"พงศ์เทพ"ชี้แนวคิดยุบ ร.ร.เป็นโครงการปกติ ดำเนินการมาแล้วกว่า 20 ปี
 


"พงศ์เทพ"ชี้แนวคิดยุบ ร.ร.เป็นโครงการปกติ ดำเนินการมาแล้วกว่า 20 ปี



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ที่โรงเรียนบ้านเหล็ก สพป.ศรีสะเกษ เขต 3 อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีรับมอบและเปิดป้ายอาคารแหล่งเรียนรู้ปฐมวัย โรงเรียนบ้านเหล็ก โดยมีข้าราชการ พ่อค้าและประชาชนร่วมกันบริจาคเงินก่อสร้าง เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 6 ห้องเรียน โดยมีนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับ

 
ในโอกาสนี้ นายพงศ์เทพ พร้อมด้วยนางสุนีย์ อินฉัตร อดีต ส.ว.ศรีสะเกษและนางมาลินี อินฉัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้มอบเงินสมทบทุนในการก่อสร้างอาคารแหล่งเรียนรู้ปฐมวัยโรงเรียนบ้านเหล็ก จำนวน 200,000  บาท อีกด้วย

 
นายพงศ์เทพกล่าวว่า การรวมโรงเรียน หรือการยุบโรงเรียนขนาดเล็กนั้น เป็นนโยบายที่มีการดำเนินการมานานกว่า 20 ปีแล้ว ไม่ใช่เป็นนโยบายใหม่แต่อย่างใด ดังนั้น จึงได้สั่งการไปยังผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกจังหวัด ให้ตรวจสอบคุณภาพของโรงเรียนในสังกัด ที่มีนักเรียนไม่ถึง 60 คน และหลังจากที่ได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า มีโรงเรียนเป็นจำนวนมาก ที่มีจำนวนนักเรียนไม่ถึง 20 คน ซึ่งไม่ได้หมายความว่า การที่โรงเรียนมีจำนวนนักเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ จะถูกยุบ หากแต่ว่า ศักยภาพในด้านการศึกษายังมีประสิทธิภาพที่ดี  มีการเรียนการสอนที่มีมาตรฐานและเด็กสามารถเรียนรู้จากการศึกษาภายในโรงเรียนได้อย่างเต็มที่ โรงเรียนก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องให้การส่งเสริม และสามารถทำการเรียนการสอนต่อได้ แต่หากโรงเรียนในชนบทที่มีจำนวนนักเรียนน้อยและประสบปัญหาในเรื่องการเรียนการสอน อาจมีการยุบโรงเรียน เพื่อนำไปเรียนร่วมกับโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่ก็ไม่ไกลจากที่อยู่อาศัยของนักเรียนมากนัก ซึ่งทางรัฐบาลจะได้มีการจัดเตรียมรถรับ-ส่งนักเรียนไว้ให้บริการฟรี ซึ่งถือว่า เป็นการผ่อนเบาภาระของผู้ปกครองและเป็นการสร้างฐานความรู้ที่ดีขึ้นสำหรับเด็กอีกทางหนึ่งด้วย

 
นายพงศ์เทพกล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องการคือการศึกษาที่มีคุณภาพ ที่จะสร้างเด็กในระดับประถมศึกษาให้สามารถเรียนต่อในระดับมัธยมพื้นฐานได้อย่างมั่นคง หรือสามารถเรียนต่อในสายอาชีพ หรือสายอาชีวะได้อย่างภาคภูมิใจ ซึ่งนโยบายดังกล่าวนี้มีการดำเนินการแล้วกว่า 20 ปี ซึ่งหากจะนับสถิติตั้งแต่ปี 2551-2555 จะเห็นได้ว่า ในแต่ละปีจะมีการยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็กไม่ต่ำกว่าปีละประมาณ 100 โรงเรียน ซึ่งนโยบายนี้ถือเป็นโครงการปกติและจะสามารถพัฒนาและยกระดับการศึกษาของประเทศไทยและเยาวชนไทยให้ดีขึ้นกว่าเดิม



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.