไหนมาไหนได้ยินเสียงคนไทยพูดจากันแซดแบบต่างสำเนียงกันซะด้วย แสดงว่ามาจากหลายภูมิภาคของประเทศไทยเลยเชียวแหละ

ส่วนใหญ่ไปกับบริษัททัวร์ครับ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าสนนราคาไม่แพงเท่าไรนัก คนไทยที่มีรายได้ปานกลางพอจะกัดฟันซื้อทัวร์ไปเที่ยวได้ แต่ก็มีไม่น้อยเลยที่ไปกันเองแบบเพื่อนๆฝูงๆรวมตัวกัน หรือแบบครอบครัวกลุ่มเล็กๆ อย่างเช่นกลุ่มของหัวหน้า ทีมซอกแซก เป็นต้น ซึ่งจะประหยัดกว่าเล็กน้อยและมีเวลาเที่ยวซอกแซกได้มากกว่ากัน

ครอบครัวที่มีลูกหลานเป็นหนุ่มๆสาวๆยุคนี้แทบไม่ต้องพึ่งบริษัททัวร์เลยครับ เพราะคนรุ่นใหม่เขาเก่งมาก ใช้อินเตอร์เน็ตกับไอแพด ไอโฟน หาข้อมูลล่วงหน้า พาคนแก่ๆอย่างพวกเราเดินทะลุโน่นทะลุนี่อย่างคล่องแคล่วเหมือนกับเคยมาแล้วสัก 5-6 ครั้ง

อย่างจุดแรกที่จะเขียนถึงวันนี้ อันได้แก่ “ตลาดปลาโตเกียว” หรือ “ตลาดสึคิจิ” ที่เขา จะขนปลาและอาหารทะเลสดต่างๆมาขายผ่านตลาดนี้ถึงวันละกว่า 2 พันตัน มีการซื้อ การขาย การประมูลกันอย่างครึกครื้นและสับสนวุ่นวายนั้น แม้หัวหน้าทีมจะเคยไปมาแล้ว 3-4 ครั้ง ยังไป ไม่ค่อยถูก นึกไม่ออกว่าลงรถใต้ดินแล้วจะไปโผล่ที่ไหน

แต่ลูกๆเขาทำการบ้านมาเรียบร้อย เดินนำ คนแก่ไปลงรถใต้ดินที่ชินจูกุ ไปโผล่ที่สถานีสึคิจิ เดินอีกนิดเดียวก็ถึงตลาดปลาอันโด่งดัง

ความจริงตลาดปลาสึคิจิไม่ใช่จุดแรกตามโปรแกรมตะลุยญี่ปุ่นในครั้งนี้ แต่ที่หยิบมาเขียนก่อน เพราะในกระบวนอาหารญี่ปุ่น หัวหน้าทีมซอกแซกชอบรับประทานปลาดิบมากที่สุด เมื่อได้มีโอกาสรับประทานอีกครั้งอย่างสมใจนึก ใน ตลาดปลาดิบที่ได้ชื่อว่าสดที่สุดของญี่ปุ่น จึงต้องขออนุญาตนำมาบอกกล่าวเป็นประเดิมก่อนจะรายงานถึงเรื่องอื่นๆในสัปดาห์ต่อไป

เมื่อไม่นานมานี้ อ่านเจอข่าวว่าทางมหานครโตเกียวอาจจะย้ายตลาดปลาสึคิจิไปอยู่ในเขตโคโยสุ ใกล้กับย่านโอไดบะ ซึ่งเป็นที่ดินถมใหม่บริเวณปากอ่าวโตเกียว และน่าจะอยู่ใกล้ทะเลมากกว่า

ในข่าวระบุด้วยซํ้าไปว่า อาจจะมีการย้ายภายในสิ้นปี 2013 หรือปีนี้เป็นอย่างช้า

ซึ่งก็คงจะเป็นเพราะข่าวนี้แหละครับ ทำให้ผู้คนไปเยี่ยมเยียนตลาดปลาแน่น ขนัดกว่าครั้งก่อนๆที่หัวหน้าทีมซอกแซกเคยแวะไปเยือน

กว่าค่อนเป็นคนญี่ปุ่นเอง โดยเฉพาะนัก ท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มาจากจังหวัดอื่นๆจะมุ่งหน้าไป ที่ตลาดปลา เข้าใจว่าเพื่อไปซึมซับบรรยากาศแท้ๆ ของตลาดปลาแห่งนี้ก่อนจะมีการโยกย้าย

ปกติพอใกล้ๆเที่ยง หรือหลังเที่ยงเล็กน้อย ตลาดจะเริ่มวายและผู้คนก็น้อยลง

แต่คราวนี้จะบ่าย 2 โมงอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นยังแน่นมาก และร้านขายอาหาร รวมทั้งซูชิ หรือปลาดิบซึ่งมีอยู่รอบๆกว่า 10 ร้านก็พลอยแน่นครืดไปด้วยลูกค้าที่ประสงค์จะไปลิ้มลองปลาดิบของสดของแท้ที่นี่

ที่ไหนก็ตามที่คนแน่น ที่นั่นย่อมจะสนุกสนาน และครึกครื้นกว่าสถานที่หงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวปราศจากผู้คน ซึ่งตลาดปลาสึคิจิเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วก็อยู่ในสภาพเช่นว่านี้ คือยิ่งเดินยิ่งสนุก และ เมื่อแวะไปกินอาหารก็ยิ่งอร่อยเพราะแย่งกันซื้อแย่งกันรับประทาน

รวมทั้งที่ร้าน “ซูชิซันไม” ที่ถือกำเนิดจาก ตลาดแห่งนี้ และทุกวันนี้แม้จะสร้างร้านไว้ถึง 5-6 ร้าน ดักอยู่ทุกมุมตลาด ก็ยังแน่นเอี้ยดอย่างชนิดต้องยืนรอคิวแถวยาว

แต่เมื่อได้รับประทานแล้วก็คุ้มแก่การรอคอย เพราะนอกจากจะอร่อยเพราะสดมากแล้ว ก็ยังถูกอย่างไม่น่าเชื่อ กลุ่มของเรา 5 คนรับประทานจนจานเล็กที่เขาใส่ปลาหมุนมาให้เราหยิบต่อหน้าวางกองพะเนินเทินทึก แต่คิดเป็นเงินแค่ 9,000 เยนเศษๆ คิดเป็นเงินไทยแค่ 3,000 บาทโดยประมาณ

ต้องถือว่าราคาถูกพอสมควรครับ เพราะถ้ารับประทานในจำนวนนี้ในร้านญี่ปุ่นบ้านเราน่าจะไม่ตํ่ากว่า 5,000 บาทแน่ๆ

รับประทานเสร็จโชคดีไปเจอพ่อค้าในตลาดสดที่พูดภาษาอังกฤษได้ ก็เลยถามเขาว่าจะย้ายไปจากที่นี่ในปลายปีนี้จริงๆหรือ

เขาตอบว่าคงไม่หรอก เพราะมีข่าวมาตั้งนานแล้ว ก็ยังไม่เห็นไปไหนสักที...ในความเห็น ของเขาน่าจะอยู่ที่นี่ไปอีกนานแสนนาน

บริษัททัวร์บ้านเราโปรดรับทราบไว้ด้วย และน่าจะหาโอกาสพาลูกทัวร์ไปเที่ยวบ้าง เพราะจะได้สัมผัสทั้งวัฒนธรม ประเพณีขนานแท้และ ดั้งเดิมเกี่ยวกับอาหารการกินของเขา แถมด้วยการ รับประทานอาหารอร่อยๆราคาสมเหตุสมผลอีกด้วย

ขากลับเดินออกมาหน่อยเดียวก็จะเจอวัด “สึคิจิ ฮองกันจิ” เป็นวัดพุทธขนานแท้ อายุกว่า 400 ปี ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปปางยืนบนดอกบัวประดิษฐานอยู่ บรรยากาศขลังมาก มีเก้าอี้ให้นั่งฟังเสียงสวดมนต์แบบสบายๆเหมือนไปฟังตามโบสถ์ฝรั่งอย่างไรอย่างนั้น

อันที่จริงการไปรับประทานปลาดิบก็มิใช่การทำบาปอะไรหรอก เพราะศาสนาพุทธของเราสอนว่า สัตว์ที่เป็นอาหารนั้น หากเราฆ่ามันแล้วก็นำมารับประทานเพื่อการมีชีวิตอยู่ ถือว่าอนุโลมได้ ดังนั้น การที่เราไปอุดหนุนปลาดิบ ทำให้พ่อค้าปลาญี่ปุ่นต้องเชือดปลามาทำปลาดิบเป็นอาหารให้เราคงไม่ถือว่าเราไปมีส่วนในการสนับสนุนให้เกิดการทำบาปด้วยการฆ่าปลาหรืออะไรทำนองนั้นหรอก

แต่เพื่อความสบายใจ เมื่อกินปลาดิบ เสร็จสรรพจะแวะไปสวดมนต์ ทำบุญที่วัดนี้เมื่อกลับออกจากตลาดปลาโตเกียวเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่เสียเวลาเท่าไรหรอกครับ เพราะยังไงๆก็ต้องเดินผ่านวัดอยู่แล้วก่อนจะไปลงรถไฟใต้ดิน.


“ซูม”

 



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.