ขี่ช้างชมวิว จิบไวน์...ที่ไร่องุ่นหัวหินฮิลล์ฯ
 


ขี่ช้างชมวิว จิบไวน์...ที่ไร่องุ่นหัวหินฮิลล์ฯ


ขี่ช้างชมวิว จิบไวน์...ที่ไร่องุ่นหัวหินฮิลล์ฯ

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสไปพักผ่อนที่ชายหาดหัวหินมา 2 วันกับ 1 คืน ตั้งใจจะไปพักผ่อนอย่างเดียว เพราะเคยเขียนถึงเรื่องราวเกี่ยวกับหัวหินมาเยอะแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรใหม่ๆให้เขียนอีก

ที่ไหนได้ พรรคพวกที่ไปด้วยเขาชวนไป “ขี่ช้าง”...“ชมวิว”...แล้วก็ “จิบไวน์” ที่ไร่องุ่น “หัวหินฮิลล์ วินยาร์ด” ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหัวหินเท่าไรนัก

ได้บรรยากาศที่สดชื่นรื่นรมย์กลับมาฝากแฟนๆซอกแซกอย่างชนิดไม่ตั้งใจเอาไว้ก่อนเลย

คงต้องใช้คำว่า “บ่องตง” ที่ภาษาสมัยใหม่เขาหมายถึง “บอกตรงๆ” ว่า หัวหน้าทีมซอกแซกไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของไร่องุ่นไร่นี้มาก่อนแม้แต่น้อย ทั้งๆที่เขาเปิดมาแล้วเป็นเวลา 10 ปี เพื่อปลูก องุ่นสำหรับป้อนโรงงานไวน์ สยามไวเนอรี่ ซึ่งผลิตไวน์ไทยไปขายต่างประเทศ เป็นที่โจษขาน ในระดับอินเตอร์พอสมควร

แม้แต่ CNN ยังรู้ก่อนเลย เพราะทำข่าวเกี่ยวกับไร่องุ่นทำไวน์ไร่นี้ออกอากาศไปทั่วโลกเมื่อ 3 ปีก่อนโน้น (จากการสืบค้นย้อนหลัง)

ดังนั้น เมื่อเดินทางไปถึงและเห็นภาพความงดงามของอาณาบริเวณอันกว้างขวาง หัวหน้า ทีมจึงรู้สึกประหลาดใจ แบบรู้สึก “อเมซซิ่ง” จนต้องขออนุญาตแซงคิวหยิบมาเขียนก่อนเรื่องอื่นๆ

ช่วงนี้เป็นช่วงที่เขากำลังจัดงานเฉลิมฉลอง 10 ปีของไวน์ไทยยี่ห้อนี้อยู่พอดี และก็ฉลองที่ไร่องุ่นที่ว่านี้แหละ โดยจะมีเชฟดังๆของโรงแรมในกรุงเทพฯ ผลัดกันมาแสดงฝีมือ ที่ห้องอาหารประจำไร่ ทุกๆช่วงสุดสัปดาห์

นี่ก็เป็นข้อมูลที่ไม่ทราบล่วงหน้าอีกเช่นกัน...ไปรู้ไปทราบเมื่อถึงที่โน่นแล้วนั่นแหละ

หัวหน้าทีมซอกแซกและเพื่อนพ้อง (ไม่กล้า บอกว่าเป็นลูกทีม เพราะบิ๊กๆทั้งนั้น) เดินทางไปถึงบ้านคอกช้างพัฒนา ตำบลหนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อันเป็นที่ตั้งของ หัวหินฮิลล์ วินยาร์ด ตอน 5 โมงเศษ ได้เวลาแดดร่มลมตก

ทันทีที่ลงจากรถก็ได้รับการเชื้อเชิญให้ขึ้นไปนั่งพักผ่อนที่อาคารหลังใหญ่ “เดอะศาลา” ที่ออกแบบเป็นห้องอาหารอยู่บนเนินสูง มองลงมาข้างล่างจะเห็นอาณาบริเวณพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ กว้างไกลสุดสายตา รายรอบด้วยเทือกเขาเล็กๆเทือกหนึ่ง

ส่วนหนึ่งของ “เดอะศาลา” ได้รับการตกแต่งให้ดูคลาสสิกและขลังแบบศาลาไทย พร้อมกับวางเรียงขวดไวน์ขนาดและรูปแบบหรือทรงต่างๆของแบรนด์ที่สยามไวเนอรี่ผลิตขึ้น...เพื่อให้แขกเหรื่อได้ชมเป็นตัวอย่าง

โดยจะมีกรอบใส่แผ่นประกาศนียบัตรชื่นชมและภาพถ่ายเหรียญรางวัลที่ไวน์ไทยยี่ห้อนี้ได้รับอยู่ข้างๆเป็นการันตีไว้ด้วยอีกหลายๆ กรอบ...รวมทั้งมีสินค้าที่ระลึกเนื่องในโอกาสฉลอง 10 ปีวางจำหน่ายไว้ด้วยอีกต่างหากจำนวนหนึ่ง

สำหรับตัวโรงงานไวน์จะอยู่ที่สมุทรสาครซึ่งจะรับผลิตผลองุ่นจากไร่นี้โดยตรง และซื้อเสริมเพิ่มเติมจากไร่อื่นๆบ้าง

ฝ่ายต้อนรับกล่าวตอนหนึ่งว่า วินยาร์ดแห่งนี้จะสวยที่สุดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่องุ่นจะดกมาก เป็นพวงระย้าเต็มไร่ไปหมด ต่างกับในช่วงนี้ซึ่งพ้นฤดูเก็บเกี่ยวไปแล้วจึงเหลือผลองุ่นอยู่ไม่มากเท่าไร

“แต่ไหนๆพี่ๆก็มาถึงแล้วพวกเราก็ขออนุญาตเชิญชวนให้ลองนั่งรถเปิดประทุนไปตระเวนดูไร่สักหนึ่งหรือ 2 รอบ แล้วแต่พี่ๆจะมีความประสงค์...ไปเดี๋ยวนี้เลยครับก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน” พนักงานต้อนรับกล่าวสรุป

ปกติที่นี่จะมีบริการท็อปฮิตอีกบริการหนึ่ง ได้แก่ การ “ขี่ช้าง” ชมไร่องุ่นโดยคิดค่าขี่เป็นรอบ รอบละ 20 บาทต่อหนึ่งคน ประมาณ 15 นาที ...เสียดายที่คณะของเราไปถึงเย็นไปหน่อย ได้เวลาที่ช้างจะต้องพักผ่อนแล้วจึงต้องใช้บริการของรถเปิดประทุนแทน (ภาพประกอบวันนี้เป็นภาพตัวอย่างที่หัวหิน วินยาร์ดถ่ายไว้ จะเห็นว่ามีฝรั่งนั่งเอ้เต้อยู่บนหลังช้างทั้ง 2 เชือก)

นอกจากช้างยังมีจักรยานให้เช่าสำหรับปั่นไปรอบๆไร่ ซึ่งในแต่ละวันจะมีนักปั่นมาใช้บริการไม่น้อยเช่นกัน

โดยเฉพาะช่วงวันหยุดหรือวันนักขัตฤกษ์จะมีผู้คนไปเยือนไร่องุ่นแห่งนี้แน่นมาก ทั้งช้าง ทั้งรถเปิดประทุน และจักรยานแทบไม่ว่างเลย ส่วนอาหารทั้งฝรั่งทั้งไทยที่ปรุงขายอยู่บน “เดอะศาลา” ก็ขายดิบขายดีชนิดปรุงแทบไม่ทันเช่นเดียวกัน

สำหรับองุ่นที่เราเห็นรอบๆไร่มีกว่า 20 สายพันธุ์ และที่เป็นสายพันธุ์สำหรับผลิตไวน์โดยตรงก็คือ ชีราซ เชอนิน บลองก์ โคลอมบาร์ด ฯลฯ ที่สามารถปลูกได้ ณ บริเวณนี้ ด้วยคุณภาพใกล้เคียงกับที่ปลูกในต่างประเทศ

เมื่อ 20 ปีก่อนไม่เคยมีใครคาดว่า ที่ดินแถวนี้จะปลูกอะไรขึ้น จนกระทั่งศูนย์วิจัยของโครงการในพระราชดำริ ห้วยทราย สามารถทดลอง ปลูกพันธุ์พืชต่างๆงอกงามเป็นอย่างดี รวมทั้งองุ่นด้วย ทำให้เจ้าของพื้นที่ผืนนี้ หรือ คุณเฉลิม อยู่วิทยา เจ้าพ่อ เรดบูลล์ ตัดสินใจตกแต่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นไร่ปลูกองุ่นนับตั้งแต่นั้นมา

หลังจากตระเวนดูโดยรอบแล้ว คณะของเราก็กลับมาที่เดอะศาลา ซึ่งเริ่มเนืองแน่นไปด้วยฝรั่งมังค่า ทั้งจากแดนไกล และจากกรุงเทพฯ ที่จองดินเนอร์มื้อพิเศษจากเชฟพิเศษ ที่จะมาปรุงอาหารฉลอง 10 ปีดังที่กล่าวไว้

ดูเหมือนจะคิดราคาหัวละ 1,800 บาท ถูกมาก ในสายตาฝรั่ง และเผอิญคืนที่คณะของเราไปรับประทาน มีพระจันทร์แรม 1 คํ่าดวงเบ้อเริ่มลอยมาอยู่ใกล้ๆศาลาเป็นของแถมด้วย มีส่วนทำให้อาหารอร่อยยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าทีเดียวเชียว

เนื้อที่หมดเสียแล้วคงต้องจบในย่อหน้าต่อไปนี่แหละ...ซึ่งก็คงต้องเป็นการบอกกล่าวกันละว่าจะไปที่ไร่องุ่นแห่งนี้ได้อย่างไร

ไปตั้งหลักที่หัวหินกันก่อน แล้วก็หาทางไป วัดห้วยมงคล ซึ่งเป็นวัดที่ประดิษฐาน หลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ที่เรารู้จักกันดี เพราะทางไปไร่จะต้องผ่านทางเข้าวัดพอดีเป๊ะ ไปถึงที่นั่นแล้วจะมีป้ายบอกไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง

ขัดข้องอย่างไรโทรศัพท์ไปที่ 08–1701– 0222 หรือที่แฟกซ์ 08–1376–1474 หรือคลิกดูแผนที่ในเว็บ www.huahinhillsvineyard.com ก่อนก็ยังได้...ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครหลงหรอกครับ โดยเฉพาะเสาร์–อาทิตย์ มีคนแวะไปเป็นพันทุกสัปดาห์ แสดงว่าต้องหาง่ายไปง่ายแน่นอนถึงได้แน่นขนัดปานนั้น.

 

“ซูม”



// //

Copyright (c) 2010 munjeed.com All rights reserved.