หนึ่งในปัญหาหนักใจของคุณแม่หลังคลอดบุตร คือน้ำหนักที่เพิ่มเป็นทวีคูณจากการบำรุงครรภ์ให้สมบูรณ์แบบไม่ยั้งมือ เพราะส่วนใหญ่จะเชื่อว่าน้ำหนักหลังคลอดจะลดลงเองตามธรรมชาติ แต่คุณแม่ที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์เกินร้อยละ 25 ของน้ำหนักปกติ ต้องพึงระวัง!!
พญ.ลักขณา ถาวโรจน์ จากสลิม อัพ เซ็นเตอร์ มีคำแนะนำดีๆมาฝาก ปกติหลังคลอดน้ำหนักของคุณแม่จะลดลงทันที 5-6 กิโลกรัม และลดลงอีก 3-5 กิโลกรัมในสัปดาห์แรก ส่วนใหญ่แล้วใน 3 เดือนหลังจากคลอดบุตร น้ำหนักตัวของแม่จะกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนตั้งครรภ์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เช่น อายุ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วย จึงเป็นเรื่องดีที่ระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่จะออกกำลังกายเบาๆ ควบคู่ไปกับการบำรุงครรภ์ เพื่อให้สุขภาพตัวเองและลูกน้อยแข็งแรง อารมณ์ดี ท้องไม่ผูก ไม่ปวดหลัง เส้นเลือดไม่ขอด แถมยังช่วยลดปัญหาน้ำหนักเกินหลังคลอดได้อีกด้วย
ทั้งนี้ กูรูด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา แนะว่า การออกกำลังกายของผู้หญิงตั้งครรภ์ ควรปฏิบัติตามคำอธิบายและต้องระมัดระวังกว่าที่เคย เพื่อให้เกิดอันตรายแก่ครรภ์น้อยที่สุด การออกกำลังกายแต่ละครั้งไม่ควรให้เหนื่อยมากเกินไป อย่าออกกำลังจนหายใจหอบ และหลังจากตั้งครรภ์เกิน 4 เดือนไปแล้วไม่ควรออกกำลังกายท่านอน หรือยืนออกกำลังกายนานเกินไปด้วย เพราะมดลูกจะกดเส้นเลือดทำให้เลือดไปเลี้ยงมดลูกน้อยลง ที่สำคัญควรวอร์มอัพก่อนออกกำลังกาย และคูลดาวน์หลังออกกำลังกาย และไม่ใช่แค่ออก กำลังกายก่อนคลอด ควรได้ยืดเส้น ยืดสายหลังคลอดด้วย จะช่วยให้หุ่นของคุณแม่เฟิร์มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 6 หลังคลอด แต่กรณีผ่าคลอดอาจต้องรอถึง 3 เดือน หรือจะพึ่งเทคโนโลยีใหม่ๆที่ให้ผลดีไม่แพ้การออกกำลังกายก็ได้
พญ.ลักขณาบอกด้วยว่า ปัญหาด้านสรีระอันดับแรกๆของผู้คลอดบุตร คืออาการคั่งบวมน้ำที่สะสมมาตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ ไขมันส่วนเกินและผิวหย่อนคล้อย ถ้าคุณแม่ไม่สามารถจัดการปัญหาได้ด้วยการออกกำลังกาย ก็สามารถพึ่งเทคโนโลยีความงามที่ช่วยกระชับหุ่นอย่างปลอดภัย เช่น เอฟไออาร์ อินฟราเรด เป็นการทำงานร่วมกับละอองไอน้ำเธอราพี ช่วยรีดน้ำที่แทรกอยู่ตามชั้นกล้ามเนื้อ และขับสารพิษ พร้อมด้วยเทคโนโลยีสลายไขมันอีกมากมาย ทั้งอัลตราซาวนด์คลื่นวิทยุ เลเซอร์ต่างๆ เพื่อย่อยเซลล์ไขมันให้แตกตัวเป็นอนุภาคที่เล็กมาก สะดวกในการย่อยสลายออกจากร่างกาย แต่ก่อนเลือกใช้เทคโนโลยีเสริมความงามใดๆหลังคลอด ควรอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ.
